ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี หรือเงินไฮเทค ในเวลานี้ เรียกได้ว่า “ร้อนแรง” สุด ๆ หลังวงการค้าปลีก วงการอสังหาริมทรัพย์ ต่างโดดเข้ามาร่วมวง ผนึกกำลังกับแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำเงินดิจิทัลมาซื้อขายสินค้าและบริการได้

เรียกได้ว่า…สร้างความฮือฮา สร้างความตื่นตาตื่นใจ สร้างความเร้าใจ ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ต้องเปิดหูเปิดตา เปิดตำราเรียนรู้เรื่องราวของสินทรัพย์ดิจิทัล กันแทบไม่ทันกันทีเดียว

อย่างที่เป็นข่าวใหญ่ในสัปดาห์ที่แล้ว ที่ห้างค้าปลีกชื่อดังอย่าง “เดอะมอลล์” ได้ประกาศจับมือกับ “บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด” ผู้นำธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน ร่วมทุนจัดตั้ง “บริษัท บิทคับ เอ็ม จำกัด”

เป้าหมายสำคัญ!! ก็เพื่อร่วมกันวางกลยุทธ์เพื่อผลักดัน บิทคับ เอ็ม โซเชียล ให้เป็น “ดิจิทัลคอมมูนิตี้” แห่งแรกของไทย รวมทั้งเป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยน ความรู้ การจัดสัมมนาและการประชุม ทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัลอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านี้… เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือ เดอะมอลล์ยังเปิดให้นำเงินดิจิทัล มาแลกสินค้าและบริการ ที่ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า ในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

และไม่ใช่แค่สินค้าและบริการของกลุ่มเดอะมอลล์ เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังพันธมิตร ทั้ง สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, โรงแรมในเครือดุสิต, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์, อนันดา พร้อพเพอร์ตี้ และบริษัทฯ ในเครือ, และมิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ที่จะร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษ ผ่านการใช้เงินไฮเทค ด้วยเช่นกัน

เรียกได้ว่า…เป็นการ “เปิดตัว” เพื่อเข้าสู่โลคยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง!!

ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มเดอะมอลล์ เท่านั้น ก่อนหน้านี้ยักษ์ค้าปลีก อย่าง “เซ็นทรัล รีเทล” ก็ตั้งบริษัท เซ็นทรัล เทค เพื่อบุกตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดยเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัล ซี-คอยน์ นำร่องใช้กับพนักงานในเครือ เพื่อนำไปซื้อสินค้าและบริการ ในเครือและพันธมิตร และเตรียมขยายครอบคุลมพนักงานกว่า 80,000 รายในเครือทั่วโลก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมไร้เงินสดในระยะยาว

เช่นเดียวกับ กลุ่มสยามพิวรรธน์ ก็เปิดเกมรุกเข้าสู่วงการคริปโตฯ นี้ด้วยเช่นกัน โดยจับมือกับ “ซิปเม็กซ์” ผ่านแพลตฟอร์ม “ซิป เวิล์ด” เปิดการซื้อขายสินค้าบนโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ไม่เว้นแม้แต่กลุ่ม “ซีคอน” ที่ร่วมกับพันธมิตรเปิดตัว เดอะมูน : คริปโตแอนด์ เอ็นเอฟที คาเฟ่ที่ใช้จ่ายผ่านสกุลเงินดิจิทัล แห่งแรกที่สาขา “ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์” ซึ่งถือเป็นคอมมูนิตี้ของคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาเรียนรู้โลกคริปโตฯ กับผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนต่อยอดเพิ่ม

นี่เพียงแค่ในวงการค้าปลีกเท่านั้น!! ยังมีวงการอสังหาริมทรัพย์อีกหลายเจ้าที่เปิดให้นำงินดิจิทัลมาซื้อคอนโดมิเนียม บ้านพร้อมที่ดินอีกด้วย ทั้งในเครือของ เอสซีแอสเสท ที่จับมือกับซิปเม็กซ์ รับ เหรียญ 5 สกุลดิจิทัล

หรือจะเป็นใน เครือแสนศิริ ที่สามารถใช้เงินดิจิทัล 4 สกุล ซื้อโครงการได้ทุกโครงการ หรือนำมาจ่ายค่าส่วนกลางก็ได้ ผ่านทางบิทาซซา โบรกเกอร์ แม้แต่ในส่วนของ “คลังคาซ่า” ยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ในภาคอีสาน ก็เปิดรับเงินดิจิทัล 3 สกุล ในโครงการซิตี้ ลิงก์ คอนโด

ไม่ใช่แค่นี้!! ในแวดวงธุรกิจการแฟอย่าง “อินทนิล” ของค่ายบางจาก รีเทล ก็เปิดรับชำระด้วยเงินดิจิทัล แล้วถึง 21 สาขา หรือแม้แต่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่เตรียมรับชำระเงินด้วยเงินดิจิทัล เจฟิน คอยน์ ทั้งค่าโดยสารรถไฟฟ้า ธุรกิจโรงแรมในเครือ หรือสินค้าอื่น ๆ  

เช่นเดียวกับ โรงหนังเมเจอร์ ที่เปิดรับ “บิตคอยน์” มาแลกตั๋วหนังได้ ที่สาขารัชโยธิน ก่อนขยายไปสาขาอื่น ๆ ยังมีธุรกิจร้านอาหารชื่อดัง ร้านซักผ้า ร้านขายผ้า คลินิก รับเหมาก่อสร้าง หรือแม้แต่ รองเท้านันยาง ก็เปิดให้ใช้บิตคอยน์ มาซื้อได้

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนต้องก้าวตามให้ทัน แต่ก็อย่าลืมว่า…เงินดิจิทัลเหล่านี้ยังคงมี “ความเสี่ยง” อย่างที่เห็นกันอยู่ ซึ่งอาจนำไปสู่หายนะก็เป็นไปได้

ไม่เช่นนั้นแบงก์ชาติ คงไม่ออกมาตอกย้ำจุดยืนว่าไม่สนับสนุนธุรกรรมการใช้เงินดิจิทัลไปซื้อสินค้าและบริการ

อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ ยักษ์ใญ่แดนมังกร อย่างจีนได้ออกประกาศห้ามทำธุรกรรมใดกับเงินดิจิทัล ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ไปแล้ว เช่นเดียวกับอินโดนีเซียและเวียดนาม ที่ประกาศห้ามทำธุรกรรมเช่นกัน

ทั้งหมดคงต้องตามติดกันต่อไปว่าหน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐจะตัดสินใจกับเรื่องนี้อย่างไร?

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”