แม้จะไม่ได้ชัยชนะ การันตีเข้ารอบ แต่ 1 แต้มของ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ได้จากโอมาน ก็ถือว่าล้ำค่ามาก พอเราไปจ่อสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว และนี่คือ 5 ประเด็น จากเกมที่ ไทย เสมอ โอมาน
1 ดีแล้วก็ไม่ต้องเปลี่ยน
จากนัดที่ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 มาซาทาดะ อิชิอิ ใช้ชุดเดิมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งระบบ และนักเตะ ก็ในเมื่อบอลชนะ เล่นดี ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนทำไม พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่เจ็บข้อเท้า ฟิตลงสนาม ไม่มีปัญหา ทำให้ สารัช อยู่เย็น ที่ปกติยึดตัวจริงตลอด ไปนั่งเป็นกองเสริมก่อน ขณะที่ แนวรุก ศุภชัย ใจเด็ด หนุนโดย สุภโชค สารชาติ, ทางซ้าย บดินทร์ ผาลา และ ขวา ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา
แดนกลาง พีรดนย์ คู่ วีระเทพ ป้อมพันธุ์, เซ็นเตอร์ เอเลียส ดอเลาะ, พรรษา เหมวิบูลย์, ซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, ขวา นิโคลัส มิคเกลสัน และ ปฏิวัติ คำไหม เฝ้าเสา
ส่วน โอมาน ก็จัดชุดเดิม ที่แพ้ ซาอุฯ เช่นกัน มี มูห์เซน อัล กาสซานี กับ อิสซาม อัล ซาบี ยืนคู่หน้า
2 บอลอึดอัดต่างไม่อยากแพ้
จากเกมแรกกับ คีร์กีซสถาน ที่เล่นกันเร็วเป็นสายฟ้าแลบ วันนี้เปลี่ยนไป เน้นคุมเชิงมากขึ้น ไม่เปิดหน้าท้าชน เหตุผลคือนอกจากคุณภาพของ โอมาน จะน่ากลัวกว่า คีร์กีซสถาน เยอะแล้ว
ด้วย 3 แต้มที่มีอยู่ ถ้ามีบวกอีก 1 แต้มเป็น 4 แต้ม โอกาสเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ที่ดีสุดเป็นอย่างน้อยก็ยังสูงลิ่ว
เช่นเดียวกับ โอมาน ทีช่วงแรกดูเชิงเหมือนกัน แม้จะแพ้เกมแรก ก็ไม่รีบ เพราะ 1 แต้ม ทำให้ยังอยู่ในเส้นทาง แต่ถ้าแพ้ก็เลิกโรง แล้วแนวรุกไทยก็เร็วๆ ซะด้วย เกมครึ่งแรกจึงออกมาตึงๆ แต่ครึ่งหลังไม่ใช่อย่างนั้น
3 ครึ่งหลังเกือบแย่
อย่างที่บอก โอมาน คุณภาพดีกว่า คีร์กีซสถาน และเมื่อยิ่งเล่นไป ยิ่งกล้าลุยมากขึ้น ครึ่งหลังจึงเดินหน้าทำเกมบุกเข้าใส่ ตรงข้ามกับไทย ที่ยิ่งเล่น ยิ่งถอยร่น โดยทีเด็ดของ โอมาน ที่น่ากลัว คือความสามารถเฉพาะตัว ในสไตล์ตะวันออกกลาง และวันนี้มีบอลเปิดริมเส้นโค้งๆ อันตรายหลายลูก
ส่วนทีมไทย ครึ่งหลังที่ถอยไปตั้งรับนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณภาพนักเตะ แต่อีกส่วนสำคัญคือ “สถานการณ์” ที่ 1 แต้มจากเกมนี้จะเลอค่ามาก ดังนั้นด้วยแท็คติก จึงต้องเน้นมีแต้มไว้ก่อน อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วก็ไม่ต้องไปค่อนขอดว่าดีแต่รับ บอลทัวร์นาเมนท์แบบนี้ 1 แต้ม, ครึ่งแต้ม ก็สำคัญ มีผลต่อการเข้ารอบตกรอบ หมากของ อิชิอิ จึงถูกต้องแล้ว ที่ให้ทีมไทยไปคุมโซนต่ำ
อย่าลืมนะ ว่าอันดับโลก โอมาน ดีกว่าเราถึงเกือบ 40 ขั้น อย่าเอาชัยชนะกับ คีร์กีซสถาน มาหลอนตัวเอง
4 เขี้ยวมากขึ้น
สิ่งที่ต้องชมทีมไทย คือเกมนี้ช่วยกันเล่น ช่วยกันไล่ เพื่อนเสียแล้ว ก็วิ่งช่วย รวมทั้งมีตัดเกม มีตอดนิดตอดหน่อยตั้งแต่ตรงไกลหัวใจ เป็นความเขี้ยวที่เสริมกับความขยัน เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยแนวรับ ทั้งคู่เซ็นเตอร์ พรรษา, เอลเลียส ที่ยืนได้ดี ไล่ไปถึง ปฏิวัติ คำไหม ทำให้ยังไม่เสียประตูเลย เป็น 1 ใน 5 ทีมรายการนี้ ที่ยังบริสุทธิผุดผ่อง(กาตาร์, จีน, ออสเตรเลีย, อุซเบกิสถาน)
คู่ต่อสู้ของเราในรอบแรก ไต่ระดับขึ้นไป โอมาน คุณภาพดีกว่าคีร์กีซสถาน และนัดสุดท้าย ซาอุดิอาระเบีย ดีกว่า โอมาน แต่หากเราเล่นเหนียวแน่น เขี้ยวลากดิน ช่วยกันสู้แบบนี้ ก็ไม่น่าจะโดนยิงกระจุย จนมีผลต่อการเข้ารอบ
5 แบนของ”ธีราทร”
นัดนี้ ธีราทร บุญมาทัน ลงสนามนัดที่ 100 ให้ทีมชาติไทย และเป็นคนที่ 6 ที่จารึกหลักไมล์นี้
น่าเสียดาย เขาโดนใบเหลือง ในครึ่งแรก ทำให้จะโดนแบนในเกมกับ ซาอุดิอาระเบีย จะว่าไปก็เสียหาย ถือเป็นนักเตะสำคัญ ทั้งฝีเท้า และสภาพจิตใจ
แต่ชีวิตก็ต้องสู้ต่อไป แบ๊กซ้ายในทีมไม่ค่อยมีนัก ก็น่าจะโยก นิโคลัส มิคเกลสัน จากขวาไปซ้าย เหมือนเกมอุ่นเครื่องกับ ญี่ปุ่น แล้วทางขวาก็เปิดให้ ศุภนันท์ บุรีรัตน์, สันติภาพ จันทร์หง่อม
แม้จะมีปัญหาในเกมสุดท้าย แต่มาถึงขั้นนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลนัก
4 แต้มที่มี แทบการันตีเข้ารอบ งานของทีมไทย เป้าหมายแรกถือว่าใกล้สำเร็จเต็มทีแล้ว.
