ไม่ว่า คริสเตียโน โรนัลโด จะได้ประเดิมสนาม (ครั้งที่ 2) ให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีกกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในวันเสาร์นี้หรือไม่ หรือว่าจะได้ลงเล่นเป็นเกมแรกในการกลับมาครั้งนี้ในเกมใด

นี่ก็ถือเป็นเกมน่าสนใจอย่างยิ่ง และมีแฟนบอลรอดูมากที่สุดในโลก

แน่นอน “แฟนผี” ย่อมหวังว่า “พี่โด้” ในวัย 36 ปี จะทำผลงาน “สุดปัง” เหมือนช่วงแรกที่อยู่กับทีม แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอน เพราะพรีเมียร์ลีกวันนี้ แตกต่างจากพรีเมียร์ลีกที่ โรนัลโด จากไปเมื่อ 12 ปีก่อนอย่างสิ้นเชิง

ถ้าดูกันจริงๆ ฟอร์มของ โรนัลโด และผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วง 4-5 เกมหลังจากนี้ ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะหลังจากนี้ มีแต่งานหนักรออยู่

หลังเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กับ สาลิกาดง ในวันเสาร์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องไปเยือน ยังบอยส์ ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ก่อนกลับมาเตะกับ เวสต์แฮม 2 นัดติด ในเกมลีก และคาราบาว คัพ

จากนั้นจะพบ แอสตัน วิลลลา ต่อด้วยรับมือ บียาร์รีล ในบอลยุโรป ก่อนเบรกทีมชาติรอบหน้า

เรียกว่าแทบไม่ได้หายใจหายคอ

ที่หนักกว่านั้น ก็คือ โปรแกรมหลังเกมทีมชาติรอบหน้า เพราะพวกเขาต้องเจอ เอฟเวอร์ตัน, เลสเตอร์, ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส ในลีก ขณะที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องรับมือ อตาลันตา

กลับมารอบนี้ จึงต้องพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่า ฟอร์มของ โรนัลโด จะมีส่วนอย่างมาก

วันนี้ เราจึงจะพาไปดูว่า “การเริ่มต้นใหม่” ของ โรนัลโด กับแต่ละสโมสรที่ผ่านนั้น “ปัง” แค่ไหน และพอจะทำให้แฟนผีสบายอกสบายใจได้หรือไม่?

                              +++++++++++++++++++++

สปอร์ตติง ลิสบอน (2002-2003)

โรนัลโด ได้รับการโปรโมทขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ สปอร์ติง ตั้งแต่อายุแค่ 16 ปี ก่อนได้ประเดิมสนามในอีก 1 ปีต่อมา ในเกมพรีเมียร์รา ลีกา ที่พบกับ บรากา ซึ่งเขาลงเล่นเป็นตัวสำรอง

ผลคือ สปอร์ติง แพ้ บรากา 2-4

การลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกคือเกมนัดต่อมากับ โมไรเรนเซ และมันก็เป็นเกมที่ต้องจดจำไปตลอดชีวิต เพราะ “หนูโด้” ทำ 2 ประตู ช่วยทีมชนะ 3-0

2 สัปดาห์ต่อมา โรนัลโด ทำประตูชัยในนาทีที่ 88 ช่วยให้ สปอร์ติง ชนะ เบาวิสตา 2-0 แต่ยิงไม่ได้อีกเลยในช่วงที่เหลือของฤดูกาล

ก่อนจบฤดูกาลแรก ด้วยผลงาน 5 ประตู 5 แอสซิสต์

                              +++++++++++++++++++++

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2003-2004)

หลังจากที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำการปาดหน้าเค้ก ตัดหน้า อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล คว้าตัว โรนัลโด มาร่วมทีม นักเตะเจ้าของฉายา “สับสยอง” ในตอนนั้น ก็ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ทันที ในฤดูกาล 2003-2004

นับตั้งแต่นาทีแรกที่ประเดิมสนาม “เร้ด เดวิลส์” ทั่วโลก ก็ได้ตื่นตะลึงกับลีลา ความสามารถ และพลังงานอันล้นเหลือของเจ้าตัว

แต่กว่าที่ โรนัลโด จะเข้ามามีส่วนกับทีมอย่างแท้จริง ก็ปาเข้าไปเกมที่ 9 ของชีวิตการเล่นพรีเมียร์ลีก เมื่อเขาทำ 1 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ช่วยทีมชนะ ปอร์ตสมัธ 3-0

เมื่อเริ่มปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษ และปรับชีวิตให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ ฟอร์มของ โรนัลโด ก็แจ่มจรัสขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเอฟเอ คัพ ที่เขาทำ 2 ประตู กับ 4 แอสซิสต์

1 ใน 2 ประตูนั้น เกิดขึ้นในเกมรอบชิงชนะเลิศกับ มิลล์วอลล์ ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3-0 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 11 ของสโมสร

ก่อนที่ โรนัลโด จะจบฤดูกาลนั้นด้วยผลงาน 6 ประตู 9 แอสซิสต์ ในทุกรายการ

ผีแดง ไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนั้น แต่หลังจากนั้น โรนัลโด พาทีมคว้าแชมป์ลีก 3 ครั้ง, แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง, ลีก คัพ 2 ครั้ง, คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 ครั้ง และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 1 ครั้ง

                              +++++++++++++++++++++

รีล มาดริด (2009-2010)

โรนัลโด ถูกคาดหวังสูงมากตอนย้ายทีมสะท้านโลกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ รีล มาดริด

แต่ 5 ประตู ในลา ลีกา 4 เกมแรก พร้อมกับพาทีมชนะรวด 5 นัด ก็แทบจะทำให้ความกดดันสูญสลาหายไปเกือบหมด

กระนั้น อาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า คือสิ่งเข้ามารบกวนหลังจากนั้น และราชันชุดขาว ก็แพ้ตั้งแต่เกมแรกที่ โรนัลโด ไม่ได้ลงสนาม

เหลือเชื่อว่า สถิติไม่ยิงประตูติดต่อกันยาวนานที่สุดของ โรนัลโด ในฤดูกาลนั้นคือแค่ 3 เกม ก่อนจบแคมเปญด้วยผลงาน 26 ประตู

เขายังทำ 7 ประตู ในแชมเปี้ยนส์ ลีก และจัดเบาๆ 11 แอสซิสต์ในทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนั้น ไม่มีแชมป์ติดมือสำหรับ โรนัลโด และ รีล มาดริด แต่ 2009-2010 คือฤดูกาลแรกที่ดีที่สุดในชีวิตของ โรนัลโด กับทุกทีม

                              +++++++++++++++++++++

ยูเวนตุส (2018-2019)

ไม่มีประตูแรก ในเกมประเดิมสนาม ในเซเรีย อา เมื่อปีค.ศ. 2018

โรนัลโด ต้องรอจนถึงเกมที่ 4 กว่าจะคลำตาข่ายเจอ แต่ก็ทำ 2 ประตู ช่วยทีมม้าลายชนะ ซัสซูโอโล ซึ่งเป็น 2 ประตูที่ทำให้ทีมเฉือนชนะ 2-1

หลังจากนั้น โรนัลโด ติดเครื่อง และกระหน่ำไป 7 ประตู 4 แอสซิสต์ ใน 10 เกมแรก พร้อมช่วยให้ ยูเวนตุส ไม่แพ้ใครจนกระทั่งเดือนมี.ค. และจบฤดูกาลด้วยการแพ้แค่ 3 เกม

โรนัลโด ปิดฉากฤดูกาลแรกในอิตาลี ด้วยผลงาน 21 ประตูในลีก และ 28 ประตูในทุกรายการ อีกยังมีอีก 11 แอสซิสต์

ยูเวนตุส ได้แชมป์เซเรีย อา และ ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา ในปีนั้น

แต่ชวดแชมป์โคปา อิตาเลีย และจอดแค่รอบ 8 ทีมในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก.