นายโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ พยายามอย่างหนักที่จะเพิ่มอิทธิพลของสหรัฐในเวียดนาม ซึ่งเป็นอดีตศัตรู โดยมองว่าเวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์ควบคุมจีน ทว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสหรัฐกับเวียดนาม อาจอ่อนแอลง หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน จัดเก็บภาษีต่อรัฐบาลฮานอย ซึ่งเวียดนามอาจตกเป็นเป้าหมาย เพราะการเกินดุลการค้ามาก
ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป ต่างยกระดับการติดต่อกับเวียดนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่และนักการทูตของยุโรปหลายคนกล่าวว่า นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส วางแผนที่จะเดินทางเยือนเวียดนามในอีกไม่กี่เดือน พร้อมกับชี้ว่า การเดินทางข้างต้นถูกวางแผนไว้นานแล้ว และยังไม่ได้ข้อสรุป
“กระแสภาษีและการควบคุมการส่งออกกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งเราต้องการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการค้าและการลงทุนกับหุ้นส่วนที่เชื่อถือได้” ฟอน แดร์ เลเยน กล่าวผ่านคลิปวิดีโอข้อความต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งรวมตัวกันในกรุงฮานอย เมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ มาครงอาจเดินทางเยือนเวียดนามในช่วงปลายเดือน พ.ค. นี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับอดีตอารานิคมแห่งนี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังรัฐบาลปารีสยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ฟอน แดร์ เลเยน อาจเยือนเวียดนามก่อนผู้นำฝรั่งเศส เพื่อยกระดับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ
ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวเพิ่มเติมว่า นายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการด้านการค้าของอียู อาจเดินทางเยือนเวียดนามในเดือน เม.ย. นี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำนักงานของมาครง ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกับโฆษกของอีซี ซึ่งไม่สามารถยืนยันการเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการใด ๆ ได้ขณะนี้ และกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ก็ไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด
อนึ่ง อียูนำเข้าสินค้ามูลค่า 52,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) จากเวียดนาม เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการนำเข้าของสหรัฐ แต่กลุ่มยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับสามของเวียดนาม เนื่องจากข้อตกลงการค้าเสรีที่มีอยู่
ผลการสำรวจพบว่า ผู้ผลิตของสหรัฐในเวียดนาม ซึ่งธุรกิจของพวกเขาพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐ มากกว่าคู่แข่งในยุโรป คาดว่าจะมีการปรับลดพนักงาน หากทรัมป์บังคับใช้มาตรการภาษี
แม้สถานการณ์ดังกล่าว เป็นผลมาจากสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของอียูอธิบายว่าเป็น “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการค้าระดับโลก” แต่มันก็อาจทำให้เวียดนามส่งออกสินค้าไปยังอียูมากขึ้น และอาจอำนวยความสะดวกให้กับบริษัทยุโรป สำหรับการลงทุนในเวียดนาม.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP