@ผ่านไปแล้วสำหรับการ”แสดงพลัง”ของ”ประชาชน” ที่”อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการ”ส่งสาร” โดยตรงไปยัง” พรรคเพื่อไทย” และ”แพทองธาร ชินวัตร” ให้”ลาออก”เพื่อ”ยุติ” บทบาทของการเป็น” นายกรัฐมนตรี” ซึ่งเป็น”ผู้นำหมายเลข 1” ของ”ประเทศไทย” เพราะ”สิ้นสุดทางเลื่อน” จากการที่”ไร้ประสบการณ์”ใน”ทุกด้าน” และที่เป็นเหมือน”ฟางเส้นสุดท้าย” ในความ”รู้สึก” ของคนในชาติคือ”คลิปเสียง” การ”สนทนา” กับ”ฮุนเซ็น” ผู้นำ”กัมพูชา” ที่เป็น”หุ้นส่วน” และเป็นผู้มี”พระคุณ” กับ”ตระกูลซิน” ในการ”หลบหนี” จาก”ประเทศไทยทั้งของ”ทักษิณ ชินวัตร” และ”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี” สองพี่น้องของ”ตระกูลชิน” นี่ไม่ร่วมการเป็น”หุ้นส่วน” ทางด้าน”ธุรกิจ” ของทั้ง”สองตระกูล” ซึ่งที่ผ่านมามีการ”ลงนาม” ใน”เอ็มโอยู” ที่ 43 และ 44 ซึ่งกลายเป็นความ”เสียหาย” ของ”ประเทศไทย” ทั้งในเรื่อง”เขตแดน” ที่” จ.สุรินทร์ ,ศรีสะเกษ,อุบลราชธานี” ซึ่งเป็น”ทางบก” และความ”เสียหาย”ใน”อ่าวไทย” ที่เป็นเรื่องของ”ทรัพยากรธรรมชาติ” ทั้ง”น้ำมัน”และ”ก๊าซ” ที่” เกาะกูด “ จังหวัดตราด…..ดังนั้น หลังจากที่”คลิปหลุด” และ”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี”แก้ตัว” ด้วยการสร้าง”คะแนน”ในการ”ตอบโต้” ต่อ”ฮุนเซ็น” ที่ตนเอง”นับญาติ” ว่าเป็น”อังเคิล” ( ลุง ) โดยใช้”กองทัพ” ในการ”ปิดด่าน” และ”ตัดไฟ” พร้อม”มาตรการ” อื่นๆ เพื่อให้”ประชาชน” เห็นว่าจะไม่มีการ”นับญาติ” กันอีกต่อไปสำหรับ”ตระกูลชิน” กับ”ตระกูลฮุน” เพื่อเป็น”เอาใจ” คนไทยทั้งประเทศ แต่ก็”อย่าเชื่อ” ว่าจะเป็น”เรื่องจริง” อาจจะเป็นเพียง”ฉากหนึ่ง”ของ” นิยายน้ำเน่า” ทาง”การเมือง” เพื่อขอต่อ”วีซ่า” ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ให้”ครม.” เดินไปได้อีก”เฮือกหนึ่ง” ซึ่งเป็น”เฮือกสุดท้าย” ก่อนที่จะถึงคิวของการ”ยุบสภา” หลังการผ่าน”กฎหมายงบประมาณ”เพื่อความ”ได้เปรียบ” ในการ”เลือกตั้ง” ครั้งใหม่……
@รวมทั้งเรื่อง”กฎหมายนิรโทษกรรม” และ”พรบ. อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ซึ่งหาก สามารถ”เข็น” ให้” พรบ.อินเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ผ่าน”สภาผู้แทนราษฎร” ไปได้” “ทุน” ในการ”เลือกตั้ง” ครั้งหน้าของ”เพื่อไทย” ก็จะ” อู้ฟู่” และ”มีสิทธิ์” ในการ”กวาด สส. เขต” ได้มากกว่าทุกพรรค เพราะ การ”เลือกตั่ง” ใน”แนวทาง” ของ” เพื่อไทย” ที่มี”ทักษิณ ชินวัตร” เป็นผู้”กำกับนโยบาย” คือการเลือกตั้งแบบ”บ้านใหญ่”เพื่อ”เอาชนะ” ทุกพรรคการเมือง…..
@การที่”พรรคเพื่อไทย” ปรับ”ครม.” ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการ”ปรับ ครม.” ที่ไม่”เห็นหัว” ของ”ประชาชน” เป็นการ”ปรับ ครม.” เพื่อ”ความอยู่รอด” ของ” รัฐบาล” ดังนั้น”บุคคล” ที่มาเป็น”เสนาบดี” จึงไม่ใครที่”โดดเด่น”พอจะเป็น”ความหวัง” ของ”ประชาชน” ในการเข้ามาเพื่อ”แก้ปัญหา” ของ”ประเทศชาติ” และของ”ประชาชน” การ”ปรับ ครม.” เช่นนี้ ปรับอีกกี่ครั้ง”ปัญหา”ของ”ประเทศ”ก็ไม่ได้รับการ”แก้ไข” แต่ยิ่งทำให้”ปัญหา” นั้นๆ เป็น”ดินพอกหางหมู”….. แต่ถึงอย่างไร ก็ไม่เห็นด้วยอยู่ดีกับการที่”แกนนำม็อบ” บางคนยัง”ใฝ่ฝัน” ที่อยากจะให้”ทหาร” ออกมา”ยึดอำนาจ” เพื่อล้ม”รัฐบาล” เพราะการ”ยึดอำนาจ” ทุกครั้งที่ผ่านมา”ขุนทหาร” ที่เข้ามาเป็น”นายกรัฐมนตรี” ก็ไม่เคย”แก้ไข” ทุก”ปัญหา” ของ”ประเทศไทย ยกตัวอย่าง 9 ปี ของ”ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ทำให้”ประชาชน” เข้าใจคำว่า”ประชาธิปไตย” ดีขึ้น หยุดการ”ซื้อเสียง”การ”ขายสิทธิ์”ไม่ได้ เพราะ”รัฐบาล”ภายใต้การ”ปกครอง”ของ”ทหาร” ก็ไม่”รู้เรื่อง”ไม่เข้าใจ”เรื่องของ”การเมือง” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ถึง 9 ปี แต่ไม่ได้แก้ปัญหา”คอร์รับปชั่น” ไม่ได้ทำการ”ปฏิรูปประเทศ” หรือ”ปฏิรูป” หน่วยงานราชการแม้แต่หน่วยเดียว ดังนั้นการแก้ปัญหาของ”ประเทศชาติ”ด้วยการ”ปฏิวัติ” หรือ”รัฐประหาร” จึงเป็นเหมือนเอา” ปัสสาวะ”มาล้าง”อุจราระ” ซึ่งเป็นเรื่อง”เลวร้าย” และ”เหม็นโฉ่” พอกัน……
@การแก้”ปัญหา” ความ”ล้มเหลว” ของ”รัฐบาล” ที่มี”พรรคเพื่อไทย” เป็น”แกนนำ” และมี”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรีจึงต้องแก้ด้วย”กฎหมาย” ด้วย”องค์กรอิสระ”และด้วย”พลังของมวลชน”ที่ต้องออกมา”ขับเคลื่อน” ให้”รัฐบาล” เห็นถึงความ”ต้องการ”ของ”ประชาชน” ให้มีการ”เปลี่ยน” ผู้ที่จะมาเป็น”ผู้นำประเทศ” ที่ไม่ใช่”แพทองธาร ชินวัตร” และ”บุคคล” ใน”ตระกูลชิน” อีกต่อไป หมดเวลาของคน”ตระกูลชิน” สำหรับ”ประเทศไทย” แล้ว…..รวมทั้งต้อง”กดดัน”พรรคร่วมรัฐบาล ที่ทำหน้าที่” โอบอุ้ม”ให้”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกต่อไป เพื่อให้”พรรคการเมือง”เหล่านั้น รู้ว่าพวกเขากำลัง”ทรยศต่อประชาชน” และ”ทรยศต่ออุดมการณ์”ของ”พรรคการเมือง” เห็นได้ชัดว่า”พรรคการเมืองเหล่านั้นไม่ได้ทำเพื่อ”ประชาชน” แต่ทำเพื่อ”พรรค”และเพื่อ”ตนเอง” ให้ได้รับ”ประโยชน์” ทั้งที่รู้ว่าอาจจะเป็น”ประโยชน์” ใน”เฮือกสุดท้าย” ก่อนจะมีการ”ยุบสภา” เพื่อการ”เลือกตั้ง” ครั้งใหม่” เพราะ”นักการเมือง” เหล่านี้ รู้ดีว่าในการ”เลือกตั้งครั้งใหม่” ต้องใช้”กระสุน” ในการ”เลือกตั้ง” ที่มากกว่า”ครั้งก่อน” การ”ร่วมรัฐบาล” โดยอ้าง”โน่น นี่ นั้น” เพื่อการสร้างความ”ชอบธรรม”ในการ”โอบอุ้มซากเน่า” เพราะต้องการ”สะสมเสบียงกรัง” เพื่อใช้ในการ”เลือกตั้ง” นั้นคือ”หมุดหมาย” ของการ”กอดคอ”เพื่อนำประเทศไปสู่”หายนะ”ของ”ประเทศชาติ” และการ”ไม่เห็นหัว”ของ”ประชาชน…..
@การ”ปิดด่านพรมแดน” ของ”กองทัพภาคที่ 1 และ กองทัพภาคที่ 2 “ เพื่อ”สั่งสอนกัมพูชา” โดยเฉพาะ”บ่อนการพนัน” ทั้งที่”ปอยเปต”และ”อื่นๆ” คนที่ได้รับ”บาดเจ็บ” นอกจาก”ฮุนเซ็น” แล้ว ยังมี”นักการเมือง” ของ”ประเทศไทย” ที่เป็น”หุ้นส่วน”ใน”บ่อน”ทั้งหมด 150 แห่ง แม้แต่”นักการเมือง” ใน”จังหวัดสงขลา” และในอีกหลายจังหวัดของ”ภาคใต้” ก็”บาดเจ็บ”และ”กระอักเลือด”กัน”ระนาว” เพราะต่างเป็น”หุ้นส่วน” ใน”บ่อน”ที่ประเทศ”กัมพูชา”กันถ้วนหน้า และ เผลอๆ “ตรวจสอบ” ให้ดี อาจจะมีชื่อเป็น”หุ้นส่วน” ในแก็งค์”ฟอกเงิน” ด้วยก็เป็นไปได้…..ส่วนเรื่อง”กัมพูชา” ไม่ซื้อ”น้ำมันไทย” ก็อย่าคิดว่า”กัมพูชา” จะไม่มี”ทางไป” เพราะ”เรือน้ำมันเถื่อน” ใน”อ่าวไทย” ลูกค้า”รายใหญ่”คือ” พ่อค้าน้ำมันเถื่อน” ที่”ฮุนเซ็น” ถือหุ้นอยู่ด้วย จำ”เสี่ยโจ้” ที่เคยมี”ข่าวฉาวโฉ่” เรื่องการ”โจรกรรมเรือบรรทุกน้ำมัน” ที่ จ.ระยอง”เมื่อปี 2567 ได้ไหม นั้นคือ”หัวขบวน”ในการ”ค้าน้ำมันเถื่อน”ให้กับ”กัมพูชา” ไหนละ”หมายจับเสี่ยโจ้” ที่” บิ๊กเต่า” เคย”แถลงข่าว” ว่าเป็นผู้”บงการ” ให้มีการ”โจรกรรมเรือน้ำมันของกลางทั่ง 4 ลำ สุดท้ายก็เป็นแค่”ราคาคุย”เพราะวันนี้”เสี่ยโจ้” ยัง”ลอยหน้าลอยตา”ใน”ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน”เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น……..
@ป่วนทั่วภาคใต้ นั้นคือ”ปฏิบัติการ”ของ”บีอาร์เอ็น” ที่ส่ง”แนวร่วม” ที่ได้รับการ”ฝึกใหม่” ที่เรียกว่า”หน้าขาว” นำ”ระเบิดแสวงเครื่อง” จาก”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ไป”ก่อวินาศกรรม” ใน”จังหวัดที่เป็น”เมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว”ของ”ภาคใต้” ตั้งแต่”เกาะภูเก็ต, จ.ภูเก็ต ถึง 5-6 จุดด้วยกัน ตั้งแต่”ท่าอากาศยานภูเก็ต” จนถึง”ชายหาด” ต่างๆ เช่น”ป่าตอง, แหลมพรหมเทพ,หาสุรินทร์” และอื่นๆ รวมทั้ง”หลายจุดของ”จังหวัดกระบี่”และใน”เมืองพังงา” จ.พังงา ทั้งหมดเป็น”ยุทธศาสตร์” ในการ”ทำลายเศรษฐกิจ” ของ”ภาคใต้” ตามที่”บีอาร์เอ็น”ได้”ประกาศ”ไว้ชัดเจนใน”ยุทธศาสตร์”การ”แบ่งแยกดินแดน”ของ”บีอาร์เอ็น”…..นี่ถ้า”ตำรวจ” ที่ตั้ง”จุดตรวจ” ใน จ.พังงา ไม่”ตรวจพบ” รถเก๋งที่”ขนอุปกรณ์”ในการ”ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง” พร้อม”ผู้ต้องหา 2 คน”และจากการ”สอบสวน” ผู้ต้องหา ทำให้”ตำรวจ” สามารถติดตาม”ความเคลื่อนไหว” ของ”ขบวนการ” จนสามารถ”เก็บกู้ระเบิด” ได้”หลายจุด” รวมทั้งสามารถ”ขยายผล” ในการ”จับกุม” กลุ่ม”แนวร่วม” ทั้งที่เป็น”เครือข่าย” ของ”นักการเมืองท้องถิ่น” ใน จ.ปัตตานี และใน อ.เมือง จ.ยะลา ในขณะที่”บางคน” ยัง หลบหนีอยู่ในพื้นที่ของ” จังหวัดพัทลุง” แสดงให้เห็นว่า” บีอาร์เอ็น” มีการสร้าง”เครือข่าย” ในทุก”จังหวัด”ใน”ภาคใต้” เพื่อใช้ในการ”ปฏิบัติการ” หาก”จำเป็น” หรือ”ต้องการ” ดีที่มีการ”จับกุม” และ”สอบสวน” จนได้”ความจริง”ไม่ว่านั้น คงเกิดการ”บาดเจ็บ” หรือ”ล้มตาย” เพราะ”ระเบิดแสวงเครื่อง” ทั้งหมดตั้งเวลาให้”ระเบิด”พร้อมกันในวันที่ 30 มิ.ย……
@ที่”สำคัญ” ใน เมืองท่องเที่ยว หลายแห่งที่มี”ทะเล” อย่าง”เกาะสมุย “ จ.สุราษฎร์ธานี และ”หาดทราย” มากมายที่ “จังหวัดตรัง” และ”เกาะหลีเป๊ะ” จ.สตูล รวมทั่ง”หาดสมิหลา “ จ.สงขลา ก็คือ”เป้าหมาย” ในการ”ก่อวินาศกรรม” ซึ่งต้องถามว่า ณ วันนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบมี”ความพร้อม” แค่ไหน ในการ”หาข่าว” ความ”เคลื่อนไหว” ของ”แนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน”บีอาร์เอ็น” ในแต่ละจังหวัด ที่”สำคัญ” ถ้าไม่มีการ”ปฏิบัติการ” ใดๆ ใน”จังหวัด”ที่กล่าวมา ซึ่งเป็น”เมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว” โดยปล่อยให้”แนวร่วม” ของ”บีอาร์เอ็น” มีความ”เติบโต” และมี”แนวร่วม” มากขึ้น” จะทำให้การ”ก่อการร้าย” ขยายพื้นที่จาก”จังหวัดชายแดนภาคใต้” เท่ากับ”เป็นการ”ขยายพื้นที่”ของการ”ก่อการร้าย”ทั่ว”ภาคใต้” เรื่องนี้ทั้ง”รัฐบาล” และ”ฝ่ายความมั่นคง” จะแก้”ปัญหา” ที่เกิดขึ้นอย่างไร และที่”สำคัญ” ต้องการเห็น”บทบาท”ของ”กอ.รมน.จังหวัด” ที่มีอยู่ทุก”จังหวัด” ให้เข้ามามี”บทบาท” และ”หน้าที่” ในเรื่องของการ”ติดตาม” ความ”เคลื่อนไหว” ของ”บีอาร์เอ็น” โดยเฉพาะ ”กอ.รมน.จังหวัด” ถูก “สังคม” ถามถึง”บทบาท” และ”หน้าที่” มาโดยตลอดว่ามีการทำ”หน้าที่”ให้เกิดความ”คุ้มค่า” หรือไม่อย่างไร ที่ผ่านมามี”ผลงาน” ที่พอจะ”เป็นชิ้นเป็นอัน” ที่เกี่ยวกับปัญหาของ”ความมั่นคง” อย่างไร อย่าลืมว่า”งบประมาณ”ของ” กอ.รมน.”จำนวน 7,000 ล้านบาท อยู่ที่ “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3,000 ล้านบาท ที่เหลือ 4,000 ล้าน “กระจาย” อยู่ในทุกจังหวัด ที่นอกเหนือจาก””สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ดังนั้นเรื่องของ”ขบวนการบีอาร์เอ็น” จึงเป็นเรื่อง”เร่งด่วน”ของ”กอ.รมน.จังหวัด”ใน”ภาคใต้” โดยเฉพาะ”ผู้ว่าราชการจังหวัด” ต้องให้ความ”ใส่ใจ” ในเรื่องนี้ให้มากที่สุด…..
@เรื่องการ”วางระเบิดแสวงเครื่อง”ที่เกิดขึ้นกับ”เมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว”อย่าง” ภูเก็ต,พังงา,กระบี่” แค่ “สามจังหวัด” และเป็น”ระเบิด” ที่”กู้ได้ทัน โดยไม่มีใครต้อง”บาดเจ็บ”หรือ”ล้มตาย” ยังสร้างความ”เสียหาย” ให้กับ”เศรษฐกิจการท่องเที่ยว” ถึงขนาดนี้ ถ้า”ตรวจไม่พบ” และมีการ”ระบิดขึ้น” การ”ท่องเที่ยว” ของ”จังหวัดทั้งสาม” จะ”เสียหาย” ขนาดไหน สำหรับ”ปัญหา”นี้คงไม่ต้องไปถาม”แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีว่าจะ”แก้” อย่างไร เพราะแค่เรื่อง”สารพิษ” ใน”แม่น้ำกก” ที่”จ.เชียงราย” นายกรัฐมนตรี” ยังไม่”กล้า” ที่จะตอบนักข่าว”…..ส่วน”บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย”ที่เป็น”รองนายกฝ่ายความมั่นคง” ที่ให้”สัมภาษณ์”กับ”นักข่าว”ว่า “รัฐบาล”มีความพร้อมในการ”รับมือ” สถานการณ์ และสามารถ”รับมือ”กับ” สถานการณ์” ที่เกิดขึ้นได้ คำตอบแค่นี้ยัง”ไม่พอ” ในการสร้างความ”มั่นใจ” ให้เกิดขึ้น…..
@เช่นเดียวกับ”พล.ท.ไพศาล หนูสังข์” แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 “ ที่การ”ติดตามจับกุม” ได้”ผู้ต้องหา” ที่ร่วมใน”ขบวนการ”ได้”จำนวนหนึ่ง” ยังไม่”เพียงพอ” ในการทำให้”สถานการณ์”ของ”ภาคใต้”ดีขึ้น การ”จับกุม” ได้”แนวร่วม” หรือ”สมาชิก” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้เป็น “จำนวนมาก” เป็นการสร้างความ”อ่อนแอ” ให้กับ”ขบวนการบีอาร์เอ็นใน”อนาคต” แต่ ปัญหาใหญ่ ณ วันนี้คือ ทำอย่างไรในการ”ป้องกัน” อย่าให้”บีอาร์เอ็น” ก่อเหตุ และสามารถ”ขยายพื้นที่” การ”ก่อเหตุ”ในทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้…..เพราะ”ลำพัง” การ”ก่อเหตุ” ในพื้นที่ของ”สามจังหวัด”และ”สี่อำเภอ”ของ”จังหวัดสงขลา” ก็”เสียหาย” มากพอแล้ว อย่าง”ล่าสุด” ที่”กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็นจำนวน”ครึ่งร้อย” บุกเข้า”โจมตี” ชุดคุ้มครองตำบล ที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ทำให้มี”ทหาร” ที่เป็น”เจ้าหน้าที่” และ” อาสารักษาดินแดน” ได้รับ”บาดเจ็บ” จำนวน 2 ซึ่งจากการ”ตรวจสอบ” พบว่า” กองกำลังติดอาวุธ” ยกพวกเข้า”โจมตีฐาน” ทั้ง”สามด้าน” ด้วย”ไปป์บอมบ์” และ”เอ็ม 79” รวมทั้ง”อาวุธปืนสงคราม”นาๆชนิด เพื่อหวัง”ละลายฐาน” แสดงให้เห็นว่า”ฐานปฏิบัติการ” ของ”ชุดคุ้มครองตำบล” ไม่มีการ”ลาดตระเวนนอกฐาน” จึงปล่อยให้”กองกำลังติดอาวุธ” เข้า”ประชิดฐาน”ได้อย่าง”ง่ายดาย” นี่ยังถือเป็นความ”เข้มแข็ง” ของ”ชคต.เกียร์” ที่ในวันเกิดเหตุมี “กำลังครบ” และ”ต่อสู้” อย่าง”เหนียวแน่น” ทำให้”รักษาฐาน”ไว้ได้
@การโจมตี”อย่างนี้ไม่ใช่การ”โจมตี”แบบ”ฉาบฉวย” เพียงแต่เมื่อถูก”ต่อต้าน”อย่าง”เหนียวแน่น” จึงรีบ”ล่าถอย” และ เหตุการณ์อย่างนี้ยังต้องเกิดขึ้นอีกหลายพื้นที่ ดังนั้น” ชคต.” ทุกพื้นที่ต้องมีแผนใน”เชิงรุก” เพื่อ”โต้กลับ” ไม่ใช่การ”ตั้งรับ” เพื่อ”รักษาฐาน” มิให้ถูก”ละลาย” จาก” กองกำลังติดอาวุธ”ของ”บีอาร์เอ็น” เพียงอย่างเดียว รวมทั้งต้อง”เร่งรัด” งาน”มวลชน” ในพื้นที่ ที่เป็นที่ตั้งของ”ฐานปฏิบัติการ” เพื่อให้”เป็นหูเป็นตา” ให้กับ”ชุดคุ้มครองตำบล” เพราะการที่”ไม่รู้เขารู้เรา” ถูก”โจมตี” โดยที่ไม่มี”งานการข่าว” แสดงว่า”ชุด ชคต.” ที่ตั้งอยู่ไม่มี”มวลชน” เพื่อ”เป็นหูเป็นตา” เพราะ”เป็นไปไม่ได้” ที่คนใน”พื้นที่” ที่มีการ”ตั้งฐานปฏิบัติการ” จะ”ไม่รู้เหนือรู้ใต้” ในเมืองทุก”หมู่บ้าน” ต่างมี”แนวร่วม” ที่”บีอาร์เอ็น” สร้างไว้ถึงหมู่บ้าน 6 ฝ่าย จำได้หรือไม่ว่า ทุกครั้งที่มีการ”โจมตีฐาน” หรือ”โจมตีโรงพัก” หรือ”หน่วยงานของรัฐ” บ้านเรือน ร้านค้า ที่อยู่”ใกล้เคียง” ต่างมีการ”ปิดบ้าน,ปิดร้าน”อย่าง”สามัคคีชุมชุม” นั่นเพราะ”เข้ารู้ล่วงหน้า” แต่” เจ้าหน้าที่”ต่างหากที่”หูหนวกตาบอด” เพราะไม่มี”มวลชน” ไม่มีงาน”การข่าว” คอย”สนับสนุน”และนี้คือ”จุดบอด” อัน”ใหญ่หลวง” ที่”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ไม่เคย”แก้ไข” ให้”ดีขึ้น”…..
@ก็ต้องติดตามดูว่า หลังจากที่”มหาดไทย” มี”นายใหม่” ที่ชื่อ”บิ๊กอ้วน” หรือ” ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็น”เสนาบดี” แทน” เสี่ยหนู” หรือ”อนุทิน ชาญวีรกุล” จะมีการ”ปรับปรุง”การ”ปฏิบัติหน้าที่”ในการ”ป้องกัน”เหตุร้ายของ”ฝ่ายปกครอง”ตั้งแต่”ปลัดตำบล” จนถึง”นายอำเภอ”และ” ผู้ว่าราชการจังหวัด”อย่างไร เพื่อให้”ฝ่ายปกครอง”ไม่ทำการ”ลอยตัว” อยู่เหนือปัญหา”การก่อความมาสงบ” ในพื้นที่ โดยเฉพาะ”เครื่องมือ” ที่มีความ”สำคัญ” ในการ”แก้ปัญหา” ความ”รุนแรง” อย่าง”ผู้ใหญ่บ้าน,กำนัน” จะสามารถ”ช่วยเหลือ” ในการ”แก้ปัญหา” ในเวลา”กี่โมง” หรือ”เพื่อไทย” ต้องการยึด”มหาดไทย” เพื่อใช้”ประโยชน์” ในการ”เลือกตั้ง” ผู้แทนราษฎร ในสมัยหน้าเท่านั้น…..
@เรื่องการ”บุกรุกที่ดิน” โดยผู้มี”อิทธิพล”ใน”เกาะภูเก็ต” ยังเป็น”ปัญหาใหญ่” ล่าสุดแม้แต่”ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ที่ลงไป”ตรวจสอบ” ที่ซึ่งมีการ”บุกรุก” ที่”หาดนุ้ย” ยังถูก”มาเฟีย” ทำการ”ขับไล่” ไม่ให้เข้า”ตรวจสอบ” ในพื้นที่ และ นอกจากเรื่อง”ที่ดิน” ที่ยังมีการ”บุกรุก” ที่หลวงแล้ว “ภูเก็ต” ยังมี”มาเฟีย” ที่เป็นทั้ง”คนไทย” และ”ต่างชาติ” เรื่องนี้เป็นเรื่อง”คาราคาซัง” ที่ไม่เคยมีการ”แก้ปัญหา” ให้”สะเด็ดน้ำ” เหตุผลที่”มาเฟีย” ใหญ่กว่า”ตำรวจ” และ”ผู้ว่าราชการจังหวัด” เป็นเพราะการ”สวาปามผลประโยชน์” ที่ถูก”หยิบยื่น”ให้ เรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องที่”ท้าทาย” ทั้ง” เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย” และ” ผบ.ตร.พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ …..
@”พูดแล้วทำ” หลังรับตำแหน่ง”นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ “ จ.สงขลาอย่าง”เป็นทางการ” ปลัดแป้น” หรือ” ณรงค์พร ณ พัทลุง” ก็ทำตามที่ได้”หาเสียง”กับ”คนหาดใหญ่” ในทันที ด้วยการ”ลดจำนวนช่อง”ขาว-แดง” ที่เป็นปัญหาของการ”จอดรถ” ที่ทำให้เป็นปัญหา”จราจร”และทำให้”การค้าซบเซา”เพราะไม่มีที่”จอดรถ” และกลายเป็น”ช่องทาง” ทำมาหากิน” ของ”ตำรวจจราจร” รวมทั้งทำการ”ห้าม” เจ้าของอาคารบ้านเรือนยึด”ถนนหน้าบ้าน” เป็นของ”ส่วนตัว” ด้วยการเอา”เก้าอี้” มาวาง”กีดขวาง” ไม่ให้”ประชาชน” ทำการ”จอดรถ” ที่”หน้าบ้าน” ทั้งที่เป็น”ถนนหลวง”ทำให้”ประชาชน” ที่เข้ามา”เมืองหาดใหญ่” ไม่อยากเข้ามาเพราะหาที่”จอดรถไม่ได้”….. ส่วนอีกเรื่องที่”หาเสียง”เอาไว้ นั้นคือ”การก่อสร้างโรงพยาบาล”ใน”ที่ดิน”ของ”เทศบาล” เพื่อให้”บริการ”ประชาชน”ใน”เขตเทศบาล” ลดความ”แออัด” ของ”โรงพยาบาลหาดใหญ่” ซึ่งคงต้องรอดูความ”สามารถ”ของ”ปลัดแป้น” ในการ”วิ่งเต้น”เพื่อหา”งบประมาณ” ในการก่อสร้าง ยุคที่” หลวงคร” พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี” เป็น”นายกเทศบาลนครหาดใหญ่” คน”หาดใหญ่”ได้”ศูนย์การค้า” หรือ”ตลาดแห่งใหญ่ ในวงเงิน 800 ล้าน เพื่อการ”ค้าขาย” และได้”ทางเท้า” หรือ”ฟุตบาธ” คืนกลับมาให้”ประชาชน” ยุคของ”ปลัดแป้น” มีการ”ลดช่อง ขาว-แดง” เพื่อแก้ปัญหา”จราจร” และ ใน”อนาคต” จะมี”โรงพยาบาล” เป็นของ”เทศบาล” ……
@”คนดีศรีสังคม” ที่”ผู้บริหารจังหวัดสงขลา” มองข้าม คือ”เฉลิมชัย ครุอำโพธิ์” นักธุรกิจผู้บริจาคเงิน”สร้างโรงพยาบาลสิงหนคร”ถึง 30-40 ล้านบาท และ บริจาคให้”โรงพยาบาล” ต่างๆ ทั้ง มอ.หาดใหญ่ และ โรงพยาบาลใน จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุด”มอบเงิน” ให้” โรงพยาบาลสงขลา” เพื่อเป็น”การกุศล” ที่ “สำคัญ” เถ้าแก่หลี” เป็นผู้ที่มีใจ”เที่ยงธรรม” กล้าที่จะ”วิพากษ์วิจารณ์” เรื่องการ”ฉ้อราษฎร์บังหลวง” ของ”หน่วยงานราชการ”แบบ”ถึงลูกถึงคน” ล่าสุดคือการ”วิพากษ์วิจารณ์” การใช้”งบประมาณ” ในการ”เช่าเครื่องมือก่อสร้าง”ของ” อบจ.สงขลา” ทั้งที่มี”ลูกชาย” ของตนเองนั่งเป็น”ผู้บริหาร อบจ.อยู่ด้วย “บุคคล”อย่างนี้จึงสมควรที่”หน่วยงานรัฐ ต้อง”ยกย่อง”ให้เป็น”บุคคลต้นแบบ” โดยเฉพาะ” ปปช.ต้องให้การ”ส่งเสริม”….. แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก
—————————————————————–
//////////////////////////////////////////////////

ลงใต้. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์ การก่อเหตุ ความรุนแรง ของ กองกำลังติดอาวุธบีอาร์เอ็น ที่ขยายพื้นที่การก่อเหตุจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปยังเมืองท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ โดยมี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4ให้การต้อนรับ ณ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
//////////////////////////////////////////////

ยกทัพ. พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำครอบครัวกลุ่มเปราะบาง ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย เดินทางจากพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเยี่ยมผู้ถูกคุมขัง ณ เรือนจำบางขวาง-คลองเปรม กว่า 70 คน โดยออกเดินทางจาก ศอ.บต. อ.เมือง จ.ยะลา
///////////////////////////////////////

เปิดงาน. วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดงาน “ราชภัฏยะลา พัฒนาท้องถิ่นชายแดนใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2568” พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ภายใต้แนวคิด “คลังปัญญาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนสู่สากล” ซึ่งสะท้อนบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นชายแดนภาคใต้ โดยมี รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช นายกสภาฯและ ผศ.ดร.ศิริชัย นามบุรี อธิการบดีมหาวิทยาราชภัฎยะลาและแขกผู้มีเกียรติให้การต้อนรับ ณ หอประชุมฯมหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา
///////////////////////////////////////////////

เส้นทางใหม่. ว่าที่ ร.ต. ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส เปิดเส้นทางใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” ของสายการบินแอร์เอเชีย ก้าวสู่ปีที่ 21 ในการเป็นครอบครัวเเละให้บริการชาวนราธิวาส เริ่มบินตรงปฐมฤกษ์เส้นทางบินใหม่ “นราธิวาส-สุวรรณภูมิ” ทุกวันๆ ละ 1 เที่ยวบิน เสริมทัพเส้นทาง “นราธิวาส-ดอนเมือง” สูงสุด 2 เที่ยวบินต่อวัน ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยมี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมงาน ณ ท่าอากาศยานนราธิวาส
////////////////////////////////////////////

ร่วมพบปะ. พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย อนุชิต กาญจนานุชิต วิศาล จิรภาพงพันธ์ นฤมินทร์ อามิน รองนายกเทศมนตรี ปลัดเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล พร้อมด้วยผู้บริหารสถานศึกษา ร่วมพบปะและให้กำลังใจคณะครูและนักเรียนที่เดินทางเข้าร่วมแข่งขันทักษะทางวิชาการระดับภาคใต้ ซึ่งเทศบาลนครยะลา เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 46 รายการ โดย อบจ.สุราษฎร์ธานี เป็นเจ้าภาพ ณ อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา
/////////////////////////////////////

นายมุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา เปิดโครงการมหกรรมตาดีกาสัมพันธ์ ประจำปี 2568 “กิจกรรมตาดีกาสัมพันธ์อำเภอรามัน ครั้งที่ 12 ประจำปี 2568” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 – 29 มิถุนายน 2568 โดยมีเด็ก เยาวชน ผู้สอนจากศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) ทั้ง 16 อำเภอในจังหวัดยะลา จำนวน 3,200 คน ณ ที่ว่าการอำเภอรามัน จ.ยะลา
/////////////////////////////////////////

ลูกเสือไทย-มาเลย์. สราวุธ ยอดรักษ์ ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 3 เป็นประธานสวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ ( ไทย-มาเลเซีย) ประจำปี 2568 ณ สนามกีฬากลางเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา
/////////////////////////////////////////

ต้อนรับ. โชตินรินทร์ เกิดสม ผวจ. สงขลา ให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจจากมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี. นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนาย Jia Qiang ประธานคณะกรรมการผู้ประกอบการรุ่นใหม่มณฑลเสฉวนณห้องรับรอง. ผวจ.สงขลา
//////////////////////////////////////////////////

ทางรอด. สิทธิ์ศักดิ์ ตันมงคล เลขาธิการสภาเศรษฐกิจหาดใหญ่ได้ให้การต้อนรับ ศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมในโอกาสมาเสวนาทางรอดเศรษฐกิจหาดใหญ่ ณ โรงแรมนิวซีชั่นหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
//////////////////////////////////////////

ยื่นหนังสือ. วีระชัย พรรณราย. เป็นตัวแทน สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสงขลาธานี ได้เข้ายื่นหนังสือข้อร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้มีการจัดการและเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินส่วนกลางที่จัดสรรไว้ เพื่อรองรับกิจกรรมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนณศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดสงขลา

บรรยายภาพ a11ติดตาม. ประชุมสรุปการติดตามโครงการ คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองปอน ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองนางน้อย หมู่ที่ 10 ตำบลละมอ อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง และโครงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
////////////////////////////////////////////

สร้างภูมิ. ณ โรงเรียนบ้านหินคอกควาย ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ธวัชชัย เพชรหวล รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เป็นประธานเปิดโครงการอบรม นักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 60 คน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กวัยเรียน วัยใส ไม่เสพ ไม่ท้อง ไม่ติดเกม ให้รู้ทันต่อการใช้ชีวิตประจำวันรวมทั้งการสร้างเครือข่าย แกนนำขยายผลในพื้นที่
/////////////////////////////////////////

ต้านโกง. บัณฑิต คณะสุวรรณ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรังพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกัน กรรมการชมรมตรังต้านโกง จัดอบรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครอง ได้ตระหนักถึงหน้าที่ตามพระราชบัญญัติปกครองท้องที่ ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ของฝ่ายปกครอง เพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านกฎหมาย และบทบาทในการเฝ้าระวัง การใช้อำนาจรัฐในพื้นที่ สามารถร่วมตรวจสอบการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานของรัฐที่เข้ามาดำเนินโครงการในพื้นที่ ณ โรงแรมเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ตรัง
//////////////////////////////////////////

ช่วยเหลือ. แวหะมะกูซี อีปง ประธานสภาเทศบาลตำบลรือเสาะ พร้อมด้วย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรือเสาะ ร่วมกับ นูรอัยณี เศรษฐเอกพันธ์ หัวหน้าฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการ ลงพื้นที่ดำเนินการมอบกระเบื้องหลังคา ให้แก่บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุวาตภัยในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
////////////////////////////////////////////

บรรยายภาพ a15พัฒนาพื้นที่ . อาดัม มะลาบู นายกเทศมนตรีตำบลเมืองรามันห์ มอบหมายให้ วันมูสตอพา แวหะยี รองนายกเทศมนตรีคนที่ 1 ฮาลีเมาะ มะเด็งมารอุมา รอง นายกเทศมนตรีคนที่ 2 พร้อมด้วย สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเมืองรามันห์ นำกำลังพนักงานเทศบาล ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ,พนักงานกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และพนักงานกองช่างเทศบาลตำบลเมืองรามันห์ ลงพื้นที่ พัฒนาทำการถางป่า ตัดหญ้าริมถนน เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรอย่างปลอดภัย
////////////////////////////////////////////

บรรยายภาพ a16สานสัมพันธ์. พ.ต.ท.ณัตฐเขตต์ ชนะพล สวญ.สภ.ตาเซะ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา พร้อมด้วยทีมงาน ออกพบปะเยี่ยมพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ , หมู่ที่ 1 บ้านยุโป , หมู่ที่ 2 บ้านตากแดด หมู่ที่ 3 บ้านบาโด เพื่อสร้างความสัมพันธ์ แนะนำข่าวสาร และการระวังป้องกันตนเอง พร้อมช่องทางรับแจ้งเหตุ ณ ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา
////////////////////////////////////////////