*** คอลแลปหยุดโลก!! 2 ศิลปินซูเปอร์สตาร์ “Lady Gaga” และ “Bruno Mars” กับซิงเกิลบัลลาดมาสเตอร์พีซ “Die With A Smile”

การโคจรมาเจอกันครั้งแรกของสองศิลปินระดับโลก เจ้าของรางวัล GRAMMYs 13 ครั้ง อย่าง “Lady Gaga” และ เจ้าของรางวัล GRAMMYs 15 ครั้ง “Bruno Mars” กับซิงเกิลบัลลาดป๊อปมาสเตอร์พีซ “Die With A Smile” มาพร้อมมิวสิควิดีโอที่ร่วมกำกับโดย “Bruno Mars” นี่คือซิงเกิลที่ผสมผสานพรสวรรค์ทางดนตรีเฉพาะตัว และความคิดสร้างสรรค์ กลั่นกรองออกมาเป็นเพลงรักบัลลาดทรงพลัง

“Die With A Smile” ถ่ายทอดความทุ่มเทผ่านจิตวิญญาณความเป็นศิลปินของ “Lady Gaga” และ “Bruno Mars” ซิงเกิลเดี่ยวสุดพิเศษที่ปล่อยออกมาเพื่อมอบความสุขให้กับแฟน ๆ ทั่วโลก

Lady Gaga กล่าวถึงการทำงานร่วมกันครั้งแรกในเพลงนี้ไว้ว่า “Bruno Mars และฉันให้ความเคารพกันและกันมาก ๆ เราเคยพูดคุยเกี่ยวกับคอลแลปนี้หลายครั้งแล้ว ฉันเองเพิ่งทำอัลบั้มของตัวเองเสร็จที่เมือง Malibu และหลังจากนั้นคืนเดียว เขาก็ชวนฉันไปสตูดิโอเพื่อที่จะเปิดบางอย่างที่เค้ากำลังทำอยู่ให้ฟัง ตอนที่ฉันไปถึงน่าจะประมาณเที่ยงคืนเลย และพอได้ฟังแล้วรู้สึกทึ่งมาก ๆ พวกเราเลยใช้เวลากันทั้งคืนจนเขียนเพลงและอัดเสียงจนเสร็จ ความสามารถของ ‘Bruno Mars’ เหนือความคาดหมายมากจริง ๆ ความเป็นศิลปินและมุมมองของเขาคืออีกขั้นที่ไม่มีใครจะสามารถปฏิเสธได้เลย”

ด้าน Bruno Mars เสริมว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับ Lady Gaga เธอคือ Icon และทำให้เพลงนี้น่าเหลือเชื่อสุด ๆ ผมตื่นเต้นแทนทุกคนที่จะได้ฟังเพลงนี้จริง ๆ”

Die With A Smile คือซิงเกิลที่มาพร้อมกับเนื้อเพลงอันทรงพลัง เสียงร้องสุดไดนามิกและกินใจ ผสมผสานเข้ากับความสามารถทางดนตรีของศิลปินระดับตำนาน และผู้นำวัฒนธรรมสุด Iconic อีกทั้งยังได้โปรดิวเซอร์มือดีอย่าง “D’Mile” และ “Andrew Watt” มาร่วมโปรดิวซ์

*** Universal Music Thailand จัดงาน “THE DEATH OF SLIM SHADY LAUNCH PARTY” ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของแรปเปอร์ระดับตำนาน “EMINEM”

“Eminem” กับฉายา “Rap God” ที่ทั่วโลกรู้จัก กลับมารันวงการอีกครั้งกับอัลบั้มชุดที่ 12 “The Death of Slim Shady (Coup De Grâce)” ในครั้งนี้ Universal Music Thailand จับมือ SWAY คลับ Hip-Hop ที่เปรียบเป็นบ้านของเหล่าแรปเปอร์ และ HIP-HOP CULTURE จัดงาน “EMINEM – THE DEATH OF SLIM SHADY LAUNCH PARTY” พร้อมชักชวนเหล่าแฟนเพลง สื่อมวลชน เซเลบริตี้ ศิลปินและ KOLs ชื่อดังเข้าร่วมเอนจอยค่ำคืนสุดเดือดนี้กว่า 200 คน

บรรยากาศบิวด์อารมณ์ตั้งแต่หน้างานที่ตกแต่งในธีมหลักของอัลบั้ม “The Death of Slim Shady (Coup De Grâce)” สะดุดตาทุกคน สื่อถึงการปิดฉากและไว้อาลัยให้กับ “Slim Shady” (อีกหนึ่งตัวตนของ “Eminem”) ที่เป็นคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มนี้

MC “Petchy Od1” ขึ้นเปิดงานพูดคุยถึงประวัติของ “Eminem” กว่าจะก้าวมาเป็นแรปเปอร์ระดับตำนานที่มีอิทธิพลและพลิกประวัติศาสตร์ Hip-Hop จนถึงทุกวันนี้ พร้อมทั้งความสำเร็จของอัลบั้ม “The Death of Slim Shady (Coup De Grâce)” ที่มียอดสตรีมรวมจาก Spotify และ Apple Musicกว่า 87 ล้านสตรีมในวันแรกที่ปล่อยอัลบั้ม! ทำให้ “Eminem” ได้ขึ้นอันดับ 1 บน Spotify Global Artist Chart เป็นครั้งแรกของเขา

ไฮไลท์แรกของงานคือการรวมตัวแขกคนสำคัญจากวงการ Hip-Hop ทั่วฟ้าเมืองไทย อย่าง “ขันเงิน เนื้อนวล” THAITANIUM แรปเปอร์ไทยระดับตำนาน, “IRONBOY” จาก Def Jam Thailand ผู้ที่ยกให้ “Eminem” เป็นแรงบันดาลใจสำคัญและ Andrew Kloosterhuis (เจ้าของ SWAY) ผู้เป็นตัวแทน Community Hip-Hop ในเมืองไทย

ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและทำความเข้าใจถึงตัวตนของ “Eminem” มากยิ่งขึ้นในหลาย ๆ Topic เช่น รู้จัก “Eminem” ครั้งแรกจากที่ไหน หรือ คิดว่า “Eminem” ส่งผลอย่างไรบ้างกับวงการ Rap / Hip-Hop รวมไปถึงหลาย ๆ เพลงในตำนานที่ถูกหยิบยกมาพูดคุย อาทิ “Lose Yourself”, “My Name Is”, “Stan” และ “The Death of Slim Shady (Coup De Grâce)” อัลบั้มล่าสุดที่แฟน ๆ ต่างยกให้เป็นผลงานโดดเด่นอีกหนึ่งชิ้น ที่ยังคงเซตมาตรฐานและความเป็นเอกลักษณ์ของ “Eminem”ได้อย่างชัดเจน

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญในงานนี้ กับช่วงโชว์แรป Freestyle กับ Beat ซิงเกิล “Fuel” จากเหล่าแรปเปอร์ ที่รวมตัวสร้างความเดือดดาลพลิกฟลอร์ให้ลุกเป็นไฟแบบ Non-Stop ไม่ว่าจะเป็น “FIZZIE”, “Hp Bling”, “Sutt”, “Loka”, “Chip7”, “Jaefreshmen” พร้อมเรียกเสียงเชียร์อัพจากผู้ชมสนั่นร้าน ก่อนจะปิดด้วยโชว์จาก “IRONBOY” กับเพลง “Intro” และ “Super Sonic” ด้วยบรรยากาศสุดมัน อีกหนึ่งงานอีเว้นท์ที่มาช่วยไฮป์ Hip-Hop คอมมิวนิตี้ในเมืองไทยให้ยิ่งใหญ่และเหนียวแน่นยิ่งขึ้น!

ฟังอัลบั้ม “The Death of Slim Shady (Coup de Grâce)” ได้ที่
https://EminemTH.lnk.to/tdossPR

*** KATSEYE เกิร์ลกรุ๊ประดับโลกเจ้าของซิงเกิลสุดไวรัล Touch มอบความสดใสเกินต้านกับเดบิวต์ EP SIS (Soft Is Strong)

วงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก “KATSEYE” น้องใหม่ภายใต้ค่ายยักษ์ใหญ่ HYBE x Geffen Records ปล่อยเดบิวต์ EP “SIS (Soft Is Strong)” ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อที่แน่วแน่ และความสัมพันธ์ในแบบฉบับของ “KATSEYE” จากการรวมตัวของสมาชิกทั้ง 6 คนด้วยวัฒนธรรมและสัญชาติที่แตกต่างกัน อย่าง DANIELA – แอตแลนตา จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา, LARA – ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, MANON – ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, MEGAN – โฮโนลูลู ฮาวาย สหรัฐอเมริกา, SOPHIA – มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และ YOONCHAE – โซล ประเทศเกาหลีใต้

ตอกย้ำกระแสความไวรัลของซิงเกิล ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้าอย่าง “Touch” ที่ได้เหล่าศิลปินและครีเอเตอร์ชื่อดังจากประเทศไทย อาทิ คุณแพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, คุณพิกเล็ต – ชาราฎา อิมราพร, คุณแพรวา – ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ และอีกมากมาย ที่ได้ใช้เพลงดังกล่าวสร้างคอนเทนต์บน Instagram และ TikTok จนเกิดเป็นกระแสไวรัลที่นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเพลง “Touch” อย่างแน่นอน

เดบิวต์ EP “SIS (Soft Is Strong)” ได้รวบรวม 2 แทร็กฮิตที่ถูกปล่อยมาก่อนหน้าอย่าง “Debut” และ “Touch” รวมถึง 3 แทร็กใหม่ “I’m Pretty” , “Tonight I Might” และโฟกัสแทร็กอย่าง “My Way”ที่มาพร้อมดนตรีเปียโนบัลลาดที่จะสะกดทุกคนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง โดยเป็นการเล่าถึงเรื่องราวการเดินทางของเมมเบอร์ “KATSEYE” ที่มีความมั่นใจ ความแข็งแกร่ง และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ทำให้พวกเธอได้ก้าวมายืนในจุดนี้อย่างที่ใฝ่ฝัน

ซิงเกิลนี้ถูกโปรดิวซ์โดยผู้ก่อตั้งค่าย “HYBE” อย่าง “Hitman Bang”, “Slow Rabbit” และ “Federico Vindver”

ตามมาด้วยแทร็ก “I’m Pretty” ที่มีจังหวะหนักแน่นผสมผสานกับเสียงกลอง 808 เข้ากับเสียงร้องประสานที่ไพเราะราวกับเทพธิดาจาก “KATSEYE” กับความหมายของเพลงสุดลึกซึ้งในการรักษาและเยียวยาจิตใจของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน และแทร็กสุดท้ายใน EP อย่าง “Tonight I Might” เพลงป๊อปที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา กับกลิ่นอายดนตรี Electro-Dance ที่รวมความสนุกสนาน และการผจญภัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เป็นการส่งท้ายผลงานเดบิวต์ EP “SIS (Soft Is Strong)” ของพวกเธอได้อย่างสวยงาม

“KATSEYE” เตรียมเผยเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังเส้นทางการเป็นเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก ที่ใช้ระยะเวลายาวนานกว่าหนึ่งปี ผ่านซีรี่ส์สารคดี “Pop Star Academy: KATSEYE” ทาง Netflix กำหนดออนแอร์ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้

เรื่องราวที่จะทำให้ทุกคนรับรู้ถึงเส้นทางการเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก รวมถึงโปรแกรมการฝึกฝนสุดเข้มข้นจาก HYBE และ Geffen Records ซึ่งซีรี่ส์นี้ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Nadia Hallgren และอำนวยการสร้างโดย HYBE, Interscope Films และ Boardwalk Pictures

ฟัง EP “SIS (Soft Is Strong)” ได้ที่ https://KATSEYEth.lnk.to/SISPR

*** Billie Eilish พา BIRDS OF A FEATHER บินไปทั่วโลก กับพิธีส่งมอบธงโอลิมปิกจาก Paris 2024 สู่ LA 2028 ก่อนทะยานเข้าสู่อันดับ 1 ชาร์ต Billboard Global 200

โบยบินสู่จุดสูงสุดระดับโกลบอล! “BIRDS OF A FEATHER” กับโชว์พิเศษระดับโลกในพิธีปิดโอลิมปิก Paris 2024 “Billie Eilish” เปิดการแสดงจากริมหาด Long Beach ที่ Los Angeles

โดย “Billie Eilish” ร่วมเป็นหนึ่งในศิลปินซูเปอร์สตาร์จาก LA ที่แสดงในพิธีส่งมอบธงโอลิมปิก Paris 2024 สู่ LA 2028 โชว์เพลงคลั่งรักอย่าง “BIRDS OF A FEATHER” สร้างไวป์ฟีลกู๊ดสุดละมุนสะกดผู้ชมไปทั่วโลก

“BIRDS OF A FEATHER” ซิงเกิลที่มียอดสตรีมสูงที่สุดในตอนนี้ การันตีกระแสความนิยมด้วยรางวัลยอดขายระดับแพลทินัม ต่อเนื่องมาจากการแสดงในพิธีปิดโอลิมปิก Paris 2024 และทะยานสู่อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Global 200 และ Billboard Global Excluding United States ได้อย่างสวยงาม

“HIT ME HARD AND SOFT” สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 3 ของ “Billie Eilish” ได้ปล่อยออกมาในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่มีการปล่อยซิงเกิลใด ๆ ออกมาก่อนปล่อยอัลบั้ม เพราะ “Billie Eilish” อยากให้แฟนๆ ได้มีสิทธิ์ฟังเพลงทั้งหมดและเลือกเพลงที่ถูกใจด้วยตัวเอง ปัจจุบัน “BIRDS OF A FEATHER” กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ การันตีด้วยชาร์ตและยอดสตรีมอันล้นหลามจากทั่วทุกมุมโลก

ฟังเพลง “BIRDS OF A FEATHER” และอัลบั้ม “Hit Me Hard And Soft” ได้ที่
https://BillieEilishTH.lnk.to/BOAFTPR / https://BillieEilishTH.lnk.to/HMHASPR

*** keshi ศิลปินซูเปอร์สตาร์จากฮูสตัน ปล่อยซิงเกิลใหม่ “Dream” เพลงบัลลาดสุดเพ้อฝัน พร้อมกับมิวสิควิดีโอที่ได้ถ่ายทอดความเจ็บปวดของเนื้อเพลง เช่นเดียวกับเสียงร้องสุดสะเทือนอารมณ์ ผสมผสานกับเสียงกีตาร์อันนุ่มนวล และเสียงเปียโนที่ติดหูตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง

“keshi” กล่าวถึงซิงเกิลนี้ว่า “Dream คือความสมบูรณ์แบบของเพลงที่ผมเคยวาดฝันไว้” , “เนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแต่ยังสั้นได้ใจความ ขั้นตอนการทำเพลงที่ไม่ยืดเยื้อแต่พิถีพิถัน และ Tagline ที่จะให้ทุกคนรู้สึกเอ๊ะใจ นี่คือเรื่องราวของคำว่า ‘ถ้าหาก’ ที่ทำให้เราไม่ได้นอนทั้งคืนและความรู้สึกที่เราปล่อยวางไม่ได้สักที มันคือสิ่งที่หลอกหลอนอยู่ในใจแต่ก็สวยงาม นี่เป็นเพลงที่คุณจะร้องด้วยเสียงที่มาจากหัวใจ”

ใน MV “keshi” จะพาทุกคนท่องไปในอีกจักวาลอันแสนไกลโพ้น สถานที่อันสูงส่งแต่กลับเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ต่อมาได้พบกับการเดินทางมาถึงของนางฟ้า ที่รุมเร้าให้เกิดความรู้สึกที่ชัดเจน โดยเป็นผลงานการกำกับมิวสิควิดีโอของ “Christian Haahs” จาก AEDIA STUDIO (ที่เคยร่วมงานกับ NewJeans, XG และ Stray Kids)

*** Katy Perry พาทุกคนแดนซ์ไปกับเพลงรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด “LIFETIMES” ซิงเกิลที่ 2 จากอัลบั้มใหม่ “143” กำหนดปล่อย 20 กันยายนนี

“LIFETIMES” มาพร้อมเอ็มวีที่กำกับโดย “Stillz” (เคยร่วมงานกับ Bad Bunny และ Rosalía) ถ่ายทำขึ้นที่เกาะอิบิซา ประเทศสเปน กับไวป์ซัมเมอร์ปาร์ตี้ไร้ความกังวล ที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกสนุกและเอนจอยไลฟ์ตาม “Katy Perry” ไปด้วย

Katy Perry กล่าวถึงผลงานใหม่นี้ว่า “LIFETIMES คือเพลงที่ถ่ายทอดถึงความรักอันไร้ที่สิ้นสุด” , “เพลงที่เกี่ยวกับการค้นหาความรักสุดลึกซึ้งที่ทำให้ชีวิตเราสบายใจ และเนื้อคู่ก็ไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบของคนรักเสมอไป มันอาจจะเป็นลูก เพื่อนสนิท สัตว์เลี้ยง สิ่งเหล่านี้ก็เป็นความรักของเราได้เหมือนกัน สำหรับฉันแล้ว ลูกสาวคือความรักนั้นเลย ฉันถามเธอทุกคืนว่า ‘หนูจะหาแม่เจอในทุกช่วงชีวิตเลยหรือปล่าว’ และทุกครั้งที่เธอตอบมาว่า ‘ใช่’ ทำให้ฉันรู้สึกได้เจอกับสิ่งที่ตามหา และสุดท้ายแล้วเราต่างก็จะหากันจนเจอเสมอ ตลอดทั้งชั่วชีวิตของเราเลย”

*** Shawn Mendes คัมแบ็คปล่อยเพลงใหม่ “Why Why Why” พร้อมมิวสิควิดีโอ ก่อนฟังอัลบั้มใหม่ “Shawn” 18 ตุลาคมนี้!

นักร้อง นักแต่งเพลง เจ้าของรางวัล Multi-Platinum และศิลปินผู้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ “Shawn Mendes” คัมแบ็คปล่อยซิงเกิลแรก “Why Why Why” ในดนตรีสไตล์ Pop/Folk กับเนื้อเพลงที่แชร์ประสบการณ์ชีวิตอันสับสนและยากลำบากก่อนที่เลือกกลับมาโฟกัสที่ตัวเองและเดินหน้าทำเพลงต่ออีกครั้ง

MV เพลง “Why Why Why” ถ่ายทำท่ามกลางชนบทที่หนุ่ม “Shawn Mendes” มาในลุคสบาย ๆ เป็นตัวเอง ร้องและเล่นกีต้าร์โปร่ง ทั้งยังเอนจอยบรรยากาศธรรมชาติอันเรียบง่าย เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งมิวสิควิดีโอที่ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงการเติบโตขึ้นไปอีกขั้นของ “Shawn Mendes” ในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง และ หลงรักไปกับองค์ประกอบภาพอันสวยงาม

อัลบั้ม “Shawn” บอกเล่าเรื่องราวที่เขาได้ค้นพบจากการเดินทางและประสบการณ์ในหลายปีที่ผ่านมา อย่างทัวร์ในปี 2022 ที่จำเป็นต้องแคนเซิลไปอย่างน่าเสียดาย ผลงานอัลบั้มใหม่นี้เปรียบเป็นตัวแทนความลึกซึ้งด้านดนตรีและความตรงไปตรงมาของเนื้อเพลงที่จะนำทางคนฟังให้พูดคุยโต้ตอบกับตัวเองอย่างลึกซึ้ง ผ่านแต่ละเพลงที่ถูกเรียบเรียงขึ้นมาด้วยความตั้งใจ “Shawn Mendes” ใช้เวลาปลุกปั้นอัลบั้มใหม่นี้นานกว่า 2 ปี ทั้งในกระบวนการเขียนเนื้อเพลงและการอัดเพลงในหลากหลายสตูดิโอชั้นนำทั่วสหรัฐอเมริกา

Red Vinyl