หลังจากคว้าชัยชนะอย่างงดงามเหนือ คีร์กีซสถาน 2-0 คำถามต่อไปของทีมชาติไทยคือ จะไปได้ไกลแค่ไหน และคนไทยสามารถฝันได้ขนาดไหน ในเอเชียน คัพ ครั้งนี้

ต่อให้เราแพ้หมดในอีก 2 นัดที่เหลือของรอบแรก จบด้วยการมีมี 3 แต้ม จาก 3 เกม โอกาสเข้ารอบ 16 ทีมของ “ช้างศึก” ก็ยังเปิดกว้าง เพราะจะเอาทีมอันดับ 3 ถึง 4 จาก 6 กลุ่มเข้ารอบ

เอเชียน คัพ ครั้งที่แล้ว มีทีมอันดับ 3 ที่มี 3 คะแนน เข้ารอบถึง 3 ทีม ดังนั้น ถ้าหากไม่เคราะห์ร้ายเกินไปจริงๆ ทีมชาติไทยมีโอกาสที่ดีในการเข้ารอบ

แต่ถ้าจะเอาชัวร์ ขออีกสัก 1 แต้ม (หรือ 3 แต้ม) ในเกมรอบแรก นัดที่ 2 กับ โอมาน วันอาทิตย์ที่ 21 ม.ค. นี้ เราก็จะลิ่วแน่นอน และถ้าได้จริง ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะมีผลต่อทีมที่จะเจอในรอบต่อไป

การเข้ารอบเป็นที่ 1, 2 หรือ 3 ของกลุ่มนั้น มีผลมากต่อทีมที่จะเจอในรอบต่อไป ถ้าหากเข้าที่ 3 จะต้องไปเจอแชมป์กลุ่มอื่นแน่นอน แต่ถ้าเป็นอันดับ 1 หรือ 2 กลุ่มเรา จะไปเจอที่ 2 กลุ่มอื่น

กล่าวคือ อันดับ 1 กลุ่ม F ของเรา จะเข้าไปเจอที่ 2 กลุ่ม E ขณะที่อันดับ 2 จะไปเจอที่ 2 กลุ่ม B แต่ถ้าหลุดไปที่ 3 มีโอกาสเจอทั้งที่ 1 กลุ่ม D และ C ที่อาจจะเป็น ญี่ปุ่น หรือ อิหร่าน

คำถามว่าเราจไปไกลแค่ไหน ผลงานในเกมกับ โอมาน จึงมีผลอย่างมาก

– 11 ตัวจริง
การเลือกตัวผู้เล่น 11 คนแรกของ มาซาทาดะ อิชิอิ ในเกมแรกกับ คีร์กีซสถาน ได้รับคำชมอย่างมาก และผ่านการวิเคราะห์มาแล้วอย่างดี เพราะมีผู้เล่นที่เขาเคยร่วมงานด้วยถึง 7 จาก 11 คน

ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม แดนหลัง ธีราทร บุญมาทัน กับ พรรษา เหมวิบูลย์, แดนกลาง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ สุภโชค สารชาติ และแดนหน้า ศุภชัย ใจเด็ด กับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา

อิชิอิ เพิ่งเข้ามาคุมทีมชาติไทยเมื่อเดือนธ.ค. 2023 แต่เขาคุมทีมสโมสรในไทยมานานพอสมควร รู้จักนักเตะไทยหลายคนดี รู้แม้กระทั่งธรรมชาติและนิสัยของนักเตะไทย

ใครที่เขาเรียกมาติดทีมชาติชุดนี้ เขาย่อมมั่นใจว่ามีประโยชน์

ด้วยระยะเวลาการเตรียมทีมที่น้อย (มาก) โค้ชแดนปลาดิบต้องเลือกใช้คนที่ตัวเองไว้ใจ และมีคู่มือการใช้เอาไว้ก่อน เพราะนักเตะเหล่านี้คุ้นเคยกับแท็คติกของเขาดีอยู่แล้ว

ตัวจริงในเกมกับ โอมาน ถ้าให้คาดจึงไม่น่าจะเปลี่ยนมากหรือเปลี่ยนเลยด้วยซ้ำ อยู่ที่ อิชิอิ จะอ่านว่า โอมาน มีจุดเด่น-จุดด้วยตรงไหนเป็นพิเศษ และอาจสลับคนลงมาเพื่อทำหน้าที่นั้น

ปฏิวัติ โชว์ฟอร์มดี ได้ลงเฝ้าเสาต่อแน่นอน ขณะที่ ธีราทร ก็น่าจะยืนแบ๊กซ้าย เช่นเดียวกับ นิโคลัส มิเกลสัน ทางแบ๊กขวา ขณะที่คู่เซ็นเตอร์ พรรษา น่าจะได้ลุยต่อ ส่วนคู่หูเลือกได้หมดทั้ง เอเลียส ดอเลาะ ที่ลงเกมแรก, สุพรรณ ทองสงค์ และ จักพัน ไพรสุวรรณ อยู่ที่ อิชิอิ เห็นว่าใครเหมาะสม

แดนกลาง วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นอีกคนที่โชว์ฟอร์มดีในเกมแรก ลงต่อแน่ ส่วนคู่หูก็น่าจะเป็น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ได้โอกาสก่อน สารัช อยู่เย็น ที่รอใช้ประสบการณ์ลงมาบี้ในครึ่งหลังเหมือนเดิม

เกมรุกคงยึดชุดเดิมหมด เพราะเล่นดีทุกคน ทั้งส่วนบุคคล และการเล่นเป็นทีม โดยมี สุภโชค สารชาติ เป็นเพลย์เมคเกอร์ตรงกลาง, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ทางขวา, บดินทร์ ผาลา ทางซ้าย และหน้าเป้าใช้ ศุภชัย ใจเด็ด ฮีโร่ผู้นำ 2 ประตูในนัดแรก

อย่างไรก็ตาม เชื่อแน่ว่า ถึงเวลาลงสนามจริง โค้ชญี่ปุ่นเปลี่ยนทีมแน่ และอาจมีอะไรเซอร์ไพร้ส์แฟนบอลอีก แต่จะเป็นอะไรนั้น ต้องติดตาม

ชนะไหม?
โอมาน นัดแรกเล่นดีใช้ได้เลย ได้ประตูขึ้นนำก่อนด้วยซ้ำ แต่มาเสียประตูในช่วงทดเวลาของครึ่งหลัง ทำให้แพ้ ซาอุดีอาระเบีย หวุดหวิด 1-2 เกมนี้ เขาจึงต้องเต็มที่ ใส่เต็มชนิดหมดหน้าตัก เพราะถ้าหากไม่มีแต้มอีก โอกาสตกรอบสูง

สถิติการพบกันของ ไทย กับ โอมาน เจอกันมา 14 ครั้ง ไทย ชนะ 7 เสมอ 1 และแพ้ 6 นัด ล่าสุด เจอกันในเกมอุ่นเครื่องเมื่อพ.ค. 2021 ไทย แพ้ 0-1 และแพ้ โอมาน มา 3 เกมติดต่อกัน โดยโดนยิง 5 ลูก ยิงคืนไม่ได้เลย

ส่วนในเอเชียน คัพ เจอกัน 2 ครั้ง ครั้งแรก ปี 2004 ไทย แพ้ 0-2 ครั้งที่ 2 ปี 2007 ไทย ชนะ 2-0 ทุกอย่างถือว่าเท่ากันหมด

คาดการรูปเกมในนัดนี้ โอมาน คงเป็นฝ่ายบุก ด้วยสถานการณ์หลังชนฝา และศัยภาพเหนือกว่าไทย ส่วน “ช้างศึก” ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ หรือเปิดเกมรุกเพื่อเอาชนะ เล่นประคองตัว เน้นเกมรับรอจังหวะสวนกลับลุ้นทำประตู น่าจะเป็นแท็คติกที่ อิชิอิ เลือกใช้

แต่ธรรมชาติของไทย เกมรับไว้ใจไม่ได้เท่าไหร่ ถ้าจะตั้งรับอย่างเดียว มีโอกาสเสียประตูสูง ดังนั้น ถ้ามีจังหวะ อิชิอิ คงสั่งให้ลูกทีมครองเกมเข้าสู้อยู่เหมือนกัน และน่าจะทำการบ้าน รวมถึงอ่านสไตล์ของ โอมาน มาแล้วอย่างดีว่าควรเจาะตรงไหน และวางแท็คติกให้เราอย่างไร

ถ้าหากเล่นได้อย่างมั่นใจ มีทีมเวิร์ค และสู้ตาย วิ่งเข้าชนพุ่งเข้าใส่เหมือนนัดแรก ช้างศึกรสปลาดิบของเราทีมนี้ จะสร้างความยากลำบากให้ โอมาน (74) ที่อันดับโลกเหนือกว่าเราเยอะได้แน่ และด้วยแรงเชียร์จากคนไทยทั้งประเทศที่ส่งไปกาตาร์ เชื่อว่า เกมนี้้ เราน่าจะมีแต้มติดมือ.