เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวหนึ่งซึ่งอาจจะไม่ถึงเป็นข่าวใหญ่ แต่เป็นข่าวที่เห็นแล้วน่าสนใจไม่น้อย…
นั่นคือเรื่องที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ประกาศเปิดช่องทางให้ทีมในลีกอาชีพแดนผู้ดี สามารถเซ็นสัญญาและขึ้นทะเบียนนักเตะต่างชาติ ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การขอใบอนุญาตทำงาน หรือ “เวิร์ก เพอร์มิต” มาร่วมทีมได้
ที่ผ่านมา ไอ้คำว่า “เวิร์ก เพอร์มิต” คือสิ่งที่เป็นกำแพงอันแน่นหนาที่ทำให้ฝันของนักเตะไทยที่อยากไปเล่นในลีกอังกฤษ ไม่เคยใกล้เคียงกับการเป็นความจริง เพราะเกณฑ์มันสูงจนเกินเอื้อมถึง
เอาแค่เกณฑ์แรกที่ทีมชาติต้องอยู่ในท็อป 50 ของโลกก็เลิกคุยแล้ว เราไม่เคยได้ใกล้เคียงกับการไปอยู่แถว ๆ นั้นมานานแล้ว หลังจากเคยขึ้นไปอยู่อันดับ 43 ของโลกเมื่อปี 2541 ในยุคของ ปีเตอร์ วิธ นับนิ้วก็เกิน 20 ปีแล้ว
และหากดูภาพปัจจุบันแทบไม่เห็นวี่แววจะได้กลับไปอยู่แถว ๆ นั้น ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องจำนวนเกมที่ต้องลงเล่นไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ พูดง่าย ๆ คือไปก็ได้แค่ซ้อม แต่ไม่มีสิทธิ์ได้ขึ้นทะเบียนลงเล่น
แต่การที่ล่าสุด เอฟเอ ยืนยันว่าจะเปิดไฟเขียวให้ทีมในพรีเมียร์ลีก กับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เซ็นแข้งต่างชาติที่ไม่ผ่านเกณฑ์ เวิร์ก เพอร์มิต ได้ 4 คน และ ลีก วัน กับ ลีก ทู ได้ 2 คน มันเป็นการทลายกำแพงที่ขวางทางนักเตะไทยมานาน
ถ้าดูตอนนี้คนที่มีโอกาสมากที่สุดย่อมไม่พ้น “เจ้าแบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าดาวรุ่งของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทย ที่เคยไปซ้อมอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี และมีข่าวว่า “จิ้งจอกสยาม” จับเซ็นสัญญาไปแล้ว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เลสเตอร์ เพิ่งแต่งตั้งกุนซือใหม่ นั่นคือ เอ็นโซ มาเรสกา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานของ เปป กวาร์ดิโอลา ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ภายใต้ภารกิจในการพา “จิ้งจอกสยาม” กลับขึ้นสู่ลีกสูงสุด หมายความว่าทุกอย่างต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ และตอนนี้ยังไม่รู้ว่านายใหญ่คนใหม่แห่งถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม จะเอายังไงกับ “เจ้าแบงค์”?
ขณะเดียวกัน สำหรับนักเตะไทยทุกคนที่ฝันอยากไปเล่นในลีกอังกฤษ แม้ตอนนี้ถนนสู่เป้าหมายจะไร้อุปสรรคขวาง แต่การไปถึงจุดนั้นมันก็ไม่ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม หากต้องการให้เขาเหลียวมามอง ยังไงเราก็ยังต้องพัฒนาฝีเท้าให้ขึ้นไปอยู่ในระดับที่เขาต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ๆ ไม่นับปัจจัยอีกสารพัดที่จะทำให้เขาไม่คิดจะมองเรา
แต่ในเมื่อทางมันไปง่ายขึ้น ยังไงก็ต้องสู้กันสักตั้ง และหวังว่าสักวันเราจะได้เห็นนักเตะไทยลงเล่นในลีกแดนผู้ดี…
ผยองเดช
