ปีใหม่ 2565 หรือตามนักษัตรคือปีเสือ มาถึงแล้ว ในวงการกีฬาหมัด ๆ มวย ๆ ที่คนไทย ถือว่าไม่เป็นสองรองใคร มีอะไรน่าสนใจ น่าจับตามองกันบ้าง

         และหวังว่า วงการมวยบ้านเรา วงการมวยโลก จะก้าวเดินต่อไปได้ ไม่สะดุดกับพิษ “โควิด-19”

เริ่มจากแวดวงมวยสากลทีมชาตินั้น ที่น่าจับตามองที่สุดในปีใหม่ ปีพญาเสือโคร่ง ที่จะมาถึงนี้ อยู่ที่สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หริอไอบ้า ซึ่งเร่งปฏิรูปองค์กรอย่างหนัก เพื่อต้องการให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) หรือไอโอซี ไว้วางใจอีกครั้ง

ปลายปีที่ผ่ามา ไอบ้า แถลงเปลี่ยนตัวย่อใหม่จาก AIBA มาเป็น IBAพร้อมเปลี่ยนโลโก้องค์กรใหม่ ชี้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่การปฏิรูปองค์กรสำเร็จ ก้าวสู่ความโปร่งใส ยุติธรรม  ซึ่ง อูมาร์ เครมเลฟ ประธานไอบ้าคนปัจจุบัน กล่าวว่า ไอบ้า ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 75ปี และได้ปฏิรูปองค์กรเสร็จสิ้นแล้วในเวลา 1ปี

มั่นใจไอโอซีจะยกเลิกโทษแบน และ “มวยสากล” จะอยู่คู่โอลิมปิกต่อไป

แต่ ไอโอซี นั้น ยังแสดงความกังวล กับการปฏิรูปองค์กรของไอบ้า ทั้งในด้านความมั่นคงทางการเงิน ธรรมาภิบาล การตัดสินการแข่งขันที่โปร่งใส หลังมีปัญหาอื้อฉาวมานาน โดยเฉพาะในกีฬาโอลิมปิก 2016 “ริโอเกมส์” ที่บราซิล จนไอโอซี แบนไอบ้า ไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันกีฬามวยสากล ในกีฬาโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” โดยไอโอซี ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาจัดการแข่งขันเอง

มวยสากลนั้นมีบรรจุในกีฬาโอลิมปิก 2024 “ปารีสเกมส์”  แน่นอนแล้ว แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะมีบรรจุในกีฬาโอลิมปิก 2028  ที่ลอสแองเจลิส หรือไม่ ส่วนใน “ปารีสเกมส์” ก็ยังไม่แน่นอนว่า จะยกเลิกโทษแบนให้ไอบ้าเข้ามาดำเนินการหรือไม่ หรืออาจจะเป็นไอโอซี เข้ามาจัดการแข่งขันเองเหมือนใน “โตเกียวเกมส์”

ไอโอซี ขีดเส้นตายให้ไอบ้า ปรับปรุงองค์กร ตามการควบคุมของไอบ้า ให้ไอบ้าพอใจภานในปีใหม่พ.ศ.2565 นี้ ซึ่ง ไอบ้า ก็จะมีการประชุมใหญ่ และเลือกตั้งประธานไอบ้า ในวันที่ 30มิ.ย.2565 นี้ด้วย รอดูกันว่า ไอโอซี จะพอใจหรือไม่

ในบ้านเรานั้นก็มีการเปลี่ยนแปลง บนความไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2563 วาระสำคัญคือการเลือกตั้ง นายกสมาคมกีฬามวยสากลฯ คนใหม่ ซึ่งปรากฎว่า “บิ๊กบางจาก” นายพิชัย ชุณหวชิร ได้รับการไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก ด้วยคะแนนชนะผู้ลงรับสมัครคู่แข่งคือ สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลฯ  69-34 เสียง ทำให้ “บิ๊กบางจาก” นั่งเก้ากี้ประมุขมวยสากลของไทยเป็นสมัยที่ 4 ในวาระดำรงตำแหน่งอีก 4 ปี

เรื่องนี้โด่งดังไปถึงสื่อดังต่างประเทศ อย่าง inside the gamesว่า เดิมหลังจบ “โตเกียวเกมส์” “บิ๊กบางจาก” จะวางมือให้ อดีตบิ๊กสรรพสามิตร สมชาย พูลสวัสดิ์ มาคุมสมาคมกีฬามวยสากลฯแทน แต่หลังจบ “โตเกียวเกมส์” ซึ่งทีมนักชกไทยได้มา 1 เหรียญทองแดง จาก “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี ในมวยหญิงรุ่นไลท์เวต (60 กก.) 

“บิ๊กบางจาก” กลับเปลี่ยนใจ ขอคุมมวยสากลต่อ เพื่อบรรลุเป้าหมายเหรียญทองโอลิมปิกให้ได้

การแข่งขันกันของทั้งคู่ และผลที่เกิดขึ้นท่า ตามกระแสข่าวชี้ว่า สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย จะต้องเสียคนดี มีฝีมือ มีความพร้อม รู้เรื่องมวย รักมวยจริง อย่าง สมชาย พูลสวัสดิ์ ไป ซึ่งอาจไปร่วมงานกับสมาคมกีฬาอื่น ๆ ที่ใคร ๆ ก็พร้อมอ้าแขนรับ บุคคลากรทางกีฬาแบบนี้

นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งของสมาคมกีฬามวยสากลฯ

ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไป กับ “บิ๊กบางจาก” ที่ประกาศว่า จะทำให้มวยสากลทีมชาติของไทย กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และมีงานใหญ่รออยู่ในปีหน้า ทั้งซีเกมส์,เอเชี่ยนเกมส์ รวมทั้งโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์”

จะทำได้หรือไม่

ส่วนแวดวงมวยไทย อีกกีฬายอดฮิตของแฟนกีฬาบ้านเรานั้น

ดังที่ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์มวยไทยเพชรยินดี กล่าวไว้ว่า “รากฐานของวงการมวยไทยคือมวยภูธร  ถ้าภูธรขยับไม่ได้ วงการมวยนครบาลเตรียมตัวนับถอยหลังได้เลย” 

ปีที่ผ่านมา วงการมวยไทย เจอกับพิษโควิด-19 ป่วน ไม่สามารถเปิดเวทีชกได้ จนค่ายมวยต่างจังหวัดต้องยุบไปหลายค่าย นักมวยเลิกชกไปหลายคน ซึ่งน่าเป็นห่วง หากค่ายมวยภูธรหายไป ก็ไม่มีการสร้างนักมวยรุ่นใหม่ขึ้นมา กีฬามวยไทยก็รอวันตายเท่านั้น

ช่วงปลายปี รัฐบาลมีการคลายล็อก ให้กีฬามวยไทย กลับมาจัดได้อีกครั้ง ทำให้วงการมวยไทยเริ่มฟื้นขึ้นมา วิกเมืองกรุง ก็มีการจัดชกกันหลายเวที ทั้งเวทีราชดำเนิน,ลุมพินี,อ้อมน้อย หรือเวทีรังสิต ตลอดจนเวทีภูธรต่าง ๆ ในแบบ “นิวนอร์มัล” 

ตอนนี้เป้าหมายของนักมวยไทย ไม่ได้มีเพียงการสร้างชื่อ สร้างฝีมือขึ้นไปชกในเวทีมาตรฐานอย่างลุมพินี หรือราชดำเนิน แต่เป็นการได้ไปชก หรือเข้าสู่รายการใหญ่ในต่างประเทศ เช่น วัน แชมเปี้ยนชิพส์ หรือในยุโรป,ญี่ปุ่น ที่ให้ค่าตัวสูง ไม่ว่าจะเป็นการชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง หรือกติกามวยไทย ที่เต็มรูปแบบบ้าง ไม่เต็มรูปแบบบ้าง

การไปชกในต่างประเทศ เน้นการให้คะแนนทุกยก ขยันออกอาวุธทุกยก ซึ่งนักมวยไทยต้องเรียนรู้และปรับตัว

ส่วนการชกมวยไทย ในเมืองไทย ช่วงหลังมีการโวยวายกันมาก เรื่องผลการตัดสินไม่ถูกใจ นักมวย หรือหัวหน้าค่าย ซึ่งควรมีการทำความเข้าใจกัน ว่าจะให้คะแนนกันแบบไหน ในแต่ละเวที ไปชกเมืองนอกต้องชกแบบไหน ชกเวทีในเมืองไทย เวทีไหน ให้คะแนนแบบไหน บอกกันให้รู้เรื่อง เข้าใจตรงกัน

ทางรอดของมวยไทยยุคนิวนอร์มัล คือการทำกีฬามวยไทย เป็นสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์ ไม่มุ่งเรื่องการพนันมากเกินไป เพื่อให้มวยไทยเป็นที่นิยม และส่งออกสู่ต่างประเทศ ได้มากขึ้น

ปีหน้าก็มีไฟต์ที่น่าสนใจ สำหรับซูเปอร์สตาร์มวยไทย ที่โด่งดังระดับโลก ในหลายศึก เช่น ซุปเปอร์บอน บัญชาเมฆผู้สร้างประวัติศาสตร์เตะก้านคอช็อกโลก โค่นนักชกคิกบ็อกซิ่ง ที่โลกยอมรับว่าเก่งกาจที่สุด อย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ในยก 2 ขึ้นแท่นเป็นแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวตคนแรก คว้ารางวัล “น็อกเอาต์ยอดเยี่ยม” ของ วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง) ประจำปี 2564มาครอง จะป้องกันแชมป์สร้างชื่อได้อีกเพียงใด

กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่ แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต  จะกระหึ่มอีกขนาดไหน

ยอดนักมวยไทยหญิงของไทย แสตมป์ แฟร์แท็กซ์  ที่คว้าแชมป์ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ การต่อสู้แบบผสมผสาน MMAจะกระชากแชมป์โลก MMAจาก แองเจลา ลี ยอดนักสู้ MMAจากสิงคโปร์ ได้หรือไม่

ตลอดจนยอดมวยไทย รายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ ,หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์,รถถัง จิตรเมืองนนท์,แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย,ลำน้ำมูลเล็ก ทีเด็ด 99ที่เพิ่งคว้ารางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น ในวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2564,ตะวันฉาย-พระจันทร์ฉาย-ก้าวหน้า พี.เค.แสนชัย มวยไทยยิม,ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9,เสาเอก ศิษย์เชฟบุญธรรม,กุหลาบดำ สจ.เปี้ยกอุทัย ฯลฯ จะดีเด็ดเพียงใด ในปีเสือนี้

หรือแม้แต่เวทีลุมพินี โฉมใหม่ ของกองทัพบก ที่ปฏิรูปเป็นเวทีมวยไร้การพนัน ตามนโยบายกองทัพบก โดยการดำเนินงานของ “บิ๊กแดง” พล.ท.สุชาติ แดงประไพ นายสนามมวย เวทีลุมพินี ที่ต้องการให้ให้ตอบสนองประชาชนในวงกว้างมากขึ้น นอกจากจัดชกมวย ยังเน้นอะคาเดมี่สอนมวย และสนับสนุนจัดชกมวยสากลอาชีพพร้อมสร้างมวยป้อนสู่ตลาดโลก ทั้งมวยไทยหญิง,มวยไทย 3 ยก,มวย MMAและมวยไทยดั้งเดิม 5  ยก 

จะกลับมาเป็น “ลุมพินีเกริกไกร” ได้หรือไม่

ส่วนคดี “ล้มมวย” อื้อฉาวกระหึ่มปี 2564 ที่ ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ นักมวยฝีมือดีวัย 20 ปี ที่เคยล้มมวยแล้วเลิกชก แต่ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ให้โอกาสกลับตัวมาชกมวยอีกครั้ง ถูกสอบสวนและสารภาพล้มมวย พ่ายน็อกให้กับหลานย่าโม ว.วัฒนะ ในยกที่ 4 ของศึกมวยไทย“มวยมันส์วันศุกร์” ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม 2564 

โดยอ้างถูกว่าจ้างจาก นายอุดม จารย์ลี โดยตกลงกัน 500,000 บาท ซึ่งรับเงินมัดจำมาแล้ว 30,000บาท และได้มีการเข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก จ.อุทัยธานี

เมื่องวันที่ 9 ธ.ค.2564 เจ้าหน้าที่ฯ ได้นำตัว นายอุดม จารย์ลี ผู้ถูกอ้างว่าเป็นผู้ว่าจ้าง ส่งยังอัยการจังหวัดอุทัยธานี เพื่อเตรียมสั่งฟ้องในข้อหา เป็นผู้ให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดนักมวย หรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้นักมวยกระทำการล้มมวย โดยนายอุดม พร้อมด้วยทนายความ เดินทางไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดอุทัยธานี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว 

ขณะที่ อำนาจ รื่นเริง อดีตแชมป์มวยเวทีลุมพินี และเป็นอดีตแชมป์โลกของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF)  รุ่นฟลายเวต ซึ่งเป็นครูฝึกให้กับ ฟ้าใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ หรือชื่อจริง นายรณรงค์ ผาสุก ได้นำ ฟ้าวันใหม่ และมารดา ไปยังสำนักงานอัยการ เซ็นรับทราบข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยอัยการนัดหมายทั้งคู่อีกครั้ง ในวันที่ 12 ม.ค. 65

ทั้งผู้ว่าจ้าง และผู้ถูกจ้างให้ “ล้มมวย” ทำความผิด ตามพ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 มีโทษถึงจำคุก คดีนี้น่าจะรู้เรื่องกันในปีเสือนี้ และมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่เป็น “มวยล้ม” เหมือนคนจ้าง “ล้มมวย” และคนที่ “ล้มมวย” แน่นอน

ฝั่งวงการมวยโลกนั้น ศึกที่แฟนมวยชาวไทยรอคอย รวมทั้งแฟนมวยทั่วโลกด้วยนั้น  “ศึก 4คิงส์ซูเปอร์ฟลาย” ก็เป็นอีกศึกหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ราชามวยโลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115ปอนด์) ระหว่าง “ไก่ชน” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา ยอดมวยแดนจังโก้, “ช็อคโคลาติโต” โรมัน กอนซาเลซ อดีตนักชกเบอร์ 1โลกเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ จากนิการากัว, “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และ “ไอ้หลังลาย” คาร์ลอส คูเอดราส อดีตแชมป์โลกแดนจังโก้ ที่โปรโมเตอร์ เอ็ดดี เฮิร์น และยักษ์ใหญ่การถ่ายทอดสดโดยดาโซน (DAZN)จะจัดขึ้น 

เดิมศึกนี้เลื่อนมาหลายครั้ง จากเดิมที่จะจัดศึก “4คิงส์” รายการนี้มา ตั้งแต่วันที่ 16ต.ค.ปีที่ผ่านมา แต่ก็มีกระแสข่าวว่ามีการเจรจาที่ยังไม่ลงตัว เนื่องจาก โรมัน กอนซาเลซ เรียกค่าตัวสูงถึง 1  ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะอาจเป็นไฟต์สุดท้ายในชีวิต

ศึกนี้เป็นศึกที่ สภามวยโลก (WBC) ยกให้เป็น “ศึก 4 คิงส์ซูเปอร์ฟลาย “ โดย เอสตราดา ที่ WBC อวยให้เป็นแชมป์โลกเกียรติยศ หรือแชมป์แฟรนไชส์ เพื่อเปิดโอกาสให้มาทำศึกล้างตาภาค 3กับ โรมัน หลังจากไฟต์ล่าสุด เอสตราดา ชนะคะแนนมาแบบคาใจแฟนมวยทั่วโลก 

จนมาถึงปลายปีที่ผ่านมาสื่อดังต่างประเทศชี้ว่า  การเจรจาลงตัวแล้ว  มีการปรับโปรแกรม ให้ เอสตราดา ทำศึกล้างตาภาค 3กับ โรมัน ในวันที่ 5มี.ค.  2565ที่เปชังกา อารีนา ในเมืองซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา

ที่สำคัญคู่นี้ WBC ย้ำในที่ประชุมใหญ่ล่าสุด ที่เม็กซิโก  ให้ผู้ชนะคู่นี้ มาพิสูจน์แชมป์โลกหนึ่งเดียวกับผู้ชนะระหว่าง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ ที่ WBC ให้ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต WBC ที่ว่าง  กับ “ไอ้หลังลาย” คูเอดราส  ต่อไป เป็นศึกซูเปอร์ฟลาย ทัวร์นาเมนต์ ที่โลกรอคอย

ขณะเดียวกันสื่อมวยดังบ็อกซิ่งซีน(boxingscene)  รายงานด้วยว่า เอ็ดดี เฮิร์น จะจัดศึกเดิมพันแชมป์โลกล้างตาภาค 2 “แหลม-คูเอดราส” ในวันที่ 5ก.พ.2565ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นรองคู่เอก ร่วมศึกของ เจสซี วาร์กัส  อดีตแชมป์โลกดังคัมแบ็กปะทะ เลียม สมิธ 

สำหรับ คูเอดราส เคยชนะคะแนน “เจ้าแหลม” มาแบบน่ากังขา  ในเดือนพ.ค. 2014เมื่อ 7ปีก่อน ที่เม็กซิโก ซึ่ง คูเอดราส เกิดแผลแตกไม่มากที่คิ้ว เพราะอุบัติเหตุหัวชนกัน แต่กรรมการยุติการชก ให้รวมคะแนนตัดสิน ในยก 8และ คูเอดราส ชนะคะแนน แย่งแชมป์โลกไปจากศรีสะเกษ ทั้งที่ “ไอ้หลังลาย” กำลังถูก “เจ้าแหลม” ไล่ถลุงในช่วงท้าย ๆ จนออกอาการเจียนอยู่เจียนไป

ขณะที่ “เจ้าแหลม” เคยชนะโรมัน มา 2ครั้ง ด้วยการชนะคะแนน โรมัน และ ชนะน็อก โรมัน แบบเร้าใจ มาแล้วที่สหรัฐอเมริกา จากนั้นมาผลัดกันแพ้กันชนะคะแนนกับ เอสตราดา คนละหนึ่งครั้งที่สหรัฐอเมริกา ส่วน โรมัน ก็ผลัดกันแพ้ชนะแบบคะแนนมาคนละครั้งกับ เอสตราดา เช่นกัน

เมื่อคิวชก “เอสตราดา-โรมัน” และ “แหลม-คูเอดราส” ลงตัวเช่นนี้แล้ว ศึกต่อไป ในการพิสูจน์แชมป์โลกหนึ่งเดียวระหว่าง 4คิงส์ ซูเปอร์ฟลาย ก็จะตามมา แฟนมวยก็แทบอดใจรอไม่ไหว

ฝั่ง “เสี่ยฮุย” นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ บอสใหญ่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น ผู้จัดการของ “เจ้าแหลม”  เปิดเผยว่า “เจ้าแหลม” มุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก ที่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น จ.ปทุมธานี เพื่อรอขึ้นชิงแชปม์โลกสมัยที่ 3 และทวงแชมป์โลกเส้นนี้กลับสู่เมืองไทย พร้อมทำศึก 4 คิงส์ กับผู้ชนะระหว่าง “เอสตราดา-โรมัน” ต่อไป

ปีพ.ศ.2565จะเป็นปีทองของ “เจ้าแหลม” หรือไม่ ก็อยู่ที่ “ศึก 4คิงส์” ที่จะเกิดขึ้นนี่เอง

อีกศึกใหญ่ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2565ของวงการมวยโลกเมืองไทย ก็คือศึกสายเลือดนัดล้างตาเดิมพันแชมป์โลก ระหว่าง “ยักษ์แคระ” วันเฮง ซีพีเอฟ อดีตแชมป์โลกดังขวัญใจชาวไทยรุ่นสตรอว์เวต (105 ปอนด์) สภามวยโลก (WBC) วัย 37 ปี เจ้าของสถิติ ชนะ 55 ครั้ง (น็อก 19) แพ้ 1 ที่จะคัมแบ็กขึ้นชิงแชมป์โลบดไฟต์บังคับ กับแชมป์โลกคนปัจจุบัน ปัญญา ประดับศรี (เพชรมณี ซีพีเอฟ) นักชกรุ่นน้องวัย 31 ปี เจ้าของสถิติ ชนะ 37 ครั้ง (น็อก 23) แพ้ 1 

ศึกนี้โปรโมเตอร์มวยโลกเพชรยินดี“เสี่ยตังค์” ปิยะรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ เดิมกำหนดจัดในวันที่ 25 ม.ค.2565ที่จ.ชลบุรี เป็นศึกมวยชิงแชมป์โลกต้อนรับปีใหม่ในเมืองไทย แต่อาจจะต้องเลื่อนไปชกปลายเดือนก.พ.หรือต้นเดือนมี.ค. 2565 เพื่อให้นักชกทั้งคู่พร้อมมากที่สุด เพราะ เพชรมณี เพิ่งป้องกันแชมป์โลกชนะคะแนน  ดนัย นครหลวงโปรโมชั่น ไปเมื่อ 2 พ.ย.2564

 วันเฮง กล่าวว่า ชกไฟต์นี้ ฟิตซ้อมเต็มที่ และไม่กดดันใด ๆ เพราะถือว่าไฟต์นี้ตัวเองเป็นรอง และมั่นใจว่าการชกครั้งนี้สนุกสูสีดุเดือดเหมือนเดิมแน่นอน หลังจากตนเคยเสียแชมป์แพ้คะแนนให้ ปัญญา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2563 ที่จ.นครสวรรค์ ซึ่งไฟต์นั้นตนเองพลาดที่ปล่อยให้ ปัญญา ชกทำคะแนนนำไปก่อน ในช่วงต้น ๆ แล้วมาไล่ที่หลังลำบาก แต่การเจอกันอีกครั้งนี้ จะไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขอเปิดเกมบุกทำคะแนนตั้งแต่ยกแรกเลย

ย้ำอีกว่า ไม่ว่า เพชรมณี จะมาไม้ไหน จะชกฉาบฉวย หรือเปิดหน้าแลกด้วย ตนพร้อมหมด ที่กลับมาชกอีกเพราะมั่นใจว่าตนยังมีโอกาสกลับมาเป็นแชมป์โลกได้อีก และมั่นใจว่าจะทำได้ด้วย ของฝากให้แฟนมวยช่วยเชียร์ให้กำลังใจด้วย วันเฮง กลับมาแล้ว

 ด้าน “โค้ชแหลม”พ.ท.สุภาพ บุญรอด เทรนเนอร์คู่ใจของ วันเฮง กล่าวว่า ช่วงนี้คุมเข้ม ทำสภาพร่างกายให้ วันเฮง พร้อมมากที่สุด ไฟต์ที่แพ้ที่นครสวรรค์ เราพลาดที่เสียคะแนนช่วงต้น ๆ ไปมาก ไฟต์นี้ก็จะไม่ปล่อยให้พลาดอีก เราได้ลูกกระดูกมวย และประสบการณ์โชกโชน แต่ก็เป็นรองเรื่องความสด และความไว คิดว่าจะชกกันสนุก เตรียมแผนรับมือไว้หมดแล้ว

 ขณะที่ เพชรมณี กล่าวว่า ไม่ได้หวั่นเกรงไฟต์บังคับกับ วันเฮง แต่อย่างใด เพราะชกกันมาแล้ว รู้เชิง รู้ทางกันหมดแล้ว เพียงแค่ตั้งใจฟิตซ้อมเตรียมสภาพร่างกายให้ดีที่สุด มั่นใจว่าย้ำแค้นพี่วันเฮงได้แน่นอน และตนมีความฝันอยากไปป้องกันแชมป์สร้างชื่อต่างประเทศ และชกล้มแชมป์กับสถาบันอื่นด้วย ไม่ยอมให้ฝันสลายแน่นอน

 ฝั่ง “โค้ชหนึ่ง”ฉัตรชัย สาสะกุล เทรนเนอร์คู่ใจของ เพชรมณี หรือ ปัญญา ประดับศรี  กล่าวว่า ศึกใหญ่ปีหน้ากับ วันเฮง ต้องยอมรับว่าหนักใจแน่นอน เพราะ วันเฮง เป็นยอดมวยโลก แข็งแกร่ง ต้องให้ เพชรมณี ฝึกหนักที่สุด ชกให้ลื่นไหล คล่องกว่าเดิม เพราะไฟต์ที่ป้องกันแชมป์โลกล่าสุด ชนะคะแนน ดนัย นครหลวงโปรโมชั่น ชกอืดไปนิด จากการที่ร้างเวทีไป 1 ปี ไฟต์กับ วันเฮง ต้องชกให้ดีขึ้น ซึ่งได้เตรียมแก้ทางมวยไว้หมดแล้ว มั่นใจว่าคู่นี้ชกกันสนุกเหมือนเดิม

จะออกหัวหรือก้อย ไม่นานเกินรอได้รู้กัน

นอกจากนั้น แชมป์โลกชาวไทยอีกคนคือ “เจ้านูน” น็อคเอาท์ ซีพีเอฟ หรือ ธรรมนูญ นิยมตรง แชมป์โลกไร้พ่าย เจ้าของเข็มขัดซูเปอร์แชมเปี้ยน(WBA SUPER CHAMPION)สมาคมมวยโลก (WBA) รุ่นมินิมั่มเวต (105 ปอนด์) ซึ่งปี 2564 ป้องกันแชมป์โลกชนะน็อก 2 ไฟต์รวด โดยทำศึกสายเลือด ชนะน็อก พงษ์ศักดิ์เล็ก นครหลวงโปรโมชั่น ยก 3 เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2564 ที่จ.บุรีรัมย์ และมาป้องกันแชมป์โลกอีกหน ชนะน็อก โรเบิร์ต พาราเดโร ฟิลิปปินส์อันตราย ยก 5 ที่จ.ภูเก็ต เมื่อ 14 ธ.ค.2564  พิ่มสถิติการชกเป็น ชนะรวด 23 ไฟต์ โดยเป็นการชนะน็อก 9 ครั้ง

ปีหน้า แน่นอนว่า  น็อคเอาท์ จะต้องชกล้มแชมป์โลกกับดาวรุ่งโดมินิกันวัย 21 ปี อีริค โรซา ซึ่งเพิ่งขึ้นครองแชมป์โลกเส้นปกติ สมาคมมวยโลก(WBA WORLD CHAMPIONรุ่นมินิมมั่มเวต ( 105 ปอนด์) มาได้ด้วยการชนะคะแนน วิคโตริโอ ซาลูดาร์ นักชกฟิลิปินส์ ในบ้านเกิด เนื่องจาก WBAต้องการให้มีการรวมแชมป์โลกทุกรุ่นของ WBAเป็นหนึ่งเดียว

 อิริค โรซา เป็นมวยดาวรุ่ง ฉายา มินิแพ็คแมน มีสถิติการชกตอนนี้แค่ ชนะรวด 5 ครั้ง (ชนะน็อก 1 ) ไม่เคยออกไปชกนอกบ้าน   เรื่องกระดูกมวย “เจ้านูน” กินขาด เพียงแต่จะชกบ้านเรา หรือบ้านเขาเท่านั้น ถ้าชกในเมืองไทย “เจ้านูน” ชั่วโมงนี้ เจอใครก็ได้

เป็นอีกแชมป์โลกของไทย ที่น่าติดตามตอนต่อไป ในปีเสือนี้

                                                               “คม ท่าดี”