1). อาร์เซนอล พกพาความกดดันตั้งแต่ก่อนแข่ง หลังออกสตาร์ต 3 นัดแรกเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยผลงาน 0 ประตู 0 แต้ม รั้งอันดับ 20 เจอกับนอริชที่แย่พอกัน กดดันผสมเครียดกันตั้งแต่นักเตะยันแฟนบอล จะเกิดอะไรขึ้นถ้าแพ้ 4 นัดรวด?

2). มิเกล อาร์เตตา ยังคงวางแผนหลัง 4 เหมือนเคย แต่เปลี่ยน 7 ตำแหน่งจากนัดแพ้แมนฯ ซิตี 5-0 มีเพียง คีแรน เทียร์นีย์, บูกาโย ซากา, มาร์ติน โอเดการ์ด, ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ที่ยังยึดตำแหน่งตัวจริงไว้ได้

3). นี่คือ 11 คนแรกที่อายุน้อยมาก ไล่เรียงจาก แอรอน แรมส์เดล (23) ทาเคฮิโร โทมิยาสึ (22) เบน ไวท์ (23) กาเบรียล มากัลเญส (23) คีแรน เทียร์นีย์ (24) แซมบี โลกองกา (21) เอนส์ลีย์ เมทแลนด์ ไนลส์ (24) บูกาโย ซากา (20) มาร์ติน โอเดการ์ด (22) นิโคลาส์ เปเป (26) โอบาเมยอง (32)

4). อาร์เซนอล เดินหน้าบุกใส่ตั้งแต่เขี่ยลูก ต้องการทำประตูแรกให้เร็วที่สุด บุกเยอะกว่า แต่จะแจ้งไม่มาก และก็เกือบเสียประตู โดยเฉพาะจังหวะที่เคนนี แม็คคลีนโหม่งออกไปนิดเดียว

5). โทมิยาสึ เพิ่งย้ายมา แต่เปิดตัวอลังการ เล่นดีมาก เป็นชาวเอเชียแต่รูปร่างไม่ต่างจากชาวยุโรป ทั้งยังขยัน พลังล้นเหลือ คึกคัก เกือบยิงประตูได้ด้วย เล่นไม่จบเกม (อาร์เตตา บอกว่าเป็นตะคริว) แต่แฟนๆ ชื่นชมมาก เล่นได้ใจจริงๆ

6). ครึ่งหลัง “ปืนใหญ่” ยังบุกแหลก ในที่สุดประตูแรกที่รอคอยก็มาถึงจนได้จากลูกยิงชนเสาของเปเป้ก่อนที่โอบาชาร์จหลาเดียวเข้าประตู ยิงเสร็จลุ้นต่อว่าล้ำหน้าหรือไม่ โชคดีที่ไม่ล้ำแต่ระหว่างนั้นเชื่อว่าแฟนปืนลุ้นกันตัวเกร็ง

7). ช่วงเวลาที่เหลือ นอริช ต้องบุกมากขึ้นทำให้เรามีโอกาสอีกหลายครั้งทั้งจากซากา, สมิธ โรว์, โอบา แต่ไม่ผ่านมือของทิม ครูล ชนะเม็ดเดียวแต่เป็นเม็ดเดียวที่สำคัญมากต่อความมั่นใจ เป่าปากโล่งอกไปตามๆ กัน

8). รูปเกมมีโอกาสยิง 30 ครั้ง ครองบอลมากกว่าที่ 52% แต่อาร์เซนอลยังไม่ได้เล่นดีที่สุด เข้าใจว่านักเตะเองก็กดดัน มันยังมีปัญหาอะไรอีกเยอะที่ต้องแก้กันต่อ เช่น เปเป้ ยังไม่คุ้มค่าตัว 70 ล้านปอนด์ จับบอลเสียบ้าง เลี้ยงติดคู่แข่งง่ายๆ บ้าง เปิดบอลจากด้านข้างไม่ดี แถมเปิดช้าจนติดแบรนดอน วิลเลียมส์อยู่หลายหน จังหวะเกมรับก็ยังต้องจูนกันอีกเยอะ โดนบุกทีก็เหมือนจะโดนที หวาดเสียวไปหมด

9). โธมัส ปาร์เตย์ ลงมาทำให้กลางดูดีขึ้น ภาวนาว่าอย่าเจ็บบ่อย สมิธ-โรว์ ลงมาก็ทำให้เกมบุกเพิ่มมิติ โอเดการ์ด เซ้นส์วางบอลดี แถมยังขยันช่วยไล่เพรสและขยันช่วยเกมรับได้หลายครั้ง แต่พอมีโอกาสยิงประตูยังเก้ๆ กังๆ

10). ทีมที่อายุน้อยๆ ได้ข้อดีเรื่องความสด แต่ที่อาจหายไปคือเรื่องความเก๋า ความเขี้ยว ไม่ว่าจะตัดเกม หรือลูกฉวยโอกาสต่างๆ 2 ปีที่ผ่านมา เดวิด ลุยซ์ แม้พลาดบ้างแต่ความเก๋าของเขาก็ช่วยทีมได้หลายครั้ง แต่ทีมชุดนี้บอกตรงๆ ว่ากองหลังตัวกลางไม่น่าไว้ใจ ยิ่งสำรองอย่าง ร็อบ โฮลดิ้ง, ปาโบล มารี พร้อมจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งเสมอ

11). ถ้าวัดกันแค่ 4 เกมที่ผ่านมา บอลทรงนี้มันไม่ต่างจากระเบิดเวลาที่ยังไงมันก็ต้องพัง แต่ความจริงคือฟุตบอลมันไม่มีทางเล่นได้เหมือนเดิมทั้ง 38 นัด มีอยู่ 2 อย่าง ไม่ดีขึ้น ก็อาจเลวลง ดังนั้นจากนี้จะเป็นบทพิสูจน์ฝีมืออาร์เตตา ว่าจะทำให้ดีขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ แต่ถ้ายังได้แค่นี้ โดนปลดก่อนสิ้นปีนี้แน่นอน.

เฮียเอง