จากกรณีเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยววัย 44 ปี สัญชาติออสเตรเลีย พาลูกสาววัย 15 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ญาณภัทร มาลัย รอง สว.(สอบสวน) เชิงทะเล จ.ภูเก็ต หลังถูกคนขับรถแท็กซี่ ใช้มือจับบริเวณต้นขาของลูกสาวภายในรถแท็กซี่ เหตุเกิดในบริเวณลานจอดรถห้างชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้แจ้งจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากต้องรีบเดินทางกลับประเทศออสเตรเลียในคืนวันเดียวกัน หลังทราบเรื่อง ทางพนักงานสอบสวนได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตเข้าตรวจสอบ เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงจากแท็กซี่คันดังกล่าว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 เปิดเผยว่า หลังจากนำตัวโชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าว ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยร่วมสอบปากคำร่วมกับทาง ผกก.สภ.เชิงทะเล ซึ่งทางโชเฟอร์แท็กซี่ ได้อ้างว่า นักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าว ได้สอบถามว่า เขาสวมกางเกงสีแดง สวยไหม ตนเองก็ตอบไปว่า สวย พร้อมทั้งเอื้อมมือจับไปที่ขา โดยที่ไม่ได้คิดอะไรกับนักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสาวพร้อมครอบครัวยังเคยใช้บริการแท็กซี่ของถึง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ และก็มีความสนิทสนมกับทางพ่อแม่ของนักท่องเที่ยวสาว และไม่ทราบว่าถูกแจ้งความเพื่อประสงค์ใด

จากการตรวจสอบใบแจ้งความลงบันทึกประจำวันดังกล่าวพ่อของผู้เสียหายได้ระบุว่า ไม่ประสงค์ดำเนินคดี หลังตำรวจสอบปากคำและตรวจสอบกล้องภายในรถ จึงได้ปล่อยคนขับรถแท็กซี่ไป.