ที่เปิดตัวชิงเก้าอี้มาแล้ว ชัชชาติ สิทธิพันธุ์(อิสระ), สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์(ประชาธิปัตย์), รสนา โตสิตระกูล(อิสระ), ประยูร คงรองยศ (ไทยศรีวิไลย์) และล่าสุด ที่มาแบบดุดัน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร(ก้าวไกล) ส่วนคนเดิม คนเก่า ผู้ว่าฯอัศวิน ขวัญเมือง ก็ทำท่าจะมาป้องกันตำแหน่ง

จากนี้คงมีโชว์ตัวกันอีกเรื่อยๆ เป็นทางเลือกให้คนเมืองหลวง เลือกผู้ว่าของตัวเอง

แน่นอน มีเล็งกันว่า จะมีผู้ท้าชิงที่ ชื่อ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ หรือไม่

แม้ มาดามแป้ง จะไม่เคยลงการเมือง แต่ถือเป็นคนดังระดับท็อปของประเทศ จากบทบาทในวงการกีฬา ตั้งแต่ผู้จัดการทีมกีฬาคนพิการ, ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงไทย พาไปบอลโลก 2 สมัย, ประธานการท่าเรือ เอฟซี และล่าสุดมาทำฟุตบอลชายทีมชาติไทย ได้แชมป์อาเซียน

ครั้งหนึ่ง มาดามแป้ง เคยมีกระแสเชื่อมโยงกับ พรรคประชาธิปัตย์ แต่ครั้งนั้นเจ้าตัวยืนยันฟันโชะ “ไม่เล่นการเมือง”

แต่หนนี้กระแสข่าวพุ่งเป้าไปสู่ พรรคพลังประชารัฐ จะส่งเป็นแคนดิเดตผู้ว่ากทม. สู้กับตัวท็อปหลายรายที่ล้วนแข็งโป๊ก

จริงๆ หากดูจากวงนอก ก็ไม่ได้มีสัญญาณอะไร แต่มาน่าสนใจที่หนนี้ มาดามแป้ง ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ในแบบ “ไม่เด็ดขาด” เหมือนหนก่อน

สรุปใจความ คือ ไม่สนใจเล่นการเมือง แต่จะให้ตอบปฏิเสธก็ไม่ใช่ เพราะหากบอกปัดไปแล้ว ไม่รู้อนาคตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจ ขอนำบอลไทยไปบอลโลกก่อน ยังมีความสุขกับกีฬา เพราะเป็นพื้นที่ที่มาร่วมกัน ไม่ว่าจะเห็นต่างทางการเมืองอย่างไร

ตอบแบบนี้ ก็เอ๊ะแล้วว่า เผื่อเส้นทางไว้หรือเปล่า

ไหนจะมีคลิปวิดีโอคอลล์ จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปแสดงความยินดีกับแชมป์ซูซูกิคัพ ซึ่งนำไปสู่การ(ต้อง)พานักบอลไปขอบคุณที่มูลนิธิป่ารอยต่อ

ก็ผูกเรื่องกันไปได้ ตามสไตล์การเมือง เรื่องลึกซึ้ง ซ่อนเงื่อน

มาดามแป้ง มีต้นทุนทางสังคมค่อนข้างสูง ที่เก็บสะสมมานาน ทั้งจากทางกีฬา และการช่วยสังคม จนชื่อเสียงขึ้นหิ้ง ระดับท็อป คนไทยรู้จักทุกระดับชั้น เป็นต้นแบบของผู้หญิงไทยที่ใช้คำนำหน้าว่ามาดาม

ความน่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตน จากแวดวงไฮโซ มาอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลทั่วไปได้ ด้วยฟุตบอลเป็นตัวเชื่อม ซึ่งดูแล้วเธอก็สนุกกับสิ่งนี้ซะด้วย

คิดดูเถอะ ดังขนาดไหน มันจะมีบริษัทสักกี่เจ้า ที่เอาบิ๊กบอสของตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ และกล้าเอาชื่อตัวเองรับประกันความเชื่อมั่นกับแคมเปญ “เชื่อแป้ง”

ตอนนี้ความนิยมของ นวลพรรณ ล่ำซำ ถือว่าสูงลิ่ว ส่วนใหญ่เชียร์ ชื่นชอบ ชื่นชม ด้วยผลงานและภาพลักษณ์ การเล่นกระแส

แต่ถ้าลงการเมืองจะกลับตาลปัตร ความนิยมจะถูกหั่นไปกว่าครึ่ง ในยุคที่ความร้อนแรงยังแตะเพดาน(และคงจะเป็นแบบนี้ไปอีกนาน)

จากเสียงชมอย่างเดียว ทีนี้ไม่ใช่แล้ว จะมีเสียงด่าเข้ามาด้วย

ไหนจะธุรกิจ เมืองไทยประกันภัย ที่มี มาดามแป้ง เป็นสัญลักษณ์

ดังนั้นมองในแบบง่ายๆ กับสถานะตอนนี้ มาดามแป้ง ไม่มีความจำเป็นต้องเปลืองตัว กระโดดลงสู่สนามที่การต่อสู้ดุเดือดเลือดพล่าน การต่อสู้ที่หลากมิติมากกว่า และไม่จำเป็นเอา “ทุน” ที่ตัวเองมีมาเสี่ยง

กับฟุตบอลไทย ก็ถือว่าเป็นช่วงที่ไปได้สวย ว่ากันจริงๆ ปีนี้งานก็ไม่หนักนัก คัดเลือกเอเชียนคัพ, ยู23 เอเชีย รอบสุดท้าย, ซีเกมส์, ซูซูกิคัพ ยังไม่ปีนรุ่นไปต่อยกับยักษ์เอเชีย หากเตรียมดีๆ ตัวมาแน่นๆ ก็มีโอกาสสูงจะประสบความสำเร็จ

แล้วก็คิดจากโลกฟุตบอลไทย มาดามแป้ง จะเป็นกำลังหลักของวงการฟุตบอลไทยได้อีกเยอะ (ส่วนในอนาคตจะไปถึงเก้าอี้นายกสมาคมฯ อย่างที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ปูทางให้หรือไม่นั่นก็อีกเรื่อง)

คงน่าเสียดาย ถ้าจะผละจากวงการฟุตบอล

ด้วยสิ่งที่มีอยู่ ณ ตอนนี้ ถือว่า มาดามแป้ง ไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะหักศอก เชื่อว่าจะไม่กระโดดสู่เวทีเก้าอี้ใหญ่ของเมืองหลวง

อันนี้ไม่ใช่ว่าลงการเมืองแล้วไม่ดีนะ แต่พื้นฐาน ความเป็นตัวตน ต้องเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ต้องทุ่มเทแทบทั้งชีวิต

ซึ่งที่ผ่านมา มาดามแป้ง ยังไม่มีฟิลของคนการเมือง

จึงเชื่อว่าไม่สมเหตุสมผลที่จะลงชิงผู้ว่า กทม.

นอกจากเสียจากว่า… เธอมีอุดมการณ์ แนวทางการเมือง แต่เก็บงำจนคนวงนอกไม่รู้สึก

และนอกเสียจากว่า เส้นทางที่ผ่านมา คือหนึ่งในยุทธศาสตร์ปูทางสู่เวทีการเมืองอยู่แล้ว.

*** วุฒินล ***