“ความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับยูเอ็น ถือเป็นเสาหลักสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งยูเอ็นมีความพร้อมที่จะทำงานอย่างสร้างสรรค์ ร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อรับมือกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่” กูเตร์เรส กล่าวในแถลงการณ์แสดงความยินดีกับทรัมป์ สำหรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กูเตร์เรสเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเลขาธิการยูเอ็น ทันทีที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อเดือน ม.ค. 2560 โดยหนึ่งในภารกิจหลักของเขาคือ การรับมือกับนโยบายฝ่ายเดียวของทรัมป์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานของยูเอ็น ในการทำให้ประเทศต่าง ๆ มารวมตัวกัน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ
ผู้สังเกตการณ์หลายคนมองว่า กูเตร์เรสประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ และทำให้ยูเอ็นสามารถอยู่รอดได้ ในวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรกของทรัมป์ แม้ในเวลานั้น สหรัฐลดเงินสนับสนุนงบประมาณรักษาสันติภาพของยูเอ็น และหน่วยงานสำคัญอื่น ๆ เช่น องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ)
ด้านนายริชาร์ด โกวาน จากอินเตอร์เนชั่นแนล ไครซิส กรุ๊ป (ไอซีจี) กล่าวว่า กูเตร์เรสและทีมงานของเขา เตรียมการและวางแผนสำหรับการกลับมาของทรัมป์เป็นเวลานานแล้ว ซึ่งพวกเขาคาดว่า รัฐบาลวอชิงตันภายใต้การนำของทรัมป์ จะลดการให้เงินทุนแก่หน่วยงานหลายส่วนของยูเอ็น “ค่อนข้างมาก”
อนึ่ง ยูเอ็นเผชิญกับแรงกดดันด้านงบประมาณอยู่แล้ว และผู้สังเกตการณ์บางคนก็แสดงความกังวลเป็นพิเศษ เกี่ยวกับเงินทุนสำหรับโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์
ในช่วงที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก สหรัฐถอนตัวออกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาขาติ (ยูเนสโก) และข้อตกลงปารีส อีกทั้งทรัมป์ยังเรียกการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนว่าเป็น “เรื่องหลอกลวง” ส่วนกูเตร์เรสมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญ
อย่างไรก็ตาม โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่แล้ว ซึ่งความขัดแย้งในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และกูเตร์เรสก็ออกมากล่าวเตือนอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับ “ฝันร้าย” ที่ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญในฉนวนกาซา
“แต่การวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล ทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมากในสภาคองเกรส ต่อต้านยูเอ็นอย่างรุนแรง และส่งผลให้กูเตร์เรสจัดการความสัมพันธ์กับรัฐบาลวอชิงตันได้ยากขึ้น” โกวาน กล่าวเพิ่มเติม
ขณะที่อิสราเอลยังโจมตีทางการทูตต่อยูเอ็นและกูเตร์เรสอย่างต่อเนื่อง นายแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็น ก็แสดงความยินดีกับทรัมป์ที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้ และเรียกเขาว่าเป็น พันธมิตรของอิสราเอลในยูเอ็น
“ผมมั่นใจว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และทีมงานของเขา จะยังคงยืดหยัดเคียงข้างอิสราเอลในยูเอ็น เพื่อต่อต้านการหลอกลวงและความเกลียดชังที่พวกเราเผชิญอยู่ในองค์กรแห่งนี้” ดานอน กล่าว กระนั้น สิ่งที่ต้องรอดูกันต่อไปคือ ทรัมป์จะแต่งตั้งให้ใครเป็นตัวแทนของสหรัฐในยูเอ็น.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES