หากติดตามข่าวสารนอกเหนือจากวงการกีฬา เชื่อว่าทุกท่านคงพอได้ยินข่าวเรื่องการประชุม “COP26” เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอยู่บ้าง

มันคือการประชุมของเหล่าผู้นำทั่วโลกที่มีข้อตกลงว่าจะร่วมกันทำงานเพื่อไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นเกินกว่า 1.5-2 องศาเซลเซียส เป็นการสู้กับภาวะโลกร้อนที่นำมาซึ่งภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายกับชาวโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ

ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับทุกชีวิตบนโลก ดังนั้นวงการกีฬาก็ย่อมต้องเกี่ยวโดยไม่อาจเลี่ยง

ในแวดงวงกีฬาอาชีพที่มีเม็ดเงินมหาศาล ย่อมมีการจ่ายเพื่อแลกกับความสะดวกสบายของทั้งนักกีฬา อย่างในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีการเปิดเผยว่าหลายทีมเลือกอำนวยความสะดวกให้กับนักเตะในทีม ด้วยการใช้เครื่องบินเป็นพาหนะเดินทางไปแข่งขันในเกมเยือนหลาย ๆ นัด

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เคยโดนวิจารณ์จากการให้ทีมบินไปแข่งในเกมเยือน เลสเตอร์ ซิตี ทั้งที่อยู่ห่างไปแค่ราว 100 ไมล์ และใช้เวลาบินแค่ 10 นาที ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ หรือ ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็เคยเลือกเดินทางโดยเครื่องบินในเกมเยือน นอริช ซิตี แม้จะใช้เวลาบินแค่ 17 นาที

หลายท่านคงทราบอยู่แล้วว่าเชื้อเพลิงที่ถูกเผาไหม้ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศคือสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก นำมาสู่ภาวะโลกร้อน และเครื่องบินก็เป็นพาหนะที่มีอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงสูงที่สุด

ในทางกลับกัน อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เคยสร้างตัวอย่างที่ดีไว้เมื่อปี 2019 ด้วยเลือกเดินทางโดยรถไฟจากฮอลแลนด์ไปยัง ฝรั่งเศส เพื่อเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเยือน ลีลล์ ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสก็ได้มีการโหวตผ่านร่างกฎหมายที่จะยกเลิกเที่ยวบินในประเทศ ในเส้นทางที่สามารถเดินทางได้โดยรถไฟในเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ในสเปน ก็เช่นกัน

ส่วนในอังกฤษก็มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งแบนเที่ยวบินในประเทศในเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟไม่ถึง 5 ชั่วโมง ซึ่งระยะห่างระหว่าง 2 สโมสรที่ห่างกันมากที่สุดของพรีเมียร์ลีก คือ นิวคาสเซิล กับ ไบรท์ตัน ซึ่งใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟราว 5 ชั่วโมงพอดิบพอดี…

แน่นอนว่าการเดินทางโดยใช้เวลา 5 ชั่วโมงในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่ทีมส่วนใหญ่จะออกเดินทางในเกมเยือน ก่อนจะต้องลงเล่นในวันเสาร์ ย่อมไม่ส่งผลดีกับร่างกายของนักกีฬา

ในมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจสโมสรเหล่านั้น และก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะเลือกเดินทางโดยเครื่องบินมันทุกเกม อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็มักโดยสารรถไฟเป็นส่วนใหญ่ในเกมที่ต้องมาเยือนลอนดอน และไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเลยเสียทีเดียว หลายทีมใหญ่มีการเซ็นเอ็มโอยูในการเดินหน้าสู่เป้าหมายที่จะลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงในอีก 10 และ 20 ปีข้างหน้า ขณะที่รถบัสของหลายทีมก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงที่เป็นไบโอดีเซล

ค่อย ๆ แก้ ค่อย ๆ ปรับกันไป เชื่อว่าในอนาคตเราน่าจะได้เห็นวงการฟุตบอล ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกว่าเดิม…

ผยองเดช