ปัจจุบันนี้ผู้ศรัทธาและนักนิยมพระแผ่ไพศาลหลากหลายอาชีพและหลากหลายคุณวุฒิ ล้วนเกิดจากประสบการณ์และความชื่นชอบส่วนตัว หนึ่งในนั้นคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) กิตติบดี ใยพูล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.)

“ผมในอดีตเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ศบน.รุ่น 99 เข้าเรียนในปี พ.ศ.2531 จนสำเร็จและเติบใหญ่ก็เริ่มทำงานเป็นนักกฎหมายในปี 2541 โดยประกอบอาชีพทนายความในสำนักงานกฎหมายและสถาบันการเงินชั้นนำ ภายหลังมีโอกาสเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมากว่า 20 ปี และเคยเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ 14-15 ปี ล้วนเป็นประสบการณ์ล้ำค่าในชีวิตเป็นอย่างมาก”

ผศ.กิตติบดี ย้อนความทรงจำวัยเด็ก โรงเรียนวัดบวรนิเวศ เหมือนเป็นที่ปลูกฝังหล่อหลอมให้เรามีหลักคิดที่เชื่อมระหว่าง บ้าน-วัด-โรงเรียนตลอดเวลา ครั้งหนึ่งในชีวิตภูมิใจมากที่สุดคือมีโอกาสได้รับความไว้วางใจทำหน้าที่นายกสมาคมศิษย์เก่าวัดบวรนิเวศ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สมณศักดิ์สมัยนั้น ปัจจุบันพระองค์ท่านได้รับโปรดเกล้าฯพระราชทานพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร) ในฐานะศิษย์เก่าวัดบวรฯ ทุกคนให้ความเคารพพระองค์ท่านเปรียบดั่งครู เป็นจิตวิญญาณนำแสงสว่าง ท่านสอนให้ “คนที่มีใจเข้มแข็ง ยิ่งถูกค่อนแคะ ยิ่งจะเกิดกำลังใจมากขึ้น” หรือคำสอนของท่านเหมือนเป็นธรรมนูญแห่งชีวิต “ทำให้เรามีคติธรรมรู้ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ก็เพราะชีวิตนี้น้อยนัก ต้องใช้ปัญญาสัมมาทิฏฐิเตือนตัวเอง เรามีชีวิตได้อีกไม่นาน เอาอะไรไปก็ไม่ได้ ชีวิตอันน้อยนี้จะได้ไม่สูญเปล่า จะได้ใช้ชีวิตให้เป็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ได้ด้วยคิดดี พูดดี ทำดี”

ผศ.กิตติบดี ตบท้ายว่า พระเครื่องที่ยึดเป็นพุทธานุสสติ มีคุณค่าทางจิตใจ เป็นสังฆานุสสติ น้อมระลึกถึงคำสอนของพระองค์ท่าน บูชาติดตัวหลัก ๆ 5 องค์ คือ พระกริ่งไพรีพินาศ 2495 พระกริ่งพุทธชินสีห์ (พระกริ่ง 7 รอบ) 2499 พระกริ่งปวเรศ 2530 วัตถุมงคลครบ 6 รอบ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และล็อกเกตเจ้าพระคุณสมเด็จฯรุ่นแรก พิมพ์ยิ้มนุก 2538 ทั้งหมดคล้องแล้วดี ชีวิตดี อยู่เย็นเป็นสุข การงานราบรื่น เจริญรุ่งเรืองและตรุษจีนปีนี้ขอให้ทุกท่านประสบโชคดีมีชัยครับ.
ซูเปอร์มู