สเปอร์ส มีโอกาสมากมาย ที่จะคว้าอันดับ 4 แต่พวกเขาก็ทิ้งขว้างไปหมดด้วยมือตัวเอง

แอสตัน วิลลา ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ก็จริง แต่พวกเขาผิดพลาดให้เห็นเป็นประจำ ถ้าหาก สเปอร์ส ฉวยโอกาสได้ พวกเขาน่าจะแซงขึ้นอันดับ 4 ไปแล้ว

แต่ความจริงคือ ตอนนี้ สเปอร์ส ยังอยู่ที่ 5 ตามหลัง วิลลา 7 คะแนน แม้จะเตะน้อยกว่า 1 นัด แต่ สเปอร์ส ก็เหลือ 3 เกม ส่วน วิลลา เหลือ 2 เกม

ยิ่งไปกว่านั้น หันกลับไปมองด้านหลัง นิวคาสเซิล ไล่จี้พวกเขามาเหลือห่างแค่ 4 คะแนน ขณะที่ เชลซี กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตามห่างแค่ 6 คะแนน

ด้วยฟอร์มที่เป็นอยู่ตอนนี้ อย่าว่าแต่อันดับ 4 แม้แต่ที่ 5 สเปอร์ส จะรักษาเอาไว้ได้หรือไม่ก็ไม่รู้

สเปอร์ส แพ้มา 4 เกมรวด โดนยิงไป 13 ประตู ยิงได้แค่ 4 ประตู

ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมาก ก็เห็นได้ชัดว่า สเปอร์ส มีปัญหาเยอะแยะไปหมด ทั้งเกมรุก และเกมรับ

ไม่ได้มีปัญหาแค่การรับมือลูกเซตพีซอย่างที่แฟนบอลบ่นกัน

แอนจ์ ปอสเตโคกลู เพิ่งเข้ามาคุมทีมเป็นฤดูกาลแรก ต้องทำทั้งแก้ปัญหาเก่า และเริ่มต้นโปรเจคต์ สร้างทีมของตัวเองใหม่ เขาจึงสมควรจะได้รับความไว้วางใจ และเวลามากกว่านี้

โครงการของ แอนจ์ เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น ถ้าหากเทียบกับสิ่งที่ สเปอร์ส มอบให้กับกุนซือหลายคนก่อนหน้านี้อย่าง โชเซ มูรินโญ หรือ อันโตนิโอ คอนเต แล้ว ปอสเตโคกลู ไม่มีอะไรต้องตำหนิ และควรได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้

ก่อนเปิดฤดูกาล สเปอร์ส เสียนักเตะที่ดีที่สุดของทีมอย่าง แฮร์รี เคน ถ้าจบฤดูกาลในอันดับ 5 ว่ากันตามจริง ก็ถือว่าไม่ได้น่าผิดหวัง

ช่วงต้นฤดูกาล แอนจ์ ยังพาทีมทำผลงานได้ดีเกินคาดด้วยซ้ำ พวกเขาไม่แพ้ใคร 10 เกม เคยขึ้นนำจ่าฝูง และเคยได้ตำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมประจำเดือน

ตอนนั้น คนพูดกันว่า การเสีย เคน ไม่มีผลกับ สเปอร์ส ซึ่งก็อาจจะจริง แต่ก็จริงเพียงช่วงเดียว การเสียนักเตะระดับ แฮร์รี เคน ส่งผลต่อทีมแน่นอน และส่งผลมากด้วย

ไม่มีใครรู้ว่า ถ้า เคน ยังอยู่ สเปอร์ส จะทำผลงานดีกว่านี้หรือไม่ หรืออาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ แต่ที่รู้คือตอนนี้ สเปอร์ส ผลงานไม่ดี

การแพ้ 4 เกมรวดในลีก ถือเป็นผลงานแย่ที่สุดของ สเปอร์ส นับตั้งแต่เคยแพ้ 6 เกมรวด ในช่วงเดือนพ.ย. 2004 และพวกเขายังเก็บคลีนชีตได้แค่ 2 จาก 26 เกมหลัง

ผลงานที่ดำดิ่งลงอย่างน่าใจหาย ทำให้ถึงแม้ แอนจ์ ควรจะได้รับโอกาสต่อ แต่สถานการณ์ก็น่าเป็นห่วงไม่น้อย เพราะตอนนี้ ภายในทีมแทบไม่เหลือความมั่นใจเหมือนตอนต้นฤดูกาล

ก่อนเปิดฤดูกาล แฟนสเปอร์ส ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากนัก เพราะเสียทั้ง เคน และ แอนจ์ ก็เพิ่งมาใหม่ แต่ทีมกลับทำผลงานติดลมบน ผลการแข่งขันก็ดี แถมเล่นฟุตบอลได้สวยงาม ความหวังจึงเริ่มต้นก่อตัวขึ้นทีละน้อยๆ

ฟุตบอลของ แอนจ์ เล่นด้วยความดุดัน ใช้พลังงานสูง ไล่บดบี้ โหมเกมรุกตลอดทั้งเกม นักเตะฟิตจัดๆ และเข้าใจปรัชญาของ แอนจ์ แบบสุดๆ ถึงจะทำผลงานได้ดีทั้งฤดูกาล

ซึ่งนักเตะสเปอร์ส แสดงให้เห็นแล้วว่าทำไม่ได้

การใช้ร่างกายหนัก ทำให้มีปัญหานักเตะเจ็บเยอะ ตลอดทั้งฤดูกาล สลับหน้ากันเจ็บตลอด นี่ยังไม่นับพวกโดนแบน และกลับไปเล่นทีมชาติอีก

ส่วนปรัชญาฟุตบอลของ แอนจ์ ที่บุกแบบบ้าระห่ำ แทบไม่สนใจเล่นเกมรับ ใช้เกมรุกเป็นเกมรับ ทุกฟันเฟือง ทุกตำแหน่ง ทุกพื้นที่ ต้องเข้าใจลึกซึ้งถึงบทบาทหน้าที่ทั้งของตัวเอง และของทีม

ถ้าหากนักเตะไม่เข้าใจระบบอย่างถ่องแท้ทุกคนจริงๆ จะทำให้เกิดความสับสน และมีช่องโหว่เยอะมาก อย่างที่ สเปอร์ส กำลังเผชิญอยู่

จะเห็นได้ว่า เกมรุก สเปอร์ส ตอนนี้ เล่นอยู่หน้าเดียว ไม่มีความหลากหลาย นั่นเพราะนักเตะไม่เข้าใจในวิธีการเล่น การวิ่ง สอดรับบอล หรือการหาพื้นที่

ขณะที่เกมรับ พวกกองหลังได้รับคำสั่งให้ดันขึ้นสูง เพื่อช่วยเกมรุก พอโดนตัดบอลได้ จึงเป็นธรรมดาที่จะลงไม่ทัน หรือทันก็ไม่ทุกครั้ง ทีมจึงเสียประตูเป็นว่าเล่น

ไหนจะเรื่องการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ที่บางครั้งก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการบ้าง แต่ แอนจ์ ก็ดูจะไม่ยอมรับ ยังยึดติดอยู่กับหลักการของตัวเองจนไม่ได้ผลที่ต้องการ

ผลงาน และฟอร์มการเล่นของทีมที่แสดงออกมาให้เห็นตอนนี้ จึงชัดเจนว่า สเปอร์ส ยังมีเรื่องต้องปรับอีกเยอะ ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และให้นักเตะที่ แอนจ์ ต้องการจริงๆ

ตัวกุนซือเอง ก็ต้องเรียนรู้ และปรับตัวตามสถานการณ์บ้างด้วย ถ้ายังอยากอยู่ต่อ

คำถามคือ สเปอร์ส จะอดทนรอ และเดินตามปรัชญาของ แอนจ์ หรือไม่?

ถ้าจะไปด้วยกันต่อ ก็ต้องยืนยันให้ชัดเจน ทุกอย่างจะได้เคลียร์ และต้องสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ทั้งเรื่องงบประมาณ และเวลา

ถ้าหากยังไม่ดีขึ้นอีก ค่อยมาพิจารณากันอีกที

แต่ถ้าหากเอาตามประวัติที่ผ่านๆมาของ สเปอร์ส และ ดาเนียล เลวี ประธานสโมสร พวกเขารออะไรไม่ค่อยได้

กุนซือหลายคน ไม่ว่าดังแค่ไหน เข้ามาไม่นาน ผลงานไม่ดี เลวี พร้อมเซ็นเช็กค่าเชยให้ แล้วแยกทางได้ทันที

กับ แอนจ์ ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง?