กรุงเวียนนา เมืองหลวงของออสเตรีย เป็นแหล่งรวมกิจกรรมสอดแนมมาอย่างยาวนานในช่วงสงครามเย็น และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีคาร์ล เนฮัมเมอร์ ผู้นำออสเตรีย เรียกร้องให้มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น โดยเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อประเมินและชี้แจงสถานการณ์ด้านความปลอดภัย ภายหลัง “การกล่าวหาอย่างรุนแรง” ต่อนายเอจิสโต ออตต์

ตามข้อมูลจากสำนักงานอัยการออสเตรีย ออตต์ อดีตพนักงานหน่วยข่าวกรองซึ่งถูกพักงานในปี 2560 ถูกกล่าวหาว่า ส่งข้อมูลให้แก่หน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย “อย่างเป็นระบบ” และถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังทางการสหราชอาณาจักร ยึดข้อความที่เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งแลกเปลี่ยนระหว่างนายยาน มาร์ซาเลค นักธุรกิจผู้ลี้ภัยชาวออสเตรีย และสายลับต้องสงสัยที่ถูกจับกุมในสหราชอาณาจักร

ด้านแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับหน่วยข่าวกรองออสเตรีย ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ทำสงครามกับยูเครนมานานกว่า 2 ปีแล้ว แต่สายลับของเขา ยังคงปฏิบัติการในกรุงเวียนนา

อนึ่ง รายงานของสื่อออสเตรีย ระบุว่า ออตต์ช่วยดำเนินงานของมาร์ซาเลคให้กับรัสเซีย ในออสเตรีย รวมถึงการสอดแนมนักข่าวคนหนึ่ง ที่สืบสวนเครือข่ายสายลับของรัฐบาลมอสโก ซึ่งออกไปจากกรุงเวียนนา หลังเกิดการบุกเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของเขา

ออตต์ ซึ่งถูกจับกุมเมื่อปี 2564 แต่ได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา ถูกกล่าวหาว่าส่งข้อมูลสมาร์ตโฟนของเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาล 3 คน ให้กับรัสเซีย เพื่อแลกกับค่าตอบแทน

แม้ออสเตรีย ซึ่งมีประชากรราว 9 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของหน่วยงานสหประชาชาติ (ยูเอ็น) หลายแห่ง มองว่าตัวเองเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก แต่ประเทศก็เป็นที่รู้จักจากความสัมพันธ์อันดีกับรัสเซียในอดีต และกฎหมายการสอดแนมที่หละหลวม

ทั้งนี้ รัฐบาลเวียนนา พยายามควบคุมเรื่องอื้อฉาวข้างต้น โดยนายแกร์ฮาร์ด คาร์เนอร์ รมว.มหาดไทยของออสเตรีย ให้สัญญาว่าจะ “ชี้แจงอย่างครบถ้วน” ภายหลังการจับกุมออตต์ ขณะที่ เนฮัมเมอร์ แนะนำให้มีการเสริมความแข็งแกร่งของหน่วยข่าวกรอง ส่วนนายอัลมา ซาดิก รมว.ยุติธรรมออสเตรีย ต้องการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ การเปิดเผยหลังการจับกุมออตต์ ยังรื้อฟื้นคำกล่าวหาที่มีต่อพรรคเสรีภาพ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจัด โดยเนฮัมเมอร์ เตือนว่า ออสเตรียต้องป้องกันไม่ให้เครือข่ายสายลับของรัสเซีย แทรกซึมหรือแสวงหาประโยชน์จากเครือข่ายหรือพรรคการเมืองในประเทศ

อย่างไรก็ตาม พรรคเสรีภาพ ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันว่า “สนธิสัญญาความร่วมมือ” กับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับปูติน สิ้นสุดไปตั้งแต่ปี 2565 แล้ว.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES