นับว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจมากทีเดียวกับโครงการเลี้ยงสุนัขเพื่อพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง อย่างที่คนรักสัตว์เลี้ยงทราบกันดีว่า การเลี้ยงสัตว์จะช่วยให้ผู้เลี้ยงมีนิสัยที่อบอุ่นอ่อนโยนลง ใจเย็นมากขึ้น และต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลอีกหนึ่งชีวิตที่มาอยู่ร่วมกับเรา โดยเฉพาะการเลี้ยงลูกสุนัข การฝึกให้น้องทำตามคำสั่งได้ต้องมีวินัย และความอดทนมาก เพราะจำเป็นต้องฝึกหรือสอนซ้ำ ๆ จนน้องเข้าใจว่า เมื่อเอ่ยคำสั่งนี้เขาต้องแสดงออกอย่างไร เมื่อสอนได้แล้วผู้ฝึกจะมีความรู้สึกภูมิใจในตัวเองและสัตว์เลี้ยงด้วย

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้า โครงการเลี้ยงสุนัขเพื่อพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ว่า กรมราชทัณฑ์ได้ขับเคลื่อนงานตามนโยบายของตน โครงการเลี้ยงสุนัขเพื่อบำบัดจิตใจผู้ต้องขัง (DOG THERAPY) สามารถช่วยบำบัดขัดเกลาจิตใจ และปลูกฝังให้ผู้ต้องขังมีความอ่อนโยนมากขึ้น ซึ่งผลพลอยได้จากโครงการดังกล่าวยังช่วยให้ผู้ต้องขังเหล่านี้มีอาชีพหลังพ้นโทษอีกด้วย เช่น เป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์ เปิดรับจ้างตัดขน ตัดเล็บสุนัขโดยจะนำร่องในเรือนจำจังหวัดนครราชสีมา เรือนจำกลางระยอง เรือนจำกลางคลองไผ่ เรือนจำกลางเขาบิน นอกจากนี้เราเตรียมจะทำ MOU ร่วมกับสมาคมเลี้ยงสุนัขด้วย ส่วนสุนัขที่จะนำเข้าร่วมโครงการนำร่องนั้นจะถูกนำมาจากศูนย์พักพิงเป็นหลักจากเมื่อก่อนที่เรามีการจัดซื้อพันธุ์สุนัข เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ โดยจะมีการคัดสายพันธุ์สุนัขบางประเภทเท่านั้นเพื่อให้เข้ากับลักษณะของผู้ต้องขังก่อนจะมีการประเมิน วัดผลตามหลักวิชาการอย่างเป็นระบบ จากนั้นเราถึงจะขยายผลไปยังเรือนจำทั่วประเทศในอนาคตต่อไป

“ผมมั่นใจว่าโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องขัง ในอเมริกาก็มีการใช้สุนัขช่วยผู้พิการต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเอาไว้ใช้ดูแลผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเราจะเน้นไปที่กลุ่มผู้ต้องขังเฉพาะที่ผิดวินัยซ้ำซาก ผู้ป่วยจิตเวชและผู้ต้องขังสูงอายุ เพื่อเป็นการบำบัดจิตใจด้วย” รมว.สมศักดิ์ ระบุ

จากข้อมูลของกรมราชทัณฑ์ เมื่อทางเรือนจำได้รับมอบหมายให้ร่วมโครงการเลี้ยงสุนัขภายในเรือนจำจะมีการจัดหาผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์แนวโน้มความรุนแรง อาจกระทำผิดซ้ำในเรือนจำ มาเข้าร่วมเพื่อขัดเกลาและปรับเปลี่ยนนิสัยด้วยการเลี้ยงสุนัข จากนั้นจะมีการแบ่งตารางฝึกออกเป็น 8 หลักสูตร เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดูร่วมสมัยและลดการกระทำความรุนแรง โดยทุกวันผู้ต้องขังจะต้องดูแลสุขภาพของสุนัขที่รับผิดชอบ เมื่อตื่นเช้าออกจากเรือนนอนมา ต้องลงมาดูแลทำความสะอาดกรงปล่อยสุนัขออกมาวิ่งออกกำลังกาย พอถึงเวลา 08.00 น. ก็จะนำอาหารมาให้สุนัขและพาสุนัขไปผ่อนคลายจากนั้นก็ทำความสะอาดตัวสุนัขก่อนจะนำเก็บเข้ากรง

ส่วนการฝึกนั้นจะเป็นการฝึกท่าพื้นฐาน คือ นั่งคอย เดิน วิ่ง ซึ่งผู้ต้องขังจะได้รับการฝึกระเบียบไปในตัวเพราะการฝึกสุนัขจำเป็นต้องมีวินัย ให้สุนัขจดจำทำตามคำสั่งได้อย่างถูกต้อง ซึ่งผลที่คาดหวังก็คืออยากให้ผู้ต้องขังเมื่อผ่านการเข้าฝึกกับโครงการดังกล่าวแล้วสามารถออกไปประกอบอาชีพสุจริต ไม่ต้องกลับมากระทำผิดพลาดพลั้งอีกต่อไป

มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย ประเทศไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กชื่นชม และระบุว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะช่วยให้น้องหมาจรจัดในศูนย์พักพิงได้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และได้รับการจัดสวัสดิภาพสัตว์ตามสมควรสำหรับการทำหน้าที่นักบำบัด

หากโครงการมีผลสัมฤทธิ์ที่ดี เราหวังว่าจะเป็นอีกทางที่ทำให้ผู้คนหันมารับเลี้ยงน้องหมาจรแทนการซื้อเพิ่มขึ้น ขอขอบคุณกรมราชทัณฑ์สำหรับการให้โอกาสสุนัขจรจัด.

เครนาย