กรณี…การบอกเลิกสัญญาประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” ของบมจ.สินมั่นคงประกันภัย ได้ กลายเป็น “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” ของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ที่ต่างคนต่างก็กลัวพิษของไวรัสร้ายโควิด

ต่อให้จนสุดท้ายแล้วบมจ.สินมั่นคงประกันภัย ขอ “กลับลำ” ประกาศขึ้นบนเว็บไซต์ของบริษัท แจ้งยกเลิกการบอกเลิกกรมธรรม์เจอจ่ายจบ ไปแล้วก็ตาม

แต่การ “กลับลำ” ดังกล่าว ก็เป็นที่รู้กันทั้งประเทศว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร?

กรณีนี้…ต้อง ชื่นชม” การทำงานของ “สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือคปภ.” ที่ได้ใช้ “อำนาจ” ในฐานะองค์กรกำกับดูธุรกิจประกันภัย เพื่อยับยั้งการบอกเลิกกรมธรรม์ ได้ทันท่วงที ก่อนที่พี่น้องคนไทยต้องถูก ซ้ำเติม” จากการบอกเลิกกรมธรรม์โควิด เข้าให้อีก

นาทีนี้!! ทุกคนต่างรู้ “พิษสง” ของไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างดี จึงแห่แหนการทำประกันภัยโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการเสนอขายในลักษณะของ “เจอ จ่าย จบ” เพราะความคุ้มครองนั้นคุ้มค่าเมื่อเทียบกับค่าเบี้ยประกันที่ต้องควักกระเป๋าจ่าย

เมื่อรัฐบาลยัง “ควบคุม” โควิด ไม่ได้ คนติดเชื้อทะลุหลักหมื่นคนเข้าไปแล้ว คนเสียชีวิต ทะลุหลักร้อยคน แถมยังมีข่าวนอนเสียชีวิตคาบ้านพัก นอนรอเตียง อาการหนัก กันมากขึ้นทุกวันทุกวัน เป็นใคร? ใครก็กลัวขี้หดตดหายกันทั้งนั้นแหละ!!

ไม่เพียงเท่านี้!! ด้วยพิษร้ายของโควิด ก็ทำเอาคนทั้งประเทศ ต้องผจญเผชิญกับภาวะยากลำบาก ออกไปทำมาหากินก็ไม่ได้ เงินเยียวยาจากรัฐบาลก็น้อยนิด แถมใช่ว่าจะได้ทุกคน ใครอยู่นอกระบบ ตกหล่น ก็อดไป

จึงไม่แปลกใจ ที่จะมีข่าวเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ว่า… ขอยอมติด เพื่อแลกกับเงินแสนที่เป็นค่าสินไหมประกันโควิด แม้เป็นความคิดแบบ “สิ้นคิด” ก็ตาม ที่ยอมเสี่ยงตายเพื่อแลกกับเงินประกันหลักแสน

แล้วก็ไม่แปลกอีกเช่นกัน!! ที่บริษัทประกันภัยจะพากัน “งดต่ออายุ” กรมธรรม์ประกันโควิด เมื่อหมดระยะเวลาคุ้มครอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นแบบปีต่อปี เพราะเห็นแนวโน้มแล้วว่า หากยังต่ออายุตาม “แผนประกันเดิม” ต่อไป อาจมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง

เชื่อมั้ย!! นับตั้งแต่ปี 63 จนถึงเดือน มิ.ย. 64 จำนวนกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 มีมากถึง 26.85 ล้านฉบับ มีเบี้ยประกันภัยสะสม 9,220 ล้านบาท มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนรวมกว่า 2,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 20% ของเบี้ยสะสม

แต่ที่น่าสนใจ!! ปรากฏว่าอัตราการทำประกันภัยโควิดได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา จากที่มียอดกรมธรรม์สะสม 10.66  ล้านฉบับ ปรากฏว่าในเดือนถัดมา คือ เม.ย. กรมธรรม์เพิ่มเป็น 17.11 ล้านฉบับ เดือน พ.ค. เพิ่มเป็น 23.25 ล้านฉบับ และเพิ่มเป็น 26.85 ล้านฉบับ ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ในเมื่อรัฐบาล “เอาไม่อยู่” กับการยับยั้งโควิด ในเชิงธุรกิจเห็นแววแล้วว่าถูก “กินเนื้อ” แน่ ๆ ก็ต้องมีการปรับมีการเปลี่ยนแผน เพื่อให้ธุรกิจไม่ขาดทุน แต่การหักดิบ “ยกเลิก” ไปเลย ก็ดู “โหดร้ายเกินไป” สำหรับคนไทยในเวลานี้

แค่เพียง “ปรับเปลี่ยน” ยังพอทำเนา ยังพอยอมรับในเหตุผลกันได้ ถ้าผู้ซื้อพอใจในแผนกรมธรรม์ใหม่ก็ว่ากันไปตามกำลัง ตามใจปรารถนา

กระแสของ “ประกันภัย” สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า คนไทยต่างพยายาม “หนีตาย” จากพิษของไวรัสโควิด ไม่ว่าจะเป็นมุมของประชาชน หรือมุมของภาคธุรกิจ ก็ตาม

เพราะอย่าลืมว่า…อนาคตการจัดการกับโควิด ยังไม่เห็นวี่แวว การออกมาตรการล็อกดาวน์ และเคอร์ฟิว ในพื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด ก็ยังกดจำนวนคนติดเชื้อ และคนเสียชีวิตลงไม่ได้เสียที

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องออกมาส่งสัญญาณว่าจำเป็นต้องยกระดับมาตรการให้เข้มข้นขึ้น ให้แรงขึ้น แม้ว่าประชาชนทุกคนต้อง “เจ็บ” มากขึ้นไปอีก

มาจนถึงเวลานี้… เชื่อว่าทุกคนยอมที่จะเจ็บ แต่คำถามคือ? เจ็บแล้วจะ ”จบ” หรือเปล่า? นั่นแหล่ะคือปัญหาใหญ่ที่ผู้นำรัฐบาลต้องหาคำตอบให้ได้

เพราะไม่เช่นนั้น “วิกฤติศรัทธา” จะเริ่มก่อตัว เริ่มสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ถล่ม “ผู้นำ”!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”