กรณีนาย ธ. และนางสาว ณ. ได้ร่วมกันซื้อที่ดิน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2527 และเข้าถือกรรมสิทธ์ที่ดินแปลงดังกล่าวพร้อมกัน ไม่ได้มีการแบ่งแยกที่ดินหรือบรรยายส่วนกันไว้อย่างชัดเจน ต่อมา นาย ธ. และนางสาว ณ. ต่างได้ขายที่ดินเฉพาะส่วนของตนให้แก่บุคคลอื่นตามข้อเท็จจริงข้างต้น แม้นาย ธ. และนางสาว ณ. จะได้ทำสัญญาซื้อขายแยกกัน และพนักงานเจ้าหน้าที่ได้จดทะเบียนขายเฉพาะส่วนตามคำขอของผู้ขอแต่ละคนก็ตาม แต่เมื่อการถือกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินโฉนดดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากการทำนิติกรรมซื้อขายและได้เข้าถือกรรมสิทธิ์รวมพร้อมกัน ดังนั้น นาย ธ. และนางสาว ณ. จึงต้องเสียภาษีเงินได้ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ซึ่งเป็นหน่วยภาษีแยกต่างหากจากบุคคลธรรมดาตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร
ในการขายอสังหาริมทรัพย์ กรณีที่มีการถือกรรมสิทธ์รวมนั้น ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีหน้าที่ต้องเสียภาษี ดังนี้
(1) กรณีการถือกรรมสิทธิ์รวมเกิดขึ้นเนื่องจากการได้รับมรดก การให้โดยเสน่หา การครอบครองปรปักษ์ หรือจากการที่เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้บุคคลอื่นเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมในภายหลัง ให้บุคคลแต่ละคนที่ถือกรรมสิทธิ์รวมเสียภาษีเงินได้ในฐานะบุคคลธรรมดา โดยแยกเงินได้ตามส่วนของแต่ละคนที่มีส่วนอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถือกรรมสิทธิ์รวม (2) กรณีการถือกรรมสิทธิ์รวมเกิดขึ้นเนื่องจากการทำนิติกรรมซื้อขาย ขายฝาก หรือแลกเปลี่ยน โดยเข้าถือกรรมสิทธ์รวมพร้อมกัน ให้เสียภาษีเงินได้ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล แต่หากไม่ได้มีการเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมพร้อมกัน ให้บุคคลแต่ละคนที่ถือกรรมสิทธิ์ รวมเสียภาษีเงินได้ในฐานะบุคคลธรรมดา โดยแยกเงินได้ตามส่วนของแต่ละคนที่มีส่วนอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถือกรรมสิทธิ์รวม ดังนั้น ขอให้กรมที่ดินพิจารณาข้อเท็จจริงในการเข้าถือกรรมสิทธิ์รวมของผู้ขายอสังหาริมทรัพย์นั้นว่า เข้าลักษณะตามเหตุใดในข้อ (1) และ (2) ในการเรียกเก็บภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
ตัวอย่าง กรณีที่สามีภรรยาจดทะเบียนสมรสแล้ว หลังจากนั้นได้ทำการซื้อที่ดินโดยที่หลังโฉนดถือกรรมสิทธิ์ร่วมกันแบบไม่ระบุสัดส่วน อีกทั้ง สามีภรรยา ได้ใส่ชื่อลูกชายเพิ่ม ก่อนหย่ากัน เป็นการถือกรรมสิทธิ์รวม 3 คน ต่อมาได้ทำการหย่าร้าง แต่หลังโฉนดยังคงเป็นชื่อร่วมกันอยู่เช่นเดิม ต่อมาทั้งคู่จะทำการปล่อยเช่า เงินได้จากการเช่านั้น ให้ถือเป็นเงินได้ของห้างหุ้นส่วนสามัญ สามี ภรรยา และบุตร ซึ่งต้องขอมีและใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของห้างหุ้นส่วนสามัญกันใหม่.