“เดอะแชมป์” โพสต์ในทำนองว่า รายการนี้เคยยิ่งใหญ่ก็จริง แต่ตอนนี้มันตกรุ่นไปแล้ว กับฟุตบอลในยุคที่เป็นอาชีพเต็มรูปแบบ และมีระบบแมตช์ตามฟีฟ่าเดย์ ไม่ใช่คิดจะแข่งก็แข่ง

เอาดาวรุ่งไปหาประสบการณ์ไม่ดีกว่าหรือ วอนผู้ใหญ่คิดใหม่ ทำใหม่

นายกรวีร์ ออกมาพูด ก็มีคนถามถึง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ว่าไม่มีแอ็คชั่นบ้างหรือไง

จริงๆ บิ๊กอ๊อด พูดเรื่องนี้มานานแล้วกับการ “ก้าวข้ามอาเซียน” (ที่ก็โดนโลกโซเชียลเอาไปจวกกัน) แต่การจะมาพูดตอนนี้ก็คงไม่เหมาะสม เพราะ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม ก็ยืนยันว่าต้องการชุดดีสุด ไปคว้าเหรียญทอง

ถ้ามาสมทบกับ นายกรวีร์ อีก เดี๋ยวจะดราม่าเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นายกเอาอย่าง ผจก.ทีมเอาอีกอย่าง

ซีเกมส์ จะเอาไงดี ส่งดาวรุ่งไป หรือจะยังเน้นเพื่อเหรียญทอง

บริบทฟุตบอล มันก็เปลี่ยนไปจริงๆ อย่างที่ นายกรวีร์ บอก เมื่อก่อนไม่ได้มีแข่งอาชีพชุกชุม นักบอลก็รอไปเล่นทีมชาติ

แต่เดี๋ยวนี้ มูลค่าบอลอาชีพมหาศาล ค่าเหนื่อยเดือนละหลายๆ แสน สโมสรก็ไม่อยากปล่อยนักบอลออกจากอ้อมอก ยิ่งไม่มีกฎฟีฟ่าเดย์มาบังคับ

ลำบากลำบนกับการหานักเตะ สะเทือนลีกภายในอีก รอไปจริงจัง รายการใหญ่ๆ ไม่ดีกว่าหรือ

กระแสแฟนบอลก็เฮโลไปทางนั้นเยอะเหมือนกัน ว่าถึงเวลาสักทีที่ต้องมองผ่านซีเกมส์

แต่อีกมุมหนึ่ง ก็ชี้ว่า ถ้าบอลทีมชาติไม่สำเร็จ มันก็จะสะเทือนทั้งระบบ ถึงความนิยมฟุตบอลในประเทศ

อันนี้ก็ต้องย้อนกลับไปว่า จริงๆแล้ว แฟนบอลไทยให้น้ำหนักกับเหรียญทองซีเกมส์ขนาดไหน ยังเป็นของรักของหวงอยู่หรือไม่ ขนาดว่าถ้าตกรอบแล้วก็หมดอารมณ์ไปดูบอลไทยลีก

ในทางผู้หลักผู้ใหญ่วงการกีฬา คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็มองอีกมุม ขึ้นชื่อว่าแข่งในนามทีมชาติแล้ว ก็ต้องทำให้ดีสุด ไปเอาเหรียญทองมา เพราะนี่คือเหรียญใหญ่

จักรวาลของมนตรีซีเกมส์ ก็คงยิ่งไม่สบายใจ ถ้าทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่คือเบอร์ต้นเชิงลูกหนัง จะมามองข้ามด้อยค่าฟุตบอลซีเกมส์

ฟุตบอลคือกีฬาอันดับ 1 ของภูมิภาค ถ้าฟุตบอลถูกลดความสำคัญจากผู้แข่ง มูลค่าของซีเกมส์ก็ลดลงด้วย

เอาง่ายๆ ในยุคที่ ตะกร้อไทย กินมาเลเซีย ขาดลอย เวลาคุณดูซีเกมส์ คุณจะสนใจกีฬาอะไรที่สุด ถ้าไม่ใช่ฟุตบอล

นอกจากปัจจัยวงจรโลกฟุตบอลที่เปลี่ยนไป บางทีซีเกมส์ ก็ต้องสังคายนารูปแบบการแข่งขัน

ในยุคนี้ มันไม่ไหวแล้วกับการเตะวันเว้นวัน ยิ่งหนก่อนที่ฟิลิปปินส์ ยิ่งงามไส้ ไปเจอหญ้าเทียม เล่นไปแหยงไป กลัวจะเจ็บกันหนัก

ถึงเวลาหรือยัง ที่จะมีรอบคัดเลือก เหมือนเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ เพื่อตัดให้ทัวร์นาเมนท์ ไม่ยาว ไม่ต้องเตะถี่ยิบ

ลดอายุลงอีกไหม ในเมื่อระดับ 22-23 ปี ก็ถือว่าเข้าสู่ฟุตบอลอาชีพแล้ว ให้รุ่นเด็กลง แต่สู้กันเต็มที่ดีกว่าหรือเปล่า

ฟุตบอลซีเกมส์ไม่ใช่ฟุตบอลโลกของชาวอาเซียนอีกต่อไป ดังนั้นโลกเปลี่ยนไป ก็ต้องปรับตัวตาม

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ มักมีปัญหาความไม่เป็นสากล ดูบ้านๆ จนเกินงาม เจ้าภาพยัดทะนานกีฬาที่ถนัด ชนิดได้ยินชื่อยังงง เล่นเอง ดูเอง อยากโกยเหรียญเยอะๆ เป็นเจ้าทอง(จนหลังๆ ไม่ค่อยมีใครสนใจเจ้าเหรียญทอง)

แม้แต่การแบ่งเหรียญ ที่ก็แทบจะเป็นวัฒนธรรมที่ยอมรับกันได้ของผู้หลักผู้ใหญ่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่แบ่งให้เขา ใครจะมาแข่งด้วย

ไหนจะข้อกังขาการตัดสินกีฬาที่ใช้สายตา เรื่องไม่ปกติถูกยอมรับเป็นเรื่องปกติ ถ้าโดนเข้า ก็แค่โวยแก้เขินก็จบ

ยุคที่วงการกีฬาหมุนเวียนเปลี่ยนไป มาตรฐานการจัดซีเกมส์ จึงต้องยกระดับขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ฟุตบอล รวมไปถึงกีฬาอื่นๆ

ถ้าไม่อยากให้ซีเกมส์ถูกด้อยค่า ก็ต้องยกระดับคุณค่าของเกมส์ให้รู้สึกว่าควรค่าแก่การทุ่มเทเข้าแข่งขัน.

*** วุฒินล ***