ล่าสุดยังเกิดเรื่องราวคนใกล้ชิดถูกกล่าวหาว่าพัวพันคดีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน คอลัมน์ตรวจการบ้าน จึงต้องมาสนทนาและรับฟังการเปิดใจของแม่ทัพใหญ่แห่งค่ายพระแม่ธรณีฯ แบบเอาให้ชัดว่าจะฝ่าวิกฤติกันไปอย่างไร

เฉลิมชัย” เปิดเรื่องด้วยการเน้นย้ำท่าทีต่อคดีหมูเถื่อน ซึ่งเป็นคดีดังในขณะนี้ ว่า ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้อง ได้มอบตัวต่อพนักงานสอบสวน และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ถ้าสุดท้ายเขาทำผิด ก็ต้องรับโทษ โดยผมจะไม่ก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม แต่ผมขอถามว่าจะทำอย่างไรถ้าผลออกมาว่าเขาไม่ได้ทำผิด เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ถูกตราหน้า ถูกตั้งศาลเตี้ยพิพากษาไปก่อนแล้วว่าเขาเป็นคนผิด ส่วนที่มีความพยายามโยงคดีมาถึงผม มันเป็นเรื่องการเมือง ผมขอให้ไปถามเจ้าหน้าที่ทุกคนได้เลย เพราะทุกคนรู้ว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมรู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่ และเคยประกาศตั้งแต่ต้นว่าไม่รับเงินสกปรก ไม่เคยใช้นอมินีทำ และถ้าใครทำผิด ก็ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งถ้าทุกอย่างทำอย่างตรงไปตรงมา ประเทศก็จะได้ประโยชน์ แต่ถ้ามีการกลั่นแกล้ง ผมก็เชื่อว่ากฎแห่งกรรมมีจริง ใครทำกรรม ก็ต้องรับกรรมไป ไม่มีใครหนีพ้น

สมัยที่ผมเป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ปราบปรามปัญหาหมูเถื่อนเมื่อปี 2565 ควบคู่กับการแก้ปัญหาโรคอหิวาห์หมู โดยผมสั่งการให้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในการจับกุมคนทำผิดกฎหมาย ห้ามไม่ให้นำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาตามตะเข็บชายแดน และห้ามมีการมาขอเคลียร์เด็ดขาด ซึ่งทำให้ในปีนั้นสามารถจับกุมและยึดหมูเถื่อนได้ประมาณ 1 ล้านกิโลกรัม(กก.) และเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566 ผมได้นำหมูเถื่อน 120,000 กก. ไปทำลายที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อมา สมาคมต่างๆได้มาขอบคุณผมที่มาแก้ปัญหาหมูเถื่อน ขณะเดียวกัน การดำเนินการเหล่านี้จึงเป็นที่มาของกรณีที่มีหมูเถื่อนค้างตู้อยู่ในท่าเรือ เพราะไม่สามารถนำมันออกมาได้ ที่จริงกรมศุลกากรรู้ดีเรื่องการนำเข้าเรื่องวัว ไก่ หมู ผมขอฝากให้เขาตรวจสอบทั้งระบบให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของประเทศ ขนส่งมากี่ตู้ก็ต้องตรวจให้หมด อย่าปล่อยให้มีกลิ่นหรือมีคนเอาไปลือกัน

ถ้าผมไปทำอย่างที่กล่าวหากัน แอบไปรับเงิน ผมก็เลวจนใช้ไม่ได้ และคงไม่กล้าเสนอหน้าออกมาพูดกับสังคม ผมทำทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหา แทนที่จะเอาดอกไม้มาให้ผม กลับเอาก้อนอิฐ เอาอุจจาระมาป้ายผม แบบนี้มันถูกต้องหรือไม่ วันนี้ผมจึงต้องออกมาอธิบายกับสังคม และผมไม่อยากให้คนที่ทำผิดตัวจริงยังลอยนวลเพราะไม่มีใครกล้าไปแตะ แล้วมาเล่นงานผมเพื่อกลบกระแส แบบนี้มันไม่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ในฐานะที่ผมเป็นอดีตรมว.เกษตรฯ และเป็นเกษตรกรด้วย ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายไปตรวจสอบการลักลอบนำเข้าวัวเถื่อน เพราะมีพ่อค้าวัวและผู้เลี้ยงวัวมาแจ้งข่าวเรื่องเนื้อวัวในประเทศราคาตกต่ำมาก โดยอาหารเลี้ยงสัตว์ราคาสูง ที่สำคัญมีการลักลอบนำเข้าวัวแบบตัวเป็นๆจากประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งซ้ำเติมเกษตรกรบ้านเรา ในสมัยที่ผมเป็นรมว.เกษตรฯ ทันทีที่ทราบข่าวปัญหานี้ ได้สั่งเจ้าหน้าที่ปิดด่านเลย และเนื่องจากตอนนี้กำลังมีการตรวจสอบความถูกต้องต่างๆ ผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายตรวจสอบเรื่องวัวเถื่อนด้วย ต้องเอาคนสีเทาและสีดำออกนอกวงจรแล้วส่งเข้าสู่กระบวนการลงโทษ

@ จากที่ถูกเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าวส่งผลกระทบกับปชป.ด้วยหรือไม่

มีผลกระทบกับปชป.ไม่มากก็น้อย เพราะผมเป็นหัวหน้าพรรค แต่เมื่อผมชี้แจงแล้ว ก็รู้สึกสบายใจและมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่าจะคืนความยุติธรรมให้กับคนที่ไม่ได้ทำผิด แต่ถ้าใครทำผิด ก็ละเว้นไม่ได้ และผมเข้าไปช่วยไม่ได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากผมเข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องการปรับเปลี่ยนพรรคให้เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีความทันสมัย และส่งสัญญาณว่าปชป.จะเปิดกว้าง เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ เด็ก และเยาวชนเข้ามาสู่พรรคได้ง่ายขึ้น โดยเรากำลังดำเนินการหลายๆอย่าง ทั้งนี้ ปชป.ถือว่ามีวิกฤตในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นล้มละลาย เพียงแค่เราต้องยอมรับและกล้าที่จะเปลี่ยน โดยภารกิจแรกคือการปรับปรุงเรื่องการสื่อสารและการประชาสัมพันธ์ของพรรคฯ จะเน้นที่สื่อโซเชียล จึงจัดตั้ง “ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร พรรคประชาธิปัตย์” และมอบให้ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” รองหัวหน้าพรรคฯ เป็นผู้ดูแล โดยคาดว่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในอีก 3 เดือนหลังจากนี้ หรือเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคจะจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี

นอกจากนี้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ปชป.เคยถูกมองว่าเป็นระบบปิด เพราะข้อบังคับพรรคมีหลายสิ่งที่เป็นอุปสรรคทำให้คนรุ่นใหม่เข้าไม่ถึง หรือถ้าเข้ามาแล้ว ต้องรอลำดับตามความอาวุโส หรือผู้ที่จะมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็ต้องเป็นสมาชิกพรรค 5 ปีขึ้นไป รวมถึงเงื่อนไขที่ว่าคนที่จะมาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ก็ต้องเคยเป็นส.ส.ของพรรคมาก่อน แต่เมื่อผมมาเป็นหัวหน้าพรรคฯ ได้มอบหมายให้ “เดชอิศม์ ขาวทอง” เลขาธิการพรรค และ “น.ต.สุธรรม ระหงษ์” รองหัวหน้าพรรค ไปดำเนินการแก้ไขข้อบังคับพรรคฯ และเมื่อทำเสร็จสิ้น ก็จะต้องนำไปหารือกับสาขาพรรคในแต่ละพื้นที่ จากนั้นจะนำเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพรรค ก่อนจะเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญของพรรคฯ ดังนั้น 2 ส่วนนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดในเดือนเม.ย.นี้

@ เมื่อพูดถึงปชป. คนส่วนใหญ่มักนึกถึง“ชวน หลีกภัย” การปรับเปลี่ยนปชป.ครั้งนี้จะเดินไปด้วยกันกับนายชวนหรือไม่

ต้องถามทุกคนในพรรคฯว่าต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เดินไปแบบไหน ต้องการเดินแบบสถานการณ์ปัจจุบัน หรือต้องการมีความภูมิใจในการรักษาความเป็นประชาธิปัตย์เมื่อ 77 ปีก่อน แต่เราสูญพันธุ์ไปเลย อยากได้อย่างนั้นหรือไม่ ตอนนี้ต้องช่วยกันเลือกทางใดทางหนึ่ง ผมไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์สูญพันธุ์ จึงกลับเข้ามา ก่อนที่ผมจะตัดสินใจกลับมา ผมคิดหนักจนสมองแทบจะระเบิด ที่จริงผมไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาเจ็บตัว แต่ผมยอมทิ้งสิ่งที่สร้างมาทั้งชีวิตเพื่อพรรคที่สร้างผมให้เติบโตในทางการเมือง

@ อนาคตของปชป.ในมือของหัวหน้าพรรคที่ชื่อ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” จะเดินไปในทิศทางไหน

ผมตั้งใจปรับเปลี่ยนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นที่ยอมรับของคนทุกรุ่น ต้องเป็นพรรคเปิด พร้อมรับบุคคลที่มีความสามารถและมีความตั้งใจจากทุกกลุ่ม ให้เข้ามาร่วมทำงานการเมืองกับเรา ให้พวกเขามีความก้าวหน้าในเส้นทางการเมือง นอกจากนี้ต้องทำให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าปชป.มีหลักการ อุดมการณ์ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย มีความซื่อสัตย์สุจริต และปชป.พร้อมกลับมาเป็นจุดหลักทางการเมืองของสังคม ต้องเป็นพรรคที่คบได้ อย่างไรก็ตาม ผมยังไม่ได้มองถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะต้องการแก้ปัญหาของพรรคฯก่อน เมื่อแก้ไขได้แล้วค่อยมาดูว่าพรรคฯควรจะต่อสู้อย่างไรในอนาคต เพราะการต่อสู้ทางการเมืองไม่ใช่การต่อสู้ด้วยกำลัง แต่ต้องต่อสู้ด้วยยุทธวิธี นโยบาย และอีกหลายอย่าง

@ มองอย่างไรต่อข่าวที่ยังออกมาเป็นระยะๆว่าปชป.จะไปร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

ผมขอยืนยันว่านับตั้งแต่ผมเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผมไม่เคยติดต่อใครเลย และไม่เคยมีใครติดต่อผม ในเมื่อผมพูดอย่างนี้ สบายใจกันได้แล้วหรือยัง ผมขอย้ำว่าปชป.ทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะฝ่ายค้าน เพื่อรักษาประโยชน์ของประเทศ โดยเราเป็นฝ่ายค้านที่ไม่ใช่อันธพาล หากรัฐบาลทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศ เราพร้อมส่งเสริม แต่ถ้าเขาทำอะไรให้ประชาชนและประเทศได้รับความเสียหาย ผมและพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมเด็ดขาด