นาย ก. มีความประสงค์จะขายหุ้นบริษัทซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ประเทศสิงคโปร์ ให้แก่บริษัทในประเทศสิงคโปร์ ในราคาเท่ากับราคาทุนที่ซื้อมา ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ จึงได้หารือว่า กรณีบุคคลธรรมดาขายหุ้นในราคาเท่ากับราคาทุนที่ซื้อมา และได้รับเงินจริงตาม ราคาที่ขาย โดยไม่มีกำไรจากการขายหุ้น ถือว่าไม่มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ช) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการขายหุ้นให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่ในประเทศไทย หรือผู้ซื้อที่อยู่ต่างประเทศก็ตาม และไม่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ที่คำนวณจากผลต่างระหว่างราคาตลาดในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ ณ วันที่ซื้อขายกับ ราคาจริงที่ขาย ถูกต้องหรือไม่


กรมสรรพากรได้วางแนวทางปฏิบัติตามคำวินิจฉัยข้อหารือเลขที่ กค 0702/ 8383 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2552 เรื่อง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการขายหุ้นในราคาทุน ดังนี้


“กรณีบุคคลธรรมดาขายหุ้นในราคาเท่ากับราคาทุนที่ซื้อมา ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด เป็นการโอนหุ้นไปใน ราคาเท่ากับที่ลงทุน และไม่มีผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้นเฉพาะ ซึ่งตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุนตามมาตรา 40 (4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้ไม่ต้องนำเงินจากการขายหุ้นดังกล่าว มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้”

ทั้งนี้ เนื่องจากตามประมวลรัษฎากรมิได้บัญญัติให้อำนาจเจ้าพนักง่านประเมินในอันที่จะประเมินเงินได้พึงประเมินเพิ่มขึ้น ให้เป็นไปตามราคาตลาด ณ วันที่เกิดกิจกรรม ดังเช่นกรณีเงื่อนไขเกี่ยวกับรายได้ในทางภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร แม้จะได้กำหนดให้นำตามมาตรา 65 ทวิ และมาตรา 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร มาใช้บังคับโดยอนุโลม ก็เป็นเฉพาะการคำนวณต้นทุนและค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและสมควรเท่านั้นมิได้เกี่ยวกับประเด็นทางด้านรายได้แต่อย่างใด.