นาฬิกาวันสิ้นโลก (Doomsday Clock) เป็นนาฬิกาบอกเวลาที่ถูกสมมุติขึ้น ไม่ใช่นาฬิกาบอกเวลาจริง แต่เป็นนาฬิกาเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นการเปรียบการนับถอยหลังมหันตภัยทั่วโลกที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิด สงครามนิวเคลียร์ (Nuclear War) โดยเป็นการใช้หน้าปัดนาฬิกาแทนมาตรวัดที่บ่งบอกว่าสถานการณ์โลกในปีนั้น ๆ มีความเสี่ยงที่จะเข้าใกล้หายนะมากน้อยเพียงใด ยิ่งเข็มนาฬิกาบอกเวลาเข้าใกล้เที่ยงคืนหรือ 24.00 น. มากขึ้นเท่าใด โลกก็ยิ่งมีความเสี่ยงประสบกับความหายนะมากขึ้นเท่านั้น เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกอาจถูกปรับให้เดินหน้าหรือถอยห่างจากเวลาเที่ยงคืนก็ได้ มากน้อยต่างกันในแต่ละปี นาฬิกาวันสิ้นโลกเป็นเครื่องมือที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งคิดค้น ระเบิดปรมาณู (Atomic bomb) ซึ่งมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู (The Bulletin of the Atomic Scientists-BAS) ที่ มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ 1947 (พ.ศ.2490) นาฬิกาโลกวันสิ้นโลกนี้แขวนอยู่บนกำแพงของสำนักงานหอจดหมายข่าวนิวเคลียร์ ในมหาวิทยาลัยชิคาโก ปัจจุบันนอกจากจะมีสมาชิกของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณูแล้ว ยังมีนักฟิสิกส์นักวิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ นักวิทยาศาสตร์สาขาสิ่งแวดล้อม ยังรวมถึงคณะกรรมการที่ปรึกษาซึ่งได้รับ รางวัลโนเบล (Nobel Price) 15 คนอีกด้วย ซึ่งร่วมกันทำงานในการวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์โลก ก่อนที่จะตัดสินใจประกาศปรับเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกหรือวันโลกาวินาศ
ในห้วงอดีตที่ผ่านมา เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกถูกปรับเข้าใกล้เวลาเที่ยงคืนมากที่สุด เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ที่สหรัฐอเมริกาทดลองระเบิดไฮโดรเจนเมื่อปี ค.ศ. 1953 (พ.ศ.2496) เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกถูกปรับเข้าใกล้เวลาเที่ยงคืนเพียง 120 วินาที (2 นาที) ก่อนเวลาเที่ยงคืน ส่วนปีที่เข็มนาฬิกาถูกปรับให้ถอยออกห่างจากเวลาเที่ยงคืนมากถึง 17 นาที เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) เมื่อครั้งที่ชาติมหาอำนาจร่วมลงนามในสนธิสัญญาลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ (Strategic Arms Reduction Treat - START)
ในแต่ละปี กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณูมีการวิเคราะห์ความเสี่ยงต่างๆ ของโลก แล้วประกาศตัวเลขเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกเพื่อบ่งชี้สถานการณ์โลกว่ากำลังเข้าใกล้ความหายนะมากเพียงใด ปัจจัยหลักในการวิเคราะห์ คือ ความเสี่ยงด้านอาวุธนิวเคลียร์ ความเสี่ยงภาวะของสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ในปี ค.ศ. 2019 (พ.ศ. 2562) เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกหยุดอยู่ที่เวลา 23:58.20 น. ซึ่งเหลือเพียง 100 วินาที(1.40 นาที) ก่อนเวลาเที่ยงคืน ซึ่งในปีนั้นมีภัยคุกคามจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้น สำหรับในปี ค.ศ 2020 (พ.ศ. 2563) แม้ว่าจะมีการระบาดใหญ่ (Pandemic) ของโควิด-19 ในทั่วโลก เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกยังคงหยุดอยู่ที่ตำแหน่งเดิมโดยไม่เปลี่ยนแปลง
ลำดับเหตุการณ์การปรับเวลานาฬิกาวันสิ้นโลกของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู ตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 (พ.ศ.2490)-ค.ศ.2021 (พ.ศ.2564) รวมทั้งสิ้น 17 ครั้ง ดังนี้
ค.ศ.1947 (พ.ศ.2490) 7 นาทีก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลา 23.53 น. (Time is set for the first time)
ค.ศ.1949 (พ.ศ.2492) 3 นาทีก่อนเที่ยงคืน (USSR tests its first nuclear bomb)
ค.ศ.1953 (พ.ศ.2496) 2 นาทีก่อนเที่ยงคืน (The USA tests their first hydrogen bomb. This is the closest the minute hand had been to midnight before 2020)
ค.ศ.1962 (พ.ศ.2505) 7 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Cuban Missile Crisis is resolved)
ค.ศ.1972 (พ.ศ.2515) 12 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Strategic Arms Limitation Treaty is passed)
ค.ศ.1981 (พ.ศ.2524) 4 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Cold War is re-ignited when Ronald Reagan is elected and the Soviet invade Afghanistan)
ค.ศ.1984 (พ.ศ.2527) 3 นาทีก่อนเที่ยงคืน (US threatens a space based anti-ballistic missile system)
ค.ศ.1990 (พ.ศ.2533) 10 นาทีก่อนเที่ยงคืน (The Berlin Wall falls)
ค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) 17 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Cold War ends. This is the furthest the minute hand has been from midnight)
ค.ศ.2002 (พ.ศ.2545) 7 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Following 9/11 fears increase of nuclear weapons falling into the wrong hands)
ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) 5 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Kim Jong-Un hints a potential for nuclear war in Korea)
ค.ศ.2016 (พ.ศ.2559) 3 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Lack of action on climate change and nuclear weapon threat remains)
ค.ศ.2017 (พ.ศ.2560) 2.30 นาทีก่อนเที่ยงคืน (President Donald Trump’s vagueness regarding nuclear weapon use and the rise of nationalism)
ค.ศ.2018 (พ.ศ.2561) 2 นาทีก่อนเที่ยงคืน (Failure from world leaders to deal with climate change issues and nuclear threats saw the clock set at its joint closest to midnight)
ค.ศ.2019 (พ.ศ.2562) 2 นาทีก่อนเที่ยงคืน (The Amazon burns and President Donald Trump heightens tension)
ค.ศ.2020 (พ.ศ.2563) 1.40 นาที ก่อนเที่ยงคืน (Climate change that was ‘devastating the planet’ according to the Bulletin and the demise of the INF treaty meant new nuclear weapons were created)
ค.ศ.2021 (พ.ศ.2564) 1.40 นาที ก่อนเที่ยงคืน (World leaders deemed unprepared to deal with climate change, nuclear threat and the pandemic)
สถานการณ์ความตึงเครียดในเหตุการณ์ที่กองกำลังปฏิบัติการพิเศษของรัสเซียรุกเข้าไปใน ดินแดนยุเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ผ่านมาแล้ว 7 วัน ซึ่งยังมีการสู้รบกันอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน เชื่อว่ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากองค์การจดหมายข่าวนักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู คงอยู่ระหว่างการวิเคราะห์สถานการณ์และประเมินความเสี่ยงถึงความร้ายแรงของหายนภัยที่อาจเกิดขึ้นตามมา แต่ในขณะนี้ยังไม่มีข่าวสารประกาศการปรับเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกในระดับใด
อย่างไรก็ตามมวลมนุษยชาติพึงอย่าได้ตั้งอยู่บนความประมาท เพราะดาวเคราะห์โลกดวงนี้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดความหายนะในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นสงครามนิวเคลียร์ ภัยพิบัติธรรมชาติร้ายแรงที่เกิดจากปรากฏการณ์ก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน การระบาดใหญ่ของโรคอุบัติใหม่ ฯลฯ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการดำรงชีวิตของพลโลกทั้งหลาย ตราบใดที่ประเทศต่างๆ ต้องการเป็นใหญ่ เป็นประเทศมหาอำนาจ เป็นเจ้าโลก ก็จะนำไปสู่ความขัดแย้งในการแย่งชิงและแสวงผลประโยชน์อย่างไม่ลืมหูลืมตา มีการประหัตประหารกัน ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนหมดสิ้น ไม่มีการคำนึงถึงความผิดชอบชั่วดีใดๆ เป็นการยากยิ่งที่พลโลกจะอาศัยอยู่ร่วมกันบนดาวเคราะห์โลกนี้อย่างมีสันติสุข
…………………………………..
คอลัมน์ : ว่ายทวนน้ำ
โดย “ทวีศักดิ์ อุ่นจิตติกุล”
อ่านเพิ่มเติมที่.. แฟนเพจ : สาระจากพระธรรม