กระทรวงแรงงานสหรัฐแถลงข่าวเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่า บริษัท ‘ร็อกแลนด์ เบเกอรี’ ตกลงที่จะจ่ายเงินจำนวน 850,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 29 ล้านบาท) แก่ผู้สมัครตำแหน่งงานที่เป็นเพศหญิง คนผิวดำและคนเชื้อชาติเอเชีย แล้วบริษัทไม่ยินยอมให้บุคคลในกลุ่มนี้ทำงานในตำแหน่งพนักงานเก็บเงิน พนักงานบรรจุหีบห่อสินค้าและพนักงานครัว ในสถานที่ประกอบการของบริษัทที่เขตนานูเอ็ต เมืองร็อกแลนด์เคาน์ตี รัฐนิวยอร์ก

ร็อกแลนด์ เบเกอรี่ โดนกระทรวงแรงงานสหรัฐตรวจสอบ เนื่องจากบริษัทถือสัญญาให้บริการกับกระทรวงการทหารผ่านศึกสหรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการที่โรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์ ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงกล่าวว่า การจำหน่ายเบเกอรี่ดังกล่าวจึงต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของทางการ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทดำเนินการว่าจ้างพนักงานอย่างเท่าเทียม

ร็อกแลนด์ฯ ไม่เพียงให้บริการขนมอบต่าง ๆ แก่โรงเรียนเตรียมทหารสหรัฐ ร้านเบเกอรี่ดังกล่าวยังจำหน่ายอาหารประเภทอื่น ๆ แก่บริษัทที่ให้บริการด้านจัดการอาหารหลายแห่ง รวมถึงขายขนมอบให้สนามแข่งขันกีฬาในนิวยอร์กหลายแห่ง เช่น สนามแยงกี้ สนามซิตีฟิลด์ และสนามกีฬามหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส

ห้าพี่น้องสกุลบัตตาเลียและพ่อของเขาซื้อกิจการของ ร็อกแลนด์ เบเกอรี่ ในปี 2529 บริษัทได้ดำเนินธุรกิจและขยายกิจการมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี 2561 เมื่อมีการตรวจสอบจากกระทรวงแรงงานแล้วพบว่า ร็อกแลนด์ฯ ให้ระบบการจ้างงานที่อาศัยการอ้างอิงจากคำพูดรับรองของพนักงานด้วยกันเป็นหลัก ระหว่างเดือน ม.ค.-ธ.ค. 2560 ซึ่งทำให้ผู้สมัครงานที่เป็นเพศหญิง คนผิวดำหรือมีเชื้อสายเอเชีย โดนปฏิเสธงานในตำแหน่งพนักงานเก็บเงิน พนักงานบรรจุหีบห่อสินค้าและพนักงานครัว 

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดระเบียบการบริหารงาน ว่าด้วยการห้ามองค์กรที่เป็นคู่สัญญาของรัฐว่าจ้างพนักงานโดยมีการกีดกันบุคคลบางกลุ่ม

ร็อกแลนด์ เบเกอรี่ ได้รับหนังสือเตือนจากหน่วยงานรัฐเรื่องดังกล่าวในเดือน ม.ค. 2564 และได้เข้าร่วมข้อตกลงประนีประนอมกับกระทรวงแรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง ร็อกแลนด์ฯ จะต้องจ่ายเงินจำนวน 850,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 29 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นค่าจ้างย้อนหลัง 739,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 25.3 ล้านบาท) และดอกเบี้ย 110,500 ดอลลาร์สหรัฐ (3.78 ล้านบาท) แก่ลูกจ้างที่เคยโดนปฏิเสธตำแหน่งงานเป็นรายบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบอย่างน้อย 151 คน

บริษัทยังตกลงที่จะว่าจ้างพนักงานเพิ่มอีก 52 ตำแหน่ง ให้ผู้สมัครในกลุ่มที่เป็นเพศหญิง คนผิวดำและคนเชื้อสายเอเชีย นอกจากนี้ บริษัทยังจะต้องหยุดการใช้ระบบจ้างงานด้วยการอ้างอิงจากคำพูดรับรองของลูกจ้าง และจะต้องจัดหาการอบรมในหัวข้อต่าง ๆ แก่พนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการว่าจ้าง

แหล่งข่าว : miamiherald.com

เครดิตภาพ : Getty Images