แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทุนควักเงินก้อนโตถึง 72 ล้านปอนด์เพื่อกระชาก ราสมุส ฮอยลุนด์ หัวหอกดาวรุ่งชาวเมืองโคนม มาจาก อตาลันตา โดยหวังใจว่า หมอนี่จะเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับการแก้ปัญหาในแนวรุก

อย่างไรก็ตาม หลังจากลงสนามในพรีเมียร์ลีกไป 13 นัด ฮอยลุนด์ กลับยังคลำเป้าไม่เจอแม้แต่ครั้งเดียว

เอริค เทน ฮาก อาจจะแย้งว่า ดาวยิงวัย 20 ปี ทำผลงานได้ไม่ขี้เหร่ หากมองจากการกดไปถึง 5 ประตูในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ทว่าหากเจาะให้ลึกลงไปจะเห็นว่า 4 จาก 5 ประตูของ ฮอยลุนด์ เกิดขึ้นในเกมกับทีมที่ถูกมองว่า ชื่อชั้นเป็นรอง แมนฯ ยูไนเต็ด เยอะอย่าง กาลาตาซาราย และ โคเปนเฮเกน แถม ผีแดง ยังกล้า ๆ ปราชัยในทั้ง 2 นัดอีกต่างหาก

แน่นอนว่า การเซ็นสัญญากับ ฮอยลุนด์ จะนับว่า เป็นการเซ็นสัญญาที่ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ต้องวัดกันที่ผลงานในพรีเมียร์ลีก และวันนี้เราจะไปเจาะลึกกันว่า ปัญหาของ ฮอยลุนด์ อยู่ตรงไหน และเพราะอะไรเขาจึงยังเบิกสกอร์แรกของตัวเองในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไม่ได้เสียที…

จังหวะปิดบัญชีที่ยังไม่เด็ดขาดพอ

อ้างอิงจากสถิติของ Opta ฮอยลุนด์ คือนักเตะที่พลาดโอกาสแบบจะแจ้งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ โดยตัวเลขอยู่ที่ 9 ครั้ง

ขณะที่ไม่มีนักเตะคนไหนที่พลาดโอกาสทองเกิน 2 ครั้งโดยยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียวในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ ยกเว้นแค่ ฮอยลุนด์ เท่านั้น

ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 ที่สังเวียน แอนฟิลด์ ฮอยลุนด์ มีโอกาสหลุดไปดวลตัวต่อตัวกับ อลิสซง เบ็คเกอร์ หนึ่งครั้ง แต่กลับซัดบอลไปตรงตัว มือกาวหงส์แดง และทำให้ เรด เดวิลส์ พลาดโอกาสคว้าชัยเหรืออริตัวเอ้อย่างน่าเสียดาย

นอกจากนี้ยังมีการบันทึกสถิติเอาไว้ว่า ฮอยลุนด์ เป็นกองหน้าที่ได้สัมผัสบอลน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีก โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 26.9 ครั้งต่อเกมเท่านั้น (นับเฉพาะนักเตะที่ลงเล่นเกิน 800 นาที) ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าตัวจะแทบไม่มีโอกาสสับไกเลยในการลงสนามแต่ละนัด

แต่เรื่องที่ดูเหมือนตลกร้ายก็คือนักเตะที่ได้สัมผสบอลต่อเกมน้อยที่สุดดันเป็น เออร์ลิง ฮาลันด์ หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่นำเป็นดาวยิงสูงสุดของพรีเมียร์ลีกอยู่ในเวลานี้ โดยได้สัมผัสบอลเฉลี่ย 22.3 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

กระนั้นแม้จะได้สัมผัสบอลน้อยกว่า แต่ส่วนใหญ่ ฮาลันด์ จะได้บอลในกรอบเขตโทษ ส่วน ฮอยลุนด์ มักจะได้บอลขณะอยู่ห่างจากกรอบเขตโทษคู่แข่งไกลลิบ ซึ่งเรื่องนี้สามารถตอบคำถามของเราได้เป็นอย่างดีว่า เพราะอะไร ฮาลันด์ ที่ได้บอลน้อยกว่าจึงมีโอกาสยิงประตูมากกว่า ฮอยลุนด์

ขาดการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีม

ฮอยลุนด์ แสดงให้เห็นมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า เป็นกองหน้าที่เคลื่อนที่ได้อย่างชาญฉลาด แถมยังมีทั้งความเร็ว และความแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม แม้จะขยันวิ่งสอดส่ายเพื่อพาตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งที่เอื้อต่อการกระทุ้งตาข่ายมากแค่ไหน แต่ ฮอยลุนด์ กลับยังแทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสบอลในกรอบเขตโทษของคู่แข่งเลย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในการสร้างสรรค์โอกาสให้กองหน้าตัวเป้าของพวกเขามากแค่ไหน

อเลฮานโดร การ์นาโช ที่เบียด มาร์คัส แรชฟอร์ด ขึ้นมายึดตัวจริงในตำแหน่งหน้าซ้ายได้สำเร็จ และ อันโตนี ปีกขวาเลือดแซมบ้า ต่างไม่ใช่ตัวเปิดป้อนในฝันสำหรับ กองหน้าตัวเป้า

สถิติบันทึกเอาไว้ว่า การ์นาโช คือนักเตะที่สับไกยิงประตูมากที่สุด (นับเฉพาะนักเตะที่ลงเล่น 800 นาที หรือ มากกว่าในซีซั่นนี้) เป็นอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีก โดยเป็นรองแค่ ฮาลันด์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ของ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

ที่สำคัญก็คือ ฮอยลุนด์ ได้รับบอลจาก การ์นาโช แค่ 5 ครั้งเท่านั้นจากการลงเล่นร่วมกันถึง 7 ชั่วโมง

ส่วน อันโตนี แม้จะจ่ายบอลให้ ฮอยลุนด์ ไป 3 ครั้งในเกมเสมอ ลิเวอร์พูล แต่ตลอดช่วงเวลา 5 ชั่วโมงครึ่งที่ทั้งคู่ได้ลงสนามร่วมกันก่อนหน้านั้น ปีกเลือดแซมบ้า จ่ายบอลให้ น้องฮอย แค่ 2 หนถ้วน!

แม้กระทั่งฟูลแบ๊กอย่าง ดีโอโก ดาโลต์ ก็ยังมองไม่เห็นหัว ฮอยลุนด์ โดยเฉพาะในครึ่งหลังของเกมแพ้ บอร์นมัธ คาบ้านที่ แบ๊กขวาทีมชาติโปรตุเกส ไม่ยอมตบบอลเข้ากลางให้ ฮอยลุนด์ ที่พุ่งชาร์จเข้าไปในกรอบ 6 หลา แต่กลับเลือกยิงออกข้างไปเองเสียอย่างนั้น

เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ เทน ฮาก ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนหากหวังจะเค้นเอาสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากตัวของ ฮอยลุนด์ ให้ได้เพราะขืนยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ต่อให้เป็นโคตรดาวยิงอย่าง ฮาลันด์ หรือ แฮร์รี เคน ก็คงมีโอกาสจะกลายเป็นมือปืนเป้าสะอาดได้เช่นกัน.

แท ยอน