ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความอร่อยของคิม ประกอบกับปริมาณสารอาหาร และการได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อระบบนิเวศของมหาสมุทร สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก จนกลายเป็นส่วนประกอบที่คาดไม่ถึงในอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สลัด, น้ำซุป, แคสเซอโรล และพิซซ่า หรือแม้แต่เป็นทอปปิงบนไอศกรีมในบางครั้ง
อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปในเกาหลีใต้ต่างกังวลว่า อาหารสามสหายที่เรียบง่าย แต่สร้างความพึงพอใจ ได้แก่ ข้าวขาว, กิมจิ และสาหร่ายแห้งปรุงรส อาจไม่เป็นมื้ออาหารที่พอประมาณอีกต่อไป เนื่องจากในเดือนนี้ ราคาขายปลีกเฉลี่ยของคิมแบบย่างที่ไม่ปรุงรส เพิ่มขึ้นมากกว่า 80% จากปีที่แล้ว
ตามรายงานขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) การเพาะเลี้ยงสาหร่ายไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ย, ยาฆ่าแมลง, น้ำจืด หรือที่ดิน และส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพของมหาสมุทร การบรรเทาสภาพอากาศ และความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ผู้ผลิตคิมในเกาหลีใต้ มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ครองตลาดสาหร่ายแห้งทั่วโลกมากกว่า 70% และมีมูลค่า 918 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 33,700 ล้านบาท) เมื่อปี 2565 ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงมหาสมุทรและการประมงเกาหลีใต้ ระบุว่า การส่งออกคิมของประเทศ ทั้งสาหร่ายปรุงรสและสาหร่ายอบแห้ง มีมูลค่ารวมเกิน 1 ล้านล้านวอน (ราว 27,000 ล้านบาท) เป็นครั้งแรกในปี 2566 อีกทั้งแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งของคิม ยังคงดำเนินต่อไปในปีนี้ โดยตัวเลขการส่งออกในช่วงสองเดือนแรกของปี เพิ่มขึ้น 28.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
กระนั้น ราคาของคิมที่พุ่งสูง ทำให้ชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก เริ่มนำมันไปเปรียบเทียบกับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นที่บางคน คิดที่จะกักตุนสาหร่ายแห้งเอาไว้
อันที่จริง เกาหลีใต้พบว่า คิมมีราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากความต้องการทั่วโลกที่สูงขึ้น, ระดับสต๊อกในประเทศที่ลดลง และการขาดแคลนสาหร่ายอย่างต่อเนื่อง จากผู้เก็บเกี่ยวสาหร่ายในประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น และจีน เนื่องจากมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น และการกลายสภาพเป็นทะเลทรายในทะเล
อนึ่ง ราคาของคิมที่พุ่งทะยาน สร้างความกังวลให้กับชาวเกาหลีใต้เป็นพิเศษ เพราะมันเป็นวัตถุดิบที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในอาหารของประเทศ ส่งผลให้อาหารที่มีสาหร่ายแห้ง เช่น คิมบับ มีราคาเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยกเลิกภาษีนำเข้าสาหร่ายแห้ง และสาหร่ายปรุงรส เป็นการชั่วคราว เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาคิมภายในประเทศ โดยมีผลจนถึงวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูเก็บเกี่ยวสาหร่าย
ด้านคนในของอุตสาหกรรมท้องถิ่น กล่าวว่า แม้เกาหลีใต้จะครองตำแหน่งที่โดดเด่นในตลาดสาหร่ายแห้งทั่วโลก แต่ประเทศก็เผชิญกับความท้าทายที่หนักหนาสาหัสบางประการ เช่น อุณหภูมิน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องพัฒนาสายพันธุ์สาหร่ายที่ทนต่ออุณหภูมิสูง ตลอดจนปัญหาเกษตรกรสาหร่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
