นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ “เฟด” กล่าวว่า “ธนาคารหลายแห่งจะล้มละลาย แต่สถาบันการเงินเหล่านั้นไม่ใช่ธนาคารขนาดใหญ่”

ในเมืองซานฟรานซิสโก กรุงวอชิงตัน หรือแม้แต่นครนิวยอร์ก ออฟฟิศหลายแห่งมีพนักงานเข้ามาทำงานเพียงครึ่งเดียว ตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ซึ่งพวกเขาไม่เต็มใจที่จะกลับมาเข้าออฟฟิศเป็นประจำทุกวันเหมือนเมื่อก่อน

“ฟิทช์ เรทติงส์” หนึ่งในบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐ ระบุในรายงานเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า อัตราความว่างของสำนักงานทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 13.5% เมื่อปี 2566 จากเดิมที่ 9.5% ในปี 2562 และอาจแตะ 16.6% ในช่วงสิ้นปี 2567

พาวเวลล์ กล่าวว่า เนื่องจากย่านสำนักงานใจกลางเมืองหลายแห่ง มีประชากรน้อยมาก ประกอบกับอาคารที่ว่างเปล่าในเมืองต่าง ๆ ทุกขนาด ผู้ค้าปลีกที่ให้บริการพนักงาน ซึ่งเคยทำงานอยู่ที่นั่น ก็ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน อีกทั้งรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป ยังส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ สูญเสียมูลค่าถึง 1 ใน 3 ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างกว่าเดิม

ด้านสมาคมธนาคารเพื่อการกู้จำนอง (เอ็มบีเอ) ระบุว่า การจำนองทรัพย์สินสำนักงานทั้งหมด 737,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,000 ล้านบาท) มีจำนวนเงิน 206,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,300 ล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณ 25% จะครบกำหนดชำระในปีนี้ ทว่ามันเกิดขึ้นท่ามกลางอัตราดอกเบี้ย ที่ขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี ซึ่งหมายความว่า เมื่อถึงกำหนดชำระสินเชื่อ พวกเขาจะต้องได้รับการรีไฟแนนซ์ แม้เมืองบางแห่งมีอัตราว่างสูง และมีการประเมินมูลค่าต่ำกว่าก็ตาม

“ความเสี่ยงคือ “ปฏิกิริยาลูกโซ่” ซึ่งธนาคารต่าง ๆ เสี่ยงที่จะมีผู้กู้ยืมผิดนัดชำระหนี้ และเผชิญกับความเครียดในเงินทุนของพวกเขา” นายเกรกอรี ดาโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท อีวาย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ธนาคารขนาดใหญ่มีความสามารถในการรองรับความสูญเสียบางส่วน แต่ธนาคารขนาดเล็กจะประสบกับความเสียหายครั้งใหญ่

นอกจากนี้ กองทุนเงินบำนาญ หรือบริษัทประกันภัยหลายแห่ง อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน หากพวกเขามีอาคารพาณิชย์อยู่ในพอร์ตการลงทุน และหน่วยงานเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบเดียวกันกับธนาคาร

ทั้งนี้ พาวเวลล์ชี้ว่า เฟดทำงานร่วมกับสถานประกอบการที่เผชิญกับความเสี่ยง รวมทั้งระบุถึงธนาคารที่มีอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์กระจุกตัวสูง โดยเฉพาะสำนักงานและร้านค้าปลีก ซึ่งเฟดกำลังเจรจากับอีกฝ่ายอยู่.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : AFP