@@@@ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ไทย-ออสเตรเลีย : โอกาสและความท้าทายในโลกที่ผันผวน” ในงานสัมมนาวิชาการ Asia Forward Series ที่จัดโดยสถาบันเอเชียศึกษา ณ หอแสดงดนตรี อาคารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากภาคส่วนต่าง ๆ อาทิ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ และสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศในประเทศไทย ตลอดจนนิสิตนักศึกษาที่สนใจประมาณ 200 คน
ในโอกาสดังกล่าว เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงความท้าทายที่ประชาคมระหว่างประเทศและไทยกำลังเผชิญ ซึ่งไทยควรต้องร่วมมือกับมิตรประเทศและหุ้นส่วนต่าง ๆ รวมถึงออสเตรเลียเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวเน้นถึงจุดแข็ง/จุดเด่นของความสัมพันธ์ไทย – ออสเตรเลียในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านการเมืองความมั่นคง เศรษฐกิจและประชาชนต่อประชาชน และเสนอแนะโอกาสของความร่วมมือระหว่างไทยกับออสเตรเลียในอนาคต โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงของมนุษย์ที่ทั้งสองฝ่ายสามารถเสริมซึ่งกันและกันได้ และสอดรับกับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ค.ศ. ๒๐๔๐ ของออสเตรเลีย
โดยเน้น (๑) การส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข อาหารและการเกษตร และพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน (๒) การส่งเสริมการสร้างและเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่าง Start-ups และ SMEs (3) การส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (๔) การส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัน และ (๕) การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไตรภาคีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย และประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และหมู่เกาะแปซิฟิก
เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ไทย-ออสเตรเลีย : โอกาสและความท้าทายในโลกที่ผันผวน” ในงานสัมมนาวิชาการ Asia Forward Series ที่จัดโดยสถาบันเอเชียศึกษา ณ หอแสดงดนตรี อาคารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
@@@@ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เตือนคนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานฟาร์มเกษตรที่ประเทศออสเตรเลีย อย่าหลงเชื่อโฆษณาชักชวนไปทำงานบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอ้างว่ารัฐบาลออสเตรเลียร่วมกับกระทรวงแรงงานจัดหาแรงงานไปทำงานฟาร์มเกษตรในออสเตรเลีย โดยจะได้วีซ่าทำงาน 3-5 ปีค่าตอบแทนเดือนละ 90,000 ถึง 120,000 บาท มีที่พักค่า เดินทาง ค่าวีซ่า โดยให้ผู้สนใจชำระค่าบริการจำนวนมาก เมื่อชำระครบจะอ้างว่าวีซ่าไม่ผ่าน ไม่สามารถเดินทางได้หรือเสนอให้เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเพื่อเปลี่ยนเป็นวีซ่าทำงานหรือวีซ่าผู้ลี้ภัยภายหลัง ข้อเท็จจริง ออสเตรเลียยังไม่มีความร่วมมือกับประเทศไทยด้านการส่งแรงงานและยังไม่มีนโยบายการออกวิชาเกษตรให้กับคนไทย คนไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานในออสเตรเลียสามารถยื่นขอวีซ่า Work and Holiday (WAH) โดยต้องมีคุณสมบัติตามที่ทางการออสเตรเลียกำหนด
รู้ไว้ไม่ตกเป็นเหยื่อ ก่อนเดินทางไปทำงานประเทศออสเตรเลีย ไม่มีบริษัทจัดหางานในไทยที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน เพื่อส่งคนหางานไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียระวังนายหน้าที่บอกว่ามีงานฟาร์มมีค่าตอบแทนสูง มีที่พักให้ไปด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแล้วไปเปลี่ยนเป็นวีซ่าทำงานทีหลัง อย่าตัดสินใจก่อนตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สอบถามได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทรศัพท์ 02-2456712 ถึง 3 สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ฝ่ายวีซ่า/กงสุล โทรศัพท์ 02-1056710
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย ไทยและออสเตรเลียไม่มีความตกลงว่าด้วยโครงการวีซ่าแรงงานเกษตร (Australian Agricultureat Visa) วีซ่าวีซ่าท่องเที่ยวและเยี่ยมเยียน (Visitor Visa – Subclass 600) ไม่อนุญาตให้ทำงานในออสเตรเลียได้ วีซ่าที่อนุญาตให้นายจ้างในออสเตรเลียจ้างแรงงานจากต่างประเทศได้ อาทิเช่น Temporary Skill Shortage (Subclass 482) Temporary Specialist Work (Subclass 400) Skill Work Regional (Subclass 491) Skill Nominated (Subclass 190) เป็นวีซ่าสำหรับอาชีพที่ออสเตรเลียขาดแคนและต้องมีทักษะในระดับต่างๆ โดยจะต้องมีคุณสมบัติหลายประการ อาทิ ผลสอบวัดระดับทักษะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของออสเตรเลีย และ/หรือ ต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ เป็นต้น ทั้งนี้อาชีพเก็บเกี่ยว คัดแยก และบรรจุผลผลิตทางการเกษตร มิใช่อาชีพขาดแคลนที่จะสามารถขอวีซ่าดังกล่าวได้ ออสเตรเลียยังเปิดโอกาสให้คนไทยมาทำงานเก็บเกี่ยว คัดแยก และบรรจุผลผลิตทางการเกษตได้ ผ่านวีซ่า Work and Holiday (Subclass 462) โดยจะต้องมีอายุระหว่าง 18 – 30 ปี และสมัครผ่านกรมกิจการเด็กและเยาวชน
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ขอให้ท่านใช้ความระมัดระวังในการบริโภคข้อมูลข่าวสารและโฆษณาเกี่ยวกับการส่งแรงงานไปทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย เนื่องจากอาจเป็นมิจฉาชีพที่จะหลอกลวงค่าใช้บริการ หรือ ส่งท่านไปทำงานฟาร์มที่ออสเตรเลียอย่างผิดกฎหมาย โดยกรุณาสอบถามประเภทวีซ่าและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับวิชาดังกล่าวทุกครั้ง
@@@@ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2568 เกด ปานใจ เครือดำรงค์ และ Timothy John Bonython คู่รักชาวไทยและออสเตรเลีย ได้จัดพิธีวิวาห์สุดหรู ที่ Ayers House ในนครแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนสนิทที่เดินทางมาจากหลากหลายประเทศ งานเริ่มต้นในช่วงเช้าด้วยพิธีปฏิญาณตน ซึ่งทั้งคู่ได้กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าผู้ใหญ่และแขกผู้มีเกียรติในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรัก หลังจากนั้นทั้งคู่ได้จดทะเบียนสมรสอย่างเป็นทางการตามกฎหมายออสเตรเลีย เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยความรักและความมุ่งมั่น
ในช่วงบ่าย มีพิธีสาบานตนตามแบบตะวันตก ณ Ayers House ที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม บรรยากาศของงานก็ยังคงเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความยินดีจากทุกฝ่าย โดยเจ้าสาวเลือกสวมใส่ชุดไทยสีขาวประดับด้วยลวดลายที่งดงาม ส่วนเจ้าบ่าวสวมชุดสูทสีเข้มอย่างสง่างามซึ่งสร้างความประทับใจให้กับแขกทุกคน ช่วงเย็นเป็นช่วงที่ทั้งคู่เปิดตัวในฐานะสามีภรรยาคู่ใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความยินดี แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมกันทานอาหารเลี้ยงและสนุกสนานกับการเต้นรำร่วมกับบ่าวสาว สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาร่วมงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะสาวไทยเพื่อนๆของเจ้าสาวที่แต่งตัวมาเฉิดฉายในงานเรียกเสียงฮือฮากันมากมายพราะสั่งตัดชุดมาจากเมืองไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ งานแต่งงานครั้งนี้สะท้อนถึงความรักที่งดงามและการรวมสองวัฒนธรรมที่แตกต่างเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เจ้าบ่าว เจ้าสาว ได้กล่าวขอบคุณทุกคนจากใจที่มาร่วมเฉลิมฉลองความรักของทั้งคู่ และช่วยทำให้วันนี้กลายเป็นวันแห่งความทรงจำ ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ช่วยทำวันนี้ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ความรักและการสนับสนุนของทุกคนทำให้ทุกอย่างงดงามเกินคำบรรยาย รวมถึงครอบครัวและเพื่อน ๆ ของทั้งสองฝ่ายที่ทำให้รู้สึกว่า เราคือครอบครัวเดียวกัน สุดท้ายแล้วการมีทุกท่านอยู่ในงานวันนี้คือของขวัญล้ำค่าที่สุดในชีวิตของทั้งคู่ ขอบคุณจากใจที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในความรัก
ปานใจ เครือดำรงค์ และ Timothy John Bonython คู่รักชาวไทยและออสเตรเลีย จัดพิธีวิวาห์สุดหรู ที่ Ayers House ในนครแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ท่ามกลางครอบครัวและเพื่อนสนิทที่เดินทางมาจากหลากหลายประเทศเ มื่อวันที่ 4 มกราคม 2568
ช่วงเย็นเป็นช่วงที่ทั้งคู่เปิดตัวในฐานะสามีภรรยาคู่ใหม่ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความยินดี แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมกันทานอาหารเลี้ยงและสนุกสนานกับการเต้นรำร่วมกับบ่าวสาว สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่มาร่วมงานอย่างเต็มที่
@@@@ ในวันเสาร์ที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. จะมีพิธีเททองหล่อองค์พระพุทธรูป (พระพุทธวรายุวัฒนศาสดา) ขนาด 29“
พระพุทธรูปประจำองค์ สมเด็จพระสังฆราช 8 รอบ 96 พรรษา ณ ลานด้านหน้า พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพมหานคร เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานพิธีเททองหล่อองค์พระพุทธรูป เพื่อนำมาประดิษฐาน อาคารที่พักสงฆ์ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระสังฆราช ณ วัดธรรมรังษี เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ผู้ที่ต้องการร่วมทำบุญ สามารถโอนเงินทำบุญ
เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี Account number : 478-025642-9 พระครูธานี สิทธิบูรณะ บอกบุญตามกำลังศรัทธา ขออนุโมทนา
@@@@ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา สามสาวตระกูล สิมโนนม่วง ได้จัดพิธีทำบุญขึ้นปีใหม่ ที่ ร้านนัวลาวไทย Haymarket ซึ่งทางร้านได้จัดประจำทุกปีเป็นระเวลากว่า 14 ปีแล้ว เพื่อสืบทอดประเพณีที่ดีงาม และสืบยอดต่อยอดพระพุุทธศาสนาในต่างแดนด้วย
โดยได้รับความเมตตาจาก หลวงตาสมัย พระธรรมวชิรรังษี เจ้าอาวาสวัดพุทธรังษี ลูเมียร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการทำพิธีในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีด้วยความเป็นศิริมงคลตลอดปี และตลอดไป ทำบุญเลี้ยงพระเสร็จ ก็เลี้ยงคนต่อ แขกเต็มร้านเพราะเจ้าภาพเชิญแบบไม่นับจำนวน ถาม อ้อม อมรรัตน์ สิมโนนม่วง ว่าตั้งแต่ย้ายร้านมาเปิดที่ใหม่เป็นอย่างไร เธอบอก ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่า การไปวัดเป็นประจำนี่ได้กุศลทันตาเลยนะคะ คุณติน่าซึ่งเป็นโยมอุปถัมภ์วัดให้ความเมตตาคิดค่าเช่าในราคาคนวัด ราคาครึ่งต่อครึ่งจากร้านเก่าเลย แล้วที่นี่โลเกชั่นดีมากใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้ตลาด แน่นอนคะ แขกเต็มร้านทุกวัน ร้านนัวลาวไทย ย้ายมาที่ shop 2, 203-209 Thomas street, Haymarket Sydney โทร 0292813180
สามสาวตระกูล สิมโนนม่วง ได้จัดพิธีทำบุญขึ้นปีใหม่ ที่ ร้านนัวลาวไทย Haymarket ซึ่งทางร้านได้จัดประจำทุกปีเป็นระเวลากว่า 14 ปีแล้ว เพื่อสืบทอดประเพณีที่ดีงาม และเพื่อเป็นศิริมงคลกับกิจการ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
@@@@ เมื่อวันคืนวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 วีระ ดีชัย ได้จัดงานวันเกิดของสามี ลุงบิล William De Jonson Anderson เศรษฐีนครซิดนีย์ Director of the Ultimo hotel and Pensioner hotel ครบรอบวันเกิด 86 ปี และเจ้าตัวเองครบ 55 ปี ที่ Marko’s Restaurant ในตึก Oak hotel หัวมุม Hyde Park โดยมีการบรรเลงดนตรีไทย จาก ชมรมดนตรีไทยและนาฏศิลป์แห่งประเทศออสเตรเลีย ของ ครูโอ้ต ชาญพัฒน์ จันทมูล ตลอดงาน โดยมี ดีเจตั้ม ธรรมเสริฐ ธนพงศากร พยาบาลหนุ่มใหญ่ เลิกงานรีบบึ่งรถมาดำเนินรายการได้ทันเวลา มีรำอวยพร แจกอั้งเปาตรุษจีนล่วงหน้าให้นางรำ นักดนตรี พนักงานเสริฟ ปิดท้ายด้วยการร้องรำทำเพลง คาราโอเกะและเต้นรำ ร้องเพลงฝรั่งให้ฝรั่งฟังด้วยสำเนียงไทยแบบจัดเต็ม จนแขกฝรั่งลุกหนีหายไปหมด นัยว่าเป็นกลยุทธ์ มีการถามกันออกไมค์ว่า ฝรั่งหนีกันหมดยัง จากนั้นก็เริ่มด้วยเพลงลูกทุ่งทั้งร้องทั้งเต้นกันอย่างสนุกสนานแบบไม่มีฝรั่ง
บรรยากาศฉลองงานวันเกิดคู่ ของ William De Jonson Anderson Director of the Ultimo hotel and Pensioner hotel ครบรอบวันเกิด 86 ปี และวีระ ดีชัยครบ 55 ปี ที่ Marko’s Restaurant ในตึก Oak hotel หัวมุม Hyde Park เมื่อวันคืนวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568
งานนี้ได้รับการจัดเตรียมและออกอาหารจากบรรดาเพื่อนฝูงคนสนิท ได้รับการเอาใจใส่ ดูแล และควบคุมการปรุงอาหาร โดย มาร์โก้ ทองพันธ์ มะลิวงษ์ ด้วยตนเอง จากฝีมือทีมเชฟระดับสากล Marko’s Restaurant ซึ่งจัดงานเลี้ยงให้คนไทยได้ประทับใจมาหลายงาน
@@@@ ควันหลงเมื่อสิ้นปี เอาความสนุกสนานของงาน The Alinta Energy Christmas Pageant ของ Channel 7 เมื่อคืนวันที่ 7 ธันวาคม 2567 จัดที่นครเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย มาฝาก สำหรับปีนี้ทีมไทยมาในธีม “รื่นเริงวันสงกรานต์” การแต่งกายก็จะเน้นสีสันสดใสอย่างไทยสไตล์ เสื้อลายดอก,โจงกระเบน และสไบอย่างไทยแท้ ซึ่งในปีนี้ก็นับเป็นปีที่ 5 แล้วที่ สมาคมภาษา และวัฒนธรรมไทย Centre for Thai Language and Culture of WA ทุกคนมีความตั้งใจและภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมงานเดินพาเหรดกับทางรายการโทรทัศน์ช่อง 7 เพื่อที่จะได้มีโอกาสประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย และประเพณีไทยอันดีงาม ให้กับชาวออสเตรเลียได้เรียนรู้เกี่ยวกับเมืองไทย และความเป็นไทยเพิ่มยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันกับนานาชาติ
สมาคมภาษา และวัฒนธรรมไทย Centre for Thai Language and Culture of WA เข้าร่วมเดินพาเหรดกับงาน The Alinta Energy Christmas Pageant ของ Channel 7 ที่นครเพิร์ธ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย สำหรับปีนี้ทีมไทยมาในธีม “รื่นเริงวันสงกรานต์”
@@@@ ผ่านไปได้อย่างสวยงามเช่นเคยกับอีกหนึ่งอีเว้นท์ สำหรับทีมงานของสมาคมภาษา และวัฒนธรรมไทยฯ และทีมรำจาก Thai Dance Studio Perth เมื่อคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2568 กับงาน “ASEAN End of Year function” ณ โรงแรม Duxton Hotel ที่ได้รับเชิญจาก กงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นาย Reuben Kooperman ให้ไปร่วมงาน ทางสมาคมภาษาฯ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ไปร่วมมอบความเพลิดเพลินให้กับผู้ร่วมงานทุกๆ ท่าน และยังได้ร่วมเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในโอกาสนี้อีกด้วย
ทีมงานของสมาคมภาษา และวัฒนธรรมไทยฯ และทีมรำจาก Thai Dance Studio Perth ได้รับเชิญจาก กงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย นาย Reuben Kooperman ให้ไปร่วมงาน “ASEAN End of Year function” ณ โรงแรม Duxton Hotel
ไตรภพ ซิดนีย์
