จากข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ที่หลายๆ คนอาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง กับข่าวที่ว่า.. นักร้องสาวชาวเวียดนาม เกิดเหตุซิลิโคนที่เสริมหน้าอกมา “เกิดระเบิดในขณะโดยสารทางเครื่องบิน” จนรู้สึกเจ็บปวด และอักเสบอย่างรุนแรง ภายหลังการวินิจฉัยพบว่า ซิลิโคนเสริมหน้าอก เมื่อ 7 ปีที่แล้วเกิดแตก ต้องทำการผ่าตัดโดยด่วน จนกลายมาเป็นข้อสงสัยว่า.. อันที่จริงแล้วมันแตกได้ด้วยหรือ? แล้วมันมีอันตรายจริงแท้แค่ไหนกัน?

วันนี้ Healthy Clean ขอพามาหาคำตอบกับ “นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล” แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่งและผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงามโรงพยาบาลบางมด อธิบายไว้ว่า “ถุงซิลิโคนสำหรับใช้เสริมเต้านมที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ จะทนต่อแรงบีบ (Pressure) ได้สูงมาก หากเปรียบเทียบกับแรงดันในเครื่องบิน ซึ่งน้อยกว่าความดันที่สามารถทำให้ถุงซิลิโคนเต้านมที่ได้มาตรฐานแตกได้ 10-15 เท่า จึงเป็นไปได้ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ถุงซิลิโคนจะแตกหรือรั่วซึมจากการขึ้นเครื่องบิน”

สำหรับ ปัจจัยที่มีผลสำหรับการทนต่อแรงดันของถุงซิลิโคน ได้แก่ ความหนาของถุงซิลิโคน ระยะเวลาที่ใส่และชนิดของซิลิโคนที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท ในปัจจุบันบริษัทผลิตซิลิโคนที่ได้มาตรฐานจะมีการรับประกันคุณภาพตลอดชีวิต โอกาสแตกหรือรั่วซึมน้อยมากเพียงแค่ ซึ่งน้อย 0.5-1 เปอร์เซ็นต์

ในกรณีผู้ที่เคยศัลยกรรมหน้าอกไปแล้วมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรมาพบแพทย์อย่างเร่งด่วน เพราะอาจมีการแตก (Ruptured Implant) หรือรั่วซึม (Silicone Leakage) ของซิลิโคน ได้แก่
1.หน้าอกผิดรูปไปจากเดิม
2.มีอาการปวด แสบ บริเวณหน้าอก
3.หน้าอกมีขนาดเล็กลงอย่างฉับพลัน
4.หน้าอกแข็ง

ทั้งนี้ บางรายอาจไม่มีอาการใดปรากฏ (Silence Rupture) แต่ทั้งนี้หากตรวจพบว่าซิลิโคนรั่วซึม หรือแตก แพทย์จะทำการผ่าตัดรักษา นำซิลิโคนเก่าออก (Remove Silicone) ล้างเนื้อเยื่อให้สะอาดและเลาะพังผืดออก (Capsulectomy) เพื่อใส่ซิลิโคนใหม่เข้าไป ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงแต่อย่างใดครับ..

………………………………………
คอลัมน์ : Healthy Clean
โดย “พรรณรวี พิศาภาคย์”