เมื่อวันที่ 30 เม.ย. เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ โพสต์เรื่องราวชายชรา นอนเฝ้าศพเมียกว่า 20 ปี วอนให้มูลนิธิช่วยนำศพไปเผา หวั่นตัวเองจากไป แล้วไม่มีใครจัดการ โดยระบุว่า ชายชราผู้ศรัทธาต่อความรักนอนเฝ้าศพเมียมากว่า 20 ปี !!! เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 29 เมษายน 2565 คุณลุงเดินทางมาขอความช่วยเหลือที่มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ คุณลุงบอกว่าอยากจะให้ทางมูลนิธิช่วยจัดการศพของภรรยาซึ่งได้เสียชีวิตมาเป็นเวลา 21 ปีแล้ว หลังจากที่ภรรยาได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าด้วยโรคประจำตัว คุณลุงได้นำร่างของภรรยามาเก็บไว้ที่บ้านโดยไม่ยอมเผาเพราะด้วยความรักภรรยาไม่อยากจะแยกกันไปไหนอยากจะอยู่ด้วยกันจนสิ้นลมหายใจสุดท้าย

ต่อมาเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่บ้านของคุณลุง ได้พบศพภรรยาของคุณลุงอยู่ในบ้านจริง ซึ่งเป็นบ้านลักษณะเหมือนห้องเก็บของอยู่ภายในซอยรามอินทรา 23 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ จึงได้พาคุณลุงซึ่งทราบชื่อต่อมา ร.ต.ชาญ จันทร์วัชกาล อายุ 72 ปี เดินทางไปยังสำนักงานเขตบางเขน เพื่อขอคัดใบมรณะบัตรของคุณป้าซึ่งเป็นภรรยาที่เสียชีวิตมาตั้งแต่ปี 2544 โดยคุณลุงได้เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ฟังว่าคุณลุงเคยรับราชการทหาร ส่วนคุณป้าที่เสียชีวิตรับราชการอยู่กระทรวงสาธารณสุข แต่งงานอยู่กินกันมามีลูกชาย 2 คนในครอบครัวมีอยู่ 4 ชีวิต

ตอนที่ภรรยายังไม่เสียชีวิตครอบครัวมีความสุขมาก จนกระทั่งวันที่คุณป้าได้เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวครอบครัวจากที่เคยมีกันอยู่ 4 ชีวิต ทุกคนไม่มีใครรับได้ในเรื่องนี้ ส่วนตัวคนลุงไม่สามารถที่จะทำใจได้จึงได้นำร่างของคุณป้าซึ่งเป็นภรรยามาเก็บไว้ที่บ้าน ส่วนลูกทั้งสองคนก็ได้แยกย้ายไปทำงานมีครอบครัวเลยไม่ค่อยมีเวลามาดูแลคุณลุง จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 21 ปีที่คุณลุงอยู่กับร่างไร้วิญญาณของภรรยาด้วยความทุกข์ทรมานและคิดถึงภรรยาทุกวัน ตอนนี้คุณลุงเริ่มอายุมากแล้วเลยอยากมาขอความช่วยเหลือกับทางมูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ ให้ช่วยจัดการศพของคุณป้านำไปเผาประกอบพิธีทางศาสนา เพราะคุณลุงกลัวว่าถ้าคุณลุงไม่มีชีวิตอยู่แล้วจะไม่มีใครมาดำเนินการจัดการเรื่องนี้ให้

หลังจากได้รับทราบข้อมูลทุกอย่างแล้วจึงได้นำเรียนให้ นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี (ประธานมูลนิธิเพชรเกษม) และนายบัญชา ศรีนิลพันธ์ (รองประธานมูลนิธิเพชรเกษม) ทราบถึงเรื่องราวดังกล่าว จึงได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดการช่วยเหลือคุณลุงและประสานงานไปที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์เพื่อจะดำเนินการนำร่างคุณป้าไปประกอบพิธีฌาปนกิจตามศาสนาต่อไป

ขอบคุณที่มา : มูลนิธิเพชรเกษมกรุงเทพฯ, สถิตย์ วงษ์ทอง