ปี 2023 เป็นอีกหนึ่งขวบปีที่เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในวงการกีฬาโลกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเกิดของดาวดวงใหม่ หรือ การสร้างสถิติที่อีก 100 ปี ก็ไม่รู้จะมีใครสามารถทุบลงได้หรือไม่
เดือนมกราคม โนวัค ยอโควิช ยอดนักหวดชาวเซิร์บ ประเดิมซีซั่นใหม่อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์เทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น มาครองเป็นสมัยที่ 10 และนับเป็นการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมเป็นรายการที่ 22 ส่วนประเภทหญิงเดี่ยวแชมป์ตกเป็นของ อารีนา ซาบาเลนกา จากเบลารุส
เดือนกุมภาพันธ์ ทอม เบรดี สุดยอดควอเตอร์แบ๊กแห่งวงการอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอล ประกาศรีไทร์รอบ 2 โดยหนนี้เจ้าตัวยืนยันว่า จะไม่มีการคัมแบ๊กอีกแล้ว ขณะที่ แพทริก มาโฮมส์ พา แคสซัส ซิตี ชีฟส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ลครั้งที่ 57 ด้วยการล้ม ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ 38-35
ด้าน เลอบรอน เจมส์ ซุปตาร์ของ แอลเอ เลเกอร์ส ทุบสถิติทำแต้มสูงสุดตลอดกาล 38,387 คะแนนของ คารีม อับดุล-จาบบาร์ และก้าวขึ้นมาเป็นผู้ทำสกอร์สูงสุดตลอดกาลคนใหม่ของเอ็นบีเอ
ส่วน รีล มาดริด คว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรโลก “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2022” มาครองด้วยการคว่ำ อัล ฮิลาล 5-3 ในรอบชิงชนะเลิศ พร้อมสร้างสถิติคว้าแชมป์มากที่สุด 5 สมัย
เดือนมีนาคม ญี่ปุ่น คว้าแชมป์เบสบอล เวิลด์ เบสบอล คลาสสิก 2023 โดย โชเฮ โอตานิ คว้าตำแหน่งเอ็มวีพี
เดือนเมษายน จอน ราห์ม ยอดโปรจากสเปน ผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟ เดอะ มาสเตอร์ส มาครองได้เป็นสมัยแรก ขณะที่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เทรด แอรอน ร็อดเจอร์ส จอมทัพคนดังไปให้กับ นิวยอร์ก เจ็ตส์
เดือนพฤษภาคม แมนเชสเตอร์ ซิตี ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ด้วยการผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก มาครองเป็นสมัยที่ 5 ในรอบ 6 ปี
เดือนมิถุนายน แมนฯ ซิตี ล้ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ในรอบชิงดำเอฟเอ คัพ ก่อนจะก้าวไปหยิบถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการเชือด อินเตอร์ มิลาน 1-0 ในรอบชิงฯ พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมที่ 2 จากอังกฤษที่คว้าทริปเปิลแชมป์มาครองได้สำเร็จ
ส่วน พีจีเอ ทัวร์ กลับลำด้วยการประกาศเตรียมควบรวมกับ ลิฟ กอล์ฟ ทัวร์น้องใหม่ที่มีทุนจากซาอุดีอาระเบียหนุนหลัง
ขณะที่ ยอโควิช ผงาดคว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น มาครองเป็นสมัยที่ 3 และสร้างสถิติเป็นนักหวดชายที่ครองแชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุดถึง 23 รายการ ส่วนแชมป์หญิงเดี่ยวตกเป็นของ อิกา สเวียเต็ก นักหวดสาวชาวโปล
ด้าน เดนเวอร์ นักเก็ตส์ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอ็นบีเอมาครองได้เป็นสมัยแรกด้วยการล้ม ไมอามี ฮีต ในรอบชิงฯ ส่วน วิคเตอร์ เวมบันยามา เซนเตอร์ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส ถูก ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ดราฟท์เข้าสู่ลีกเป็นคนแรก
เดือนกรกฎาคม อินเตอร์ ไมอามี ประกาศเซ็นสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี หัวหอกกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา
ขณะที่ มาร์เคตา วอนดรูโซวา ม้ามืดจากเช็ก สร้างประวัติศาสตร์เป็นมือไร้อันดับคนแรกที่ผงาดคว้าแชมป์วิมเบิลดันมาครองได้สำเร็จ ส่วนแชมป์ชายเดี่ยวตกเป็นของ คาร์ลอส อัลการาซ ดาวรุ่งจากสเปน ที่ล้ม ยอโควิช ในรอบชิงดำ 3-2 เซต
เดือนสิงหาคม เนย์มาร์ ดาวยิงทีมชาติบราซิล เซ็นสัญญาย้ายไปเล่นในซาอุดีอาระเบียกับ อัล ฮิลาล ขณะที่ ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกมาครองได้เป็นสมัยแรกด้วยการล้ม อังกฤษ ในรอบชิงฯ 1-0
เดือนกันยายน ยอโควิช คว้าแชมป์ ยูเอส โอเพ่น มาครองเป็นสมัยที่ 4 พร้อมทำสถิติคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมากที่สุด 24 รายการเทียบเท่า มาร์กาเรต คอร์ต โดยมี โคโค กอฟฟ์ ดาวรุ่งชาวอเมริกัน คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวไปครอง
ส่วน หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ถูกกดดันจนต้องลาออกจากตำแหน่งหลังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วยการจูบปาก เจนนี เอร์โมโซ นักเตะหญิงทีมชาติสเปน หลังเกมชิงดำฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกที่ออสเตรเลีย
ด้าน แอรอน ร็อดเจอร์ส ซวยสุดขีดเมื่อได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายขาดหลังเล่นให้ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ได้แค่ 4 สแนป
เดือนตุลาคม แม็กซ์ แฟร์สตัปเพน ผงาดคว้าแชมป์โลกเอฟ วัน มาครองได้เป็นสมัยที่ 3 หลังคว้าชัยในสปรินท์ เรซ ศึกกาตาร์ กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี ผงาดคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาครองได้เป็นสมัยที่ 8
เดือนพฤศจิกายน เท็กซัส เรนเจอร์ส สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เบสบอล เวิลด์ ซีรีส์ มาครองได้เป็นครั้งแรก ส่วน ยอโควิช ปิดฉากฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์เอทีพี ไฟนอลส์ มาครองเป็นสมัยที่ 7 ขณะที่แชมป์ดับเบิลยูทีเอ ไฟนอลส์ ตกเป็นของ สเวียเต็ก
ฝั่งแฟนกีฬาก้านเหล็กก็ได้ชื่นใจกันทั่วหน้ากับการหวนกลับคืนสังเวียนของ ไทเกอร์ วูดส์ ในศึกฮีโร่ เวิลด์ ชาลเลนจ์ หลังเข้ารับการผ่าตัด และพักยาวมาตั้งแต่เดือนเม.ย.
เดือนธันวาคม จอห์น ราห์ม สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการกอล์ฟด้วยการลาออกจาก พีจีเอ ทัวร์ เพื่อไปล่าเงินรางวัลใน ลิฟ กอล์ฟ ด้าน โชเฮ โอตานิ กลายเป็นนักกีฬาอาชีพที่ได้รับค่าจ้างแพงที่สุด หลังเซ็นสัญญาระยะเวลา 10 ปี มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 30,800 ล้านบาทกับ แอลเอ ดอดเจอร์ส
ขณะที่ ศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป ปลุกผี ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก ขึ้นมาอีกครั้ง หลังตัดสินว่า ยูฟ่า และ ฟีฟ่า ไม่มีอำนาจขัดขวางไม่ให้แต่ละสโมสรเข้าร่วมโม่แข้งในศึก อีเอสแอล ส่วน แมนฯ ซิตี ไล่ทุบ ฟลูมิเนนเซ จากบราซิล 4-0 ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลก “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2023” มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่.
ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์
