ก่อนหน้าพาที่จะพาลูกทีมบุกไปเยือน ยัง บอยส์ ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โอเล กุนนาร์ โซลชา ประกาศเอาไว้ว่า เพลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่งพอจะเดินหน้าลุ้นแชมป์ทุกรายการแล้วนะครับ

                แถมยังคุยด้วยว่า ตัวเขาวางแผนสร้างทีมชุดนี้มาตั้งแต่เข้ามารับงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อ 3 ปีก่อน และสุกงอมได้ที่เมื่อได้ 3 จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญอย่าง ราฟาแอล วาราน, เจดอน ซานโช และคริสเตียโน โรนัลโด เข้ามาเติมเต็ม

                ได้ยินแบบนี้ไม่ว่าใครที่เป็นแฟนบอลของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันก็ต้องรู้สึกฮึกเหิมพลางคิดในใจว่า “ปีนี้โค้ชกูแม่งเอาโว้ย”

                ทว่าตดยังไม่ทันหายเหม็น เด็กผีทั้งหลายโดยเฉพาะพวกที่ไม่ใช่สายโลกสวยก็ต้องกลับมาละเหี่ยใจกับผลงานของ กุนซือชาวนอร์เวย์ อีกครั้ง หลังพา เรด เดวิลส์ บุกไปพบความบรรลัยที่ สตาดิโอน วานค์ดอร์ฟ ชนิดไม่มีใครกล้าคิดว่าจะเกิดขึ้นได้

                เกมนี้ โซลชา จัดตัวโดนใจเด็กผีด้วยการส่ง ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ลงมายืนเป็นมิดฟิลด์คู่กลางคู่กับ เฟร็ด โดยมี ปอล ป็อกบา, บรูโน แฟร์นันด์ส และเจดอน ซานโช ที่โยกมาเล่นทางฝั่งขวาตามธรรมชาติ เดินเกมรุก ขณะที่ โรนัลโด ปักหลักเป็นหอกเป้า

                ส่วนแนวรับปรับหนึ่งตำแหน่งโดยส่งลูกรักอย่าง วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ แม็กไกวร์

                เกมผ่านไปเพียง 13 นาที ทุกอย่างทำท่าจะไปได้สวย เมื่อ บรูโน แฟร์นันด์ส ดีดไซด์ก้อยให้ โรนัลโด ชาร์จลอดขานายทวารเจ้าถิ่นเป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ให้พลพรรคอสูรแดงได้เริงร่าอย่างรวดเร็วทันใจ

                กระทั่งนาทีที่ 35 จุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อ อารอน วาน-บิสซากา ทะเล่อทะล่าไปเปิดปุ่มย่ำใส่ข้อเท้า คริสโตเฟอร์ มาร์ติน มิดฟิลด์เจ้าถิ่น จนโดนใบแดง และทำให้ทีมเหลือตัวผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ไม่ทันจบครึ่งแรก

                หลัง ไอ้แมงมุม โดนตะเพิด โซลชา จึงจำเป็นต้องถอดตัวรุกอย่าง ซานโช ออก และส่ง ดีโอโก ดาโลต์ ลงมาเล่นในตำแหน่งแบ๊กขวาแทน ซึ่งก็ถือว่าถูกต้องตามตำราทุกประการ

                ทว่าความวิบัติมาเริ่มต้นในครึ่งหลัง เมื่ออีน้าแกดันปอดแหกปรับไปยืนระบบหลัง 5 ย้ำนะครับว่าหลัง 5 ด้วยการถอด ฟาน เดอ เบ็ค ไปพัก และใส่ วาราน ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ลินเดเลิฟ และแม็กไกวร์ พร้อมกำชับให้ ดาโลต์ และลุค ชอว์ แถวมาอยู่ในระนาบเดียวกันโดยไม่ต้องดันขึ้นสูงอีกต่างหาก

                หมากนี้ทำให้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นอัมพาตไปทันที แถมยังเป็นการเชิญชวนให้ ยัง บอยส์ บุกกระหน่ำเข้าใส่ได้โดยสะดวกอีกต่างหาก

                เข้าใจครับว่า เมื่อเหลือผู้เล่น 10 คน แถมสกอร์ยังนำอยู่ 1-0 อย่างไรเสียก็ต้องเพลย์เซฟไว้ก่อน

                แต่เมื่อดูจากชื่อชั้นของนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหนือกว่าบานเบอะ การงัดแผน พาร์ก เดอะ บัส มาใช้จึงถือว่า เป็นอะไรที่ปอดแหกเกินกว่าเหตุ เพราะนี่คือ ยัง บอยส์ ไม่ใช่ ลิเวอร์พูล หรือ เปแอสเช สักหน่อย

สุดท้ายความความปอดแหกของ โซลชา ก็นำมาซึ่งวายป่วงกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามคาด หลังแนวรับ 5 ประสานต้านเกมรุกของ ยัง บอยส์ ไม่อยู่ และเสียประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 66

ถึงตรงนี้แทนที่ โซลชา จะปรับหมากด้วยการถอดกองหลังออกสักคน และส่งมิดฟิลด์ หรือ กองหน้าลงมาแทนเพื่อตอบโต้ ยัง บอยส์ ที่กำลังย่ามใจสุดขีดบ้าง แต่เขากลับเลือกถอด โรนัลโด ออกจากสนาม และส่ง เจสซี ลินการ์ด ลงมาแทนเสียอย่างนั้น

เมื่อไม่มี โรนัลโด สักคน คราวนี้ ยัง บอยส์ ก็สบายสิครับเพราะกองหลังสามารถลอยขึ้นไปช่วยเกมรุกได้เต็มที่ โดยไม่ต้องพะวงอะไรอีกแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เดวิด วากเนอร์ กุนซือเจ้าถิ่น ก็ยังโชว์กึ๋น และความใจถึงพึ่งได้ด้วยการอัดกองหน้าลงมาเพิ่มเพื่อวัดให้มันได้เสียไปเลยอีกต่างหาก

สุดท้ายหมากเปิดหน้าแลกของ วากเนอร์ ก็ได้ผลจริงๆ เมื่อ ทีมดังจากแดนนาฬิกา มาได้ประตูชัย 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากจังหวะที่ ลินการ์ด ส่งบอลคืนหลังแบบไม่ดูตาม้าตาเรือจนถูก ธีโอสัน จอร์แดน ซีบัตชิว ฉกไปซัดผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปตุงตาข่ายอย่างน่าเขกกะโหลก

นี่เป็นอีกครั้งแล้วนะครับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องพบกับหายนะจากการวางแท็กติกแบบป๊อด ๆ ของ โซลชา และทีมงาน รวมทั้งเป็นอีกครั้งที่ “เพชฌฆาตหน้าทารก”  ทำตัวไม่เหมาะสมกับการนั่งแท่นในตำแหน่งกุนซือของทีมใหญ่ระดับปิศาจแดง ซึ่งต้องการคนที่มีความกล้าได้กล้าเสีย และมีฝีมือทัดเทียมกับกุนซือของทีมคู่แข่งในระนาบเดียวกันเหมือนกับที่ ลิเวอร์พูล มี เจอร์เกน คลอปป์, เชลซี มี โธมัส ทูเคิล หรือ แมนฯ ซิตี เปป กวาร์ดิโอลา

กระนั้นไม่ว่าจะพล่ามบ่นจนปากเปียกปากแฉะอย่างไรสุดท้ายเช้าวันรุ่งขึ้นเด็กผีทุกคนก็ต้องตื่นมา และก้มหน้ายอมรับความเป็นจริงว่า โซลชา จะยังคงนั่งลอยหน้าในตำแหน่งพ่อใหญ่แห่ง “โรงละครแห่งความฝัน” เหมือนเดิม ทั้งที่ตอนนี้มีเฮดโค้ชฝีมือดีว่างงานอยู่ถึง 2 รายทั้ง อันโตนิโอ คอนเต และซีเนดีน ซีดาน ก็ตาม

แท ยอน