ถูกจับตาว่าอยู่ในช่วงขาลงหรือไม่สำหรับ “พรรคประชาชน” หรืออดีต “พรรคก้าวไกล” ที่เคยชนะการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา แต่เกมการเมืองพลิกขั้วสลับข้างจนต้องตกที่นั่งเป็นฝ่ายค้าน ซ้ำยังมาเจอวิกฤติยุบพรรคจนต้องก่อร่างสร้างพรรคใหม่ กับบทบาทการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาที่ยังไม่หวือหวาเท่าที่ควร วันนี้ “คอลัมน์ตรวจการบ้าน” ต้องมาสนทนากับ “รังสิมันต์ โรม”รองหัวหน้าพรรคประชาชน ที่จะอธิบายทิศทางการทำงานการเมืองของพรรคว่าจะเดินต่ออย่างไรเพราะดูจากผลโพลหลายๆสำนัก สถานการณ์พรรคประชาชนคะแนนนิยมลดลงเรื่อยๆ

โดย“โรม” เปิดประเด็นว่า ตอนนี้“พรรคประชาชน” ได้ทำในหลากหลาย มีทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี การกระจายกันลงพื้นที่ของ สส. หรือก่อนหน้านี้ก็มีการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วม

ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องการทำงานของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ในสภา อย่างชุดของผมเองก็เรียกว่าเดินหน้าการตรวจสอบกรณีที่สังคมมีข้อสงสัยมาเป็นเวลานานแล้วเกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า กระบวนการยุติธรรมในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เราก็แยกย้ายกันทำงานตามรูปแบบต่างๆ ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา

ส่วนกรณีผลโพลที่ออกมานั้น เราน้อมรับในเรื่องของข้อวิจารณ์ต่างๆ เราก็มีหน้าที่ในการที่จะทำให้มันดีขึ้น แต่ต้องบอกว่าในเรื่องผลโพลก็ขึ้นอยู่กับประชาชนจะมองเรื่องนี้อย่างไร แต่ว่าในบทบาทของเรา ๆ มองว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่จริงๆ ทั้งในแง่ของการตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้าน ทั้งในแง่ของการมีข้อเสนอต่างๆ ต่อรัฐบาล รวมถึงเรื่องการเสนอกฎหมายต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่ามีกฎหมายจากฝ่ายค้านเข้าสู่การพิจารณาบ่อยมาก

“ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราพยายามแสดงให้ประชาชนเห็นว่าการเลือกพรรคประชาชน หรืออดีตพรรคก้าวไกล เราไม่ได้เข้ามาแล้วไม่ทำอะไร เราเข้ามาเพื่อทำงานจริงๆ เราเข้ามาเพื่อทำงานในทุกรูปแบบเท่าที่จะเป็นไปได้”

@ กรณีชั้น 14 ทักษิณ จะสามารถหาความจริงได้หรือไม่

ต้องบอกว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ฝั่งรัฐบาลต้องมีคำตอบ ผมก็เห็นข่าวว่าทางท่าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พยายามที่จะพูดเรื่องนี้ว่า ทำไมกมธ.ความมั่นคงฯ ถึงตรวจสอบเรื่องนี้มาก ผมก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้มันคาราคาซังในสังคมมาเป็นเวลานาน ถ้ามองให้ถูกต้องว่าทำไมเรื่องนี้ มันถึงยังไม่สิ้นกระแสของความสงสัยของสังคม มันก็เพราะว่าสังคมยังไม่ได้เห็นข้อเท็จจริงเหมือนกับที่ท่าน รมว.ยุติธรรมหรือแม้กระทั่งคนในรัฐบาลเห็น

ถ้าจะบอกว่ากรณีของ “คุณทักษิณ” เป็นกรณีปกติที่เป็นบรรทัดฐานทั่วไป ผมคิดว่าไม่สามารถมองแบบนั้นได้ หลายส่วนค่อนข้างยืนยันไปในทางที่มีพิรุธเยอะมาก เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของ “คุณทักษิณ” แต่มันคือมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมของประเทศเรา ที่ไม่สมควรจะมีการเลือกปฏิบัติ เพราะมีคนอีกจำนวนมากที่รอคอยความยุติธรรมในเรือนจำ แต่เขาก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้

ดังนั้นผมคิดว่าสิ่งที่ท่าน “รมว.ยุติธรรม” ต้องตอบให้ได้ก็ คือ ตกลงแล้วมันเป็นเรื่องการเลือกปฏิบัติที่ให้สิทธิพิเศษกับคุณทักษิณ หรือเป็นการช่วยเหลือพวกพ้องหรือเปล่า ผมคิดว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่พวกเราต้องได้รับคำตอบ การที่มาชี้แจงกรรมาธิการ แล้วไม่ตอบหรือไม่มาชี้แจงนั้น มันจะไม่ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย และยิ่งทำให้ข้อกล่าวหาของสังคมมีเค้ามูลความจริง

“วันนี้สังคมตั้งคำถาม ตั้งข้อหาต่อรัฐบาล รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ในการตอบคำถามต่อสังคม ถ้าเกิดรัฐบาลตอบได้ดี การตรวจสอบของกมธ. ก็ไม่มีผลอะไร เราไม่ได้อำนาจรัฐในการที่จะไปสั่งการอะไรได้อยู่แล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือเราเปิดพื้นที่ให้รัฐบาตอบคำถาม”

@มีการส่งสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ในเรื่องเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญและเรื่องร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

ผมอาจไม่ได้อยู่ในจุดที่ตอบคำถามเรื่องนี้ทั้งหมดได้ แต่เท่าที่ผมทราบ เราก็ไม่ได้รับสัญญาณอะไรที่ชัดเจนในเรื่องนี้ ผมคิดว่าเราก็เห็นแค่ตามหน้าสื่อว่าการนิรโทษกรรมที่แน่ๆ ทางพรรคเพื่อไทยก็คงจะไม่ได้รวมไปถึงคนที่อาจจะถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ส่วนในเรื่องของรัฐธรรมนูญก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าสุดท้ายจะจบอย่างไร ทางเรา ๆก็ยืนยันว่ามันควรที่จะทำในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการที่จะมีรัฐธรรมนูญที่มันมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย มีความชอบธรรมในเชิงที่มาที่ไปที่ยึดโยงกับประชาชน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ และควรจะเป็นเรื่องง่ายที่สุดที่เราสามารถทำได้ เพราะว่าจริงๆ ทุกพรรคการเมืองก็หาเสียงผมว่าก็ในทำนองที่ใกล้ๆ กัน ในเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญ แต่กลับกลายเป็นว่าเราก็เจออุปสรรคมากมายซึ่งมันไม่ควรจะเป็นอุปสรรคเลย ก็คงต้องตั้งคำถามว่าในส่วนของฝ่ายค้านนั้นเราพร้อมอยู่แล้วในการแก้รัฐธรรมนูญ หรือในการนิรโทษกรรม แต่เมื่อไร อย่างไร มันก็คงจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้คำตอบกับประชาชน

@ หลายฝ่ายมองว่าพรรคประชาชนมีดีลแอบจับมือกับนายทักษิณทำเรื่องนิรโทษกรรมหรือแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่

ตอนนี้ไม่มีดีล เพราะว่าถ้าดูจากจุดยืนของพรรคประชาชน ๆ เราอยากให้มันเร็ว ผมคิดว่าเรามีจุดยืนเรื่องนี้ชัดเจนมากๆ ว่าเราอยากให้มันเร็ว และเป็นการนิรโทษกรรมที่ไม่เลือกปฏิบัติ คำถามสำคัญก็คือว่าถ้าเราบอกว่ามีดีลแล้วทำไมจุดยืนของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคการเมืองอื่นๆ ถึงแตกต่างกันขนาดนี้ จริงๆ เราเองก็อยากให้มันมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ในเรื่องของการนิรโทษกรรมด้วยซ้ำว่าการนิรโทษกรรมไม่ควรเป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเลย แต่ต้องยอมรับว่าทางพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เห็นไปในทิศทางนั้น

@ กระแสขาลงแบบนี้จะทำอย่างไรเพื่อปลุกกระแสหรือทำอย่างไรให้เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็งขึ้น

วันนี้เราคือ “ฝ่ายค้าน” แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยืนยันว่า เราทำหน้าที่ของเรา เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีแนวทางที่ดีพอที่เราจะเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะกับการเมืองที่มีปัญหาเชิงโครงสร้างแบบนี้

“ผมคิดว่าพรรคประชาชนคือคำตอบ เราคือพรรคการเมืองที่พร้อมจะพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าเราพร้อมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง ทำให้โครงสร้างทางการเมือง เป็นโครงสร้างที่เคารพต่อเจตจำนงของประชาชนจริงๆ นั่นคือความต้องการสูงสุดของเรา”

ดังนั้นเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วเราก็เห็นว่ารัฐบาลวันนี้ เป็นรัฐบาลที่มีการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนน้อยมาก และทำได้ด้วยความลำบากด้วย เพราะความเป็นจริงของสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นอยู่ ผมคิดว่าจะเป็นบทพิสูจน์ว่าการเมืองแบบนี้ พรรคการเมืองแบบไหนจะตอบโจทย์มากที่สุด

อย่างไรก็ตามเมื่อมองจากวันนี้ เราในฐานะฝ่ายค้าน เราก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เต็มที่ แต่ไม่ใช่ค้านอย่างเดียว หรือค้านทุกเรื่อง มันต้องดูเป็นกรณีๆ ไป เรายืนยันว่าเราเป็นฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ เราจะไม่สักแต่ค้าน เราจะไม่สร้างปีศาจตัวใหม่ขึ้นมาเพื่อหลอกหลอนคนไทย เราจะไม่ทำแบบนั้น

สิ่งที่เราพยายามทำก็คือเราค้านด้วยข้อมูล เราค้านด้วยหลักการ เราค้านด้วยข้อเท็จจริง ที่มันเป็นจริง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราพยายามทำให้เกิด ทำให้เห็น ผมคิดว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาเราพยายามทำงานหนักมาก แต่แน่นอนว่ามันอาจจะมีบางเหตุการณ์ที่ทำลายสมาธิของเรา เรื่องนี้ก็ต้องยอมรับความจริง ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค การที่เราจะต้องมาสร้างพรรคใหม่ การที่แกนนำพรรคหลายๆ คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง มันทำให้เราเสียสมาธิกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันทำให้คนที่มีความสามารถหลายๆ คนไม่สามารถดำเนินหรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไปได้ ด้วยข้อหาที่ผมเชื่อว่ามันไม่ได้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยเลย สิ่งเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็พยายามทำหน้าที่ในการเดินหน้าต่อในฐานะพรรคประชาชนอย่างเต็มที่