สารพัดปัญหาถาโถมเข้าใส่ รัฐบาลเรือเหล็ก ที่ต้องพิสูจน์ ว่าจะสามารถนำพาประเทศ และประชาชนออกจากวิกฤติความเดือดร้อน ที่เวลานี้ต้องบอกเลย ว่าเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้าชาวนาต้องปาดน้ำตา ประสบปัญหาของแพง ราคาข้าวตก “ทีมการเมืองเดลินิวส์” จึงมาสนทนากับ “กัปตันอู๊ดด้า-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ผลโพล หลายสำนักระบุประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจในการเลือกตั้งสมัยหน้า

โดย “จุรินทร์” เปิดฉากกล่าวว่า กรณีดราม่าเรื่องราคาข้าวตกต่ำ รัฐบาลถูกคนวิจารณ์มาก ผมมั่นใจว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องนี้เป็นความปรารถนาดีต่อการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีหลักประกันรายได้ในการปลูกพืชที่ประกันรายได้เอาไว้ว่า ถ้าเขาตั้งใจผลิตพืชผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็น ข้าว มัน ยาง ปาล์ม ข้าวโพด ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานแล้ว เขาจะมีหลักประกันในเรื่องของรายได้ตามรายได้ที่ประกันแน่นอน แม้ว่าพืชผลเกษตรตัวนั้นในบางช่วงอาจจะตกต่ำลงไป แต่ก็จะมีรายได้จากการขายพืชผลการเกษตรในราคาตก และมีเงินส่วนต่างเข้าไปช่วยชดเชย ทำให้เกษตรกรมีรายได้ตามรายได้ที่มั่นคง

@ มีรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลออกมาร่วมวิพากษ์ว่านโยบายนี้เป็นภาระของประเทศ จึงทำให้ประชาชนจับตาการทำหน้าที่ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ผมไม่หวั่นไหว ที่บอกอย่างนี้ก็เพราะว่าวันนี้เราผลักดันนโยบายประกันรายได้ประสบความสำเร็จ และปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมมาจนกระทั่งเข้าปีที่ 3 แล้ว และได้ผลักดันจนกระทั่งประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นนโยบายของรัฐบาลแล้ว และได้แถลงต่อรัฐสภาผูกพันคนทั้งประเทศไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ของทุกคนที่เป็นรัฐบาล ต้องช่วยกันขับเคลื่อนผลักดันให้ประสบความสำเร็จต่อไป ยกเว้นว่าจะเปลี่ยนรัฐบาล แล้วรัฐบาลใหม่ก็ไม่มีความประสงค์จะทำประกันรายได้ อันนั้นก็เป็นเรื่องของรัฐบาลชุดใหม่ หรือชุดต่อๆไป แต่ตราบใดที่ยังมีรัฐบาลชุดนี้ และยังมีพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในรัฐบาลก็ยืนยันว่าเราต้องขับเคลื่อนการประกันรายได้เกษตรกรต่อไป

ไม่ใช่ด้วยเหตุผลเพราะว่าเป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องไปกดดันให้ทุกคนต้องทำตาม แต่เป็นข้อตกลง เงื่อนไขตั้งแต่ก่อนร่วมรัฐบาลแล้วว่า ถ้าจะให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล ก็จะต้องนำนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคไปเป็นนโยบายรัฐบาล ซึ่งวันนี้ก็กลายเป็นนโยบายของรัฐบาลไปแล้ว และรัฐบาลนี้ก็จะต้องทำต่อไปจนกระทั่งหมดวาระรัฐบาล หรือหมดอายุขัยของรัฐบาล ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นว่า สิ่งที่เราแถลงต่อรัฐสภาก็ไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น รัฐบาลก็จะเกิดความเสียหายทางการเมืองด้วย และเกษตรกรก็จะพลอยเสียหายไปด้วย เพราะไม่ได้รับผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่ควรจะเป็น

@ ถือเป็นความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลไหม

ผมไม่ขัดแย้งกับใคร ซึ่งคิดว่าใครจะมีความเห็นอย่างไรนั้นก็สุดแล้วแต่ แต่มีหน้าที่ในฐานะ รมว.พาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องขับเคลื่อนผลักดันนโยบายประกันรายได้ เพราะอย่างน้อยที่อยู่ในความดูแลกระทรวงพาณิชย์ก็มี 4 ตัว ข้าว มัน ปาล์ม ข้าวโพด ส่วนยางก็เป็นหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ ใครจะพูดอย่างไรผมไม่หวั่นไหว แล้วก็ไม่ไขว้เขว ผมมั่นใจในสิ่งที่ผมทำ และผมมั่นใจในภารกิจที่ผมมี ในฐานะที่เป็นรัฐบาล และต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภา และต้องรับผิดชอบต่อคนไทยและเกษตรกรทั้งประเทศ

@ คิดหรือไม่ว่าจะเป็นขบวนการดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากหัวหน้าพรรคมีกระแสนิยมที่มาแรงจากการทำงาน 

สิ่งที่ทำนี้ไม่ได้หวังว่าจะต้องเป็นเรื่อง ความนิยม หรือไม่เป็นความนิยม ทำเพราะว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ เมื่อเรามีหน้าที่แล้ว เราก็ต้องทำสุดความสามารถ ไม่อย่างนั้นถ้ามีหน้าที่แล้วไม่ทำ ก็เสียเวลาประเทศ เพราะฉะนั้นเมื่อมีโอกาสทำแล้วต้องทำให้เต็มกำลังความสามารถ ยุคนี้เป็นยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เน้นการทำงาน เน้นผลสัมฤทธิ์ของงาน เน้นการทำหน้าที่ ทำได้ไวทำได้จริง และเราก็จะเดินหน้าต่อไป ไม่หวั่นไหวอะไร

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีและอีกหลายๆคนบอกว่าต้องหาวิธีอื่นช่วยเกษตรกรให้เกิดความยั่งยืน ก็ขอยืนยัน ว่า เป็นหน้าที่ของเราซึ่งเป็นรัฐบาล การดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและพืชในโครงการนี้มีมาตรการอื่นเสริมอยู่ด้วยแล้วทั้งนี้เป็นหลักของการยกระดับราคา เราก็ตระหนักเสมอว่าเราก็ต้องการทำให้ชาวนาและเกษตรกรเข้มแข็งและมั่งมี แต่การทำหน้าที่เชิงนโยบายนั้น รัฐบาลต้องมีหลักประกันให้เกษตรกรด้วย ดังนั้นการประกันรายได้นั้น เป็นมาตรการหลักที่ทำหน้าที่มาถึงจุดนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่าเสียงยอมรับและตอบรับของเกษตรกร ตัวแทนเกษตรกร ผู้นำเกษตรกรทั้งปลื้มและยิ้มตลอด 2 ปีกว่ามานี้ รัฐบาลไม่เผชิญม็อบเกษตรกรเลย

โครงการประกันรายได้นั้นดูแลพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศรวมเกษตรกร 7.8 ล้านครัวเรือน เฉพาะข้าวนี้มีมากที่สุดคือเกือบ 5 ล้านครัวเรือน จะเห็นว่าพืชชนิดอื่นทั้ง ปาล์ม ข้าวโพด ยางพารามันสำปะหลัง เราทำราคาได้ดีทะลุกว่ารายได้ที่ประกันไว้รัฐบาลจึงไม่ต้องจ่ายชดเชยส่วนต่าง ตรงนี้ก็ไม่สูญเสียงบประมาณ แต่เป็นความสามารถของรัฐบาลที่เราผลักดันราคาสูงขึ้นได้ เกษตรกรรอดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนข้าวมีกลไกหลายส่วนเกี่ยวข้องทั้งตลาดโลก การแข่งขัน ค่าเงินบาท วิกฤติโควิดที่สต๊อกข้าวส่งลงคอนเทเนอร์ไม่ได้ ผมและกระทรวงพาณิชย์แก้ทุกจุดอย่างทันท่วงทีมาตลอด แต่เมื่อราคาตกเราก็ต้องดูแลเกษตรกรในกระเป๋าที่เรียกว่าชดเชยส่วนต่าง ซึ่งเกษตรกรจะได้อีกกระเป๋าหนึ่งคือนำไปขายราคาตามกลไกตลาด โดยเกษตรกรได้เงิน 2 กระเป๋า ตรงนี้คือความยั่งยืนเพราะเราไม่ทำให้กลไกตลาดเสียหายเพราะราคาเป็นไปตามกลไกตลาดเป็นหลักสากล

ส่วนมาตรการคู่ขนานโดยเฉพาะ 3 มาตรการหลัก ซึ่งเสริมเข้าไปนั่นเป็นการทำเพื่อดึงราคาพืชผลขึ้นตรงนี้ คือยั่งยืนรวมทั้งการทำยุทธศาสตร์ข้าวปรับปรุงพันธุ์การประกาศยุทธศาสตร์ข้าวก็เป็นครั้งแรก เมื่อผมเข้ามาทำและประกาศไปแล้วหลังจากนี้ก็คือความยั่งยืน ไม่มีใครต้องการให้ใครอ่อนแอแต่เราเป็นรัฐบาลต้องมีกลไกดูแลประชาชน เพราะชาวนาก็ไม่สามารถไปบังคับกลไกตลาดให้ราคาสูงต่ำได้ แต่เราเป็นรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลกลไกเหล่านั้นและมีหน้าที่นำกลไกนี้มาใช้เพื่อเกษตรกรผลิตผลผลิตที่มีคุณภาพ ทั้งนี้เพื่อความยั่งยืนทางด้านการส่งออกสินค้าอันเป็นที่น่าเชื่อถือของตลาดโลกด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าเราก็มาถูกทาง หากเราสามารถทำราคาข้าวให้สูงขึ้นเกินรายได้ที่ประกันไว้ รัฐก็ไม่ต้องเสียงบประมาณ และสำคัญที่สุดเกษตรกรได้เงินโดยตรง เงินที่อยู่ในกระเป๋าเกษตรกร เมื่อมีการนำไปจับจ่ายก็เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก เงินหมุนเวียนอยู่ในระบบ การจับจ่ายใช้สอยนี่ก็เป็นการช่วยประเทศชาติในภาวะวิกฤติโรคระบาดเช่นกัน