หลังจากที่องค์กรอวกาศแห่งชาติสหรัฐหรือ ‘นาซา’ ปล่อยเฮลิคอปเตอร์จิ๋ว ‘Ingenuity’ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการสำรวจรุ่นใหม่ ลงบนดาวอังคารได้สำเร็จ มันก็สามารถเก็บภาพพื้นผิวของดาวเคราะห์สีแดงส่งกลับมายังศูนย์บัญชาการบนพื้นผิวโลก ซึ่งมีบางภาพที่สร้างความตื่นตะลึงแก่เจ้าหน้าที่ เนื่องจากเห็นได้ชัดว่า เป็นซากของยานหรืออุปกรณ์บางอย่างกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ โดยมีบางส่วนฝังจมอยู่ใต้พื้นผิวของดาวอังคาร ขณะที่ชิ้นส่วนที่อยู่เหนือพื้นมีลักษณะคล้ายแคปซูลลงจอดและร่มชูชีพของยานอวกาศขนาดเล็ก 

โจนาธาน แมคดาวล์ นักดาราศาสตร์ซึ่งประจำการอยู่ที่ศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์อย่างติดตลกว่า “ตามหลักการแล้ว นี่คือเศษซากของจานบินของมนุษย์ต่างดาวที่ตกลงบนดาวอังคาร”

ซากของยานสำรวจ ‘Perseverance’ ซึ่งถูกส่งมายังดาวอังคารก่อนหน้านี้

ซากชิ้นส่วนที่ปรากฏในภาพถ่ายของ Ingenuity นั้นเป็นซากของยานอวกาศที่ตกลงบนดาวอังคารจริง ๆ แต่ในกรณีนี้ ‘มนุษย์ต่างดาว’ สำหรับดาวอังคารก็คือชาวโลก ส่วนซากยานดังกล่าว หลังจากตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นซากของยาน ‘Perseverance’ ซึ่งเป็นยานสำรวจของ นาซา รุ่นก่อนหน้านี้ที่ถูกส่งไปยังดาวอังคารเมื่อปี 2563 และลงจอดที่พื้นผิวดาวอังคารเมื่อเดือน ก.พ. 2564

นอกเหนือไปจากภาพถ่ายที่ชวนให้ตกตะลึงกับบรรยากาศและชวนให้จินตนาการถึงเรื่องราวในรูปแบบนิยายวิทยาศาสตร์แล้ว ภาพถ่ายจาก Ingenuity ยังมีส่วนช่วยอย่างมากสำหรับนักวิทยาศาสตร์ในการทำความเข้าใจและวางแผนสำหรับการนำยานอวกาศลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคารในอนาคต

ตามข้อมูลของ นาซา การลงจอดบนดาวอังคารนั้นกระทำด้วยความเร็วสูงและเป็นเรื่องที่อันตราย ยานพาหนะที่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารอาจหมุนควงสว่านสู่พื้นผิวได้ในอัตราความเร็ว 12,500 ไมล์/ชม. หรือประมาณ 20,116.8 กม./ชม. ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความร้อนจัดและแรงโน้มถ่วงมหาศาล 

การได้ศึกษาสภาพของซากยานที่เคยลงจอดจะช่วยให้ทีมงานสามารถปรับเปลี่ยนวิธี และแผนการที่จะทำให้ยานอวกาศลงจอดได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น ภาพถ่ายที่ได้จาก Ingenuity ในครั้งนี้จึงนับว่ามีประโยชน์อย่างมาก

แหล่งข่าว : Yahoo!News

เครดิตภาพ : NASA/JPL-Caltech