อิสราเอลเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่สี่ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะการระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา แต่แทนที่รัฐบาลจะใช้มาตรการควบคุมโรค ด้วยประกาศล็อกดาวน์พื้นที่นั้น รัฐบาลอิสราเอลเลือกที่จะใช้วัคซีนเข็มสามของ ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ให้กับประชาชนอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป บังคับให้สวมหน้ากากปกปิดใบหน้า และบังคับใช้ “กรีนพาสส์” ข้อพิสูจน์การฉีดวัคซีน หรือไม่ก็ฟื้นจากอาการป่วย หรือมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบ เมื่อต้องเข้าไปใช้บริการในร้านอาหารและอื่น ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก

นับตั้งแต่ช่วงพบการติดเชื้อสูงสุด ในต้นเดือนก.ย.เป็นต้นมา ตัวเลขการติดเชื้อในอิสราเอลลดลงมากว่า 80% และอาการป่วยรุนแรงลดลงไปได้ครึ่งหนึ่ง

นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ของอิสราเอล บอกว่า นับกันวันต่อวันแล้วเหมือนเราหยุดยั้งการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ทั้งนี้ ก็ต้องยกเครดิตให้กับนโยบายของรัฐบาล ที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างใกล้ชิด รวดเร็ว และผ่อนปรน เพื่อที่จะได้มีชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 แต่ยุทธศาสตร์การอยู่ร่วมกับโควิด ใช่ว่าจะไม่ต้องสูญเสียหรือถูกตำหนิติเตียน แต่ก็สามารถทำให้เปิดเรียนได้ รวมถึงเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกครั้ง

กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลได้นำเสนอข้อมูล ความปลอดภัยและประสิทธิผลล่าสุดของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้กับคณะกรรมการที่ปรึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ) เพื่อพิจารณาอนุมัติการฉีดเข็มกระตุ้นเพิ่มเติม โดยข้อมูลระบุว่า คนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปคือกลุ่มแรกที่ควรจะได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ทำให้การติดเชื้อเริ่มลดลงมา ในช่วงสองสัปดาห์แรกหลังฉีดเข็มสาม ขณะที่ตัวเลของกลุ่มอายุอื่น ๆ ยังคงสูงอยู่

รายงานการวิเคราะห์ข้อมูลของ โดรอน กาซิต กับ ยินอน แอชเคนาซี แห่งทีมสังเกตการณ์โควิด-19 มหาวิทยาลัยฮิบรู ระบุว่า อัตราการแพร่ระบาดของไวรัสเริ่มลดลงในแต่ละกลุ่มอายุ หลังจากรับวัคซีนเข็มสาม

ช่วงสายพันธุ์เดลตาระบาดสองเดือน กลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว กว่าครึ่งหนึ่งเสี่ยงติดเชื้อ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาสุขภาพ มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง

นับตั้งแต่มีการฉีดวัคซีนเข็มสาม คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโดยเฉพาะคนหนุ่มสาว มีความเสี่ยงที่จะป่วยอาการรุนแรง โดย 75% ที่ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะอาการรุนแรง ส่วนคนที่ฉีดวัคซีนเข็มสองหรือเข็มสามแล้ว ความเสี่ยงจะลดลงมาเหลือ 25%

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุด้วยว่า วัคซีนเข็มสามยังถือว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อ ของคนที่ฉีดวัคซีนแล้วสองเข็มอายุ 40 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของคนหนุ่มสาวและวัยรุ่นยังน้อย แต่วัคซีนเข็มสามไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ในกลุ่มคนหนุ่มสาว

แรน บาลิเซอร์ หัวหน้าทีมที่ปรึกษาโรคโควิด-19 ของรัฐบาลอิสราเอล กล่าวว่า มาตรการควบคุมโรคที่ผสมผสานกัน จะช่วยป้องกันการกลับมาระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาได้ ทั้งการบังคับสวมหน้ากากอนามัย กรีนพาสส์ การตรวจคัดกรองเชิงรุกทั้ง RT-PCR และ rapid antigen test แต่ปัจจัยที่มีผลมากที่สุด ในการควบคุมการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลตา ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ก็คือการจัดฉีดวัคซีนจำนวนมาก เป็นวัคซีนเข็มสาม

นักวิทยาศาสตร์บางคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่อิสราเอลตัดสินใจอนุมัติการฉีดวัคซีนเข็มสาม เมื่อปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา สำหรับคนหนุ่มสาวและวัยรุ่นถือว่าเร็วเกินไป เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อย่างชัดแจ้ง ว่าได้ประโยชน์ โดยเห็นควรจะไปมุ่งไปกระตุ้นหรือรณรงค์ ให้กับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเลย ยอมรับการฉีดวัคซีนดีกว่า

สหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรปได้อนุมัติรับรองแล้ว สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มสามให้กับคนสูงอายุ เพราะมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือไม่ก็บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีความเสี่ยงของการติดเชื้อโควิด-19 และองค์การอนามัยโลกขอร้องประเทศที่มีฐานะมั่นคง ให้ชะลอการฉีดวัคซีนเข็มสามไว้ก่อน เพราะยังมีอีกหลายประเทศ ซึ่งยังเข้าไม่ถึงวัคซีน หรือยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS