เมื่อวันที่ 9 พ.ค.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายส่งเสริมการเรียนภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) แห่งชาติ ว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ใน 3 ประเด็น คือ 1.การจัดหาอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices)โดยขณะนี้ได้มีสำรวจจำนวนนักเรียนที่ต้องการอุปกรณ์ดังกล่าวมีประมาณ 1.4 ล้านคน ซึ่งโรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มมีการเปิดรับบริจาคจากศิษย์เก่า หรือการจัดการรับบริจาคจากคนในชุมชน โดยที่ประชุมเห็นว่าควรจะเริ่มทำจากจุดนี้ก่อน และในงบประมาณประจำปี 2566 เราจะของบฯ จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้สนับสนุนในส่วนนี้ด้วย ประเด็นที่ 2 ที่ประชุมมีมติที่จะเสนอให้มีการอบรมหลักสูตร Unplug Coding ให้แก่ข้าราชการที่จะเข้าสู่ตำแหน่งบริหารของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยจะมีหลักสูตร 3 ชั่วโมง 6 ชั่วโมง 18 ชั่วโมง สามารถแลกเรียนได้ รวมถึงจะมีการอบรมครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย ทั้งนี้สำหรับการขยายไปสู่หน่วยงานราชการอื่นๆ นั้น จะมีการประสานงานกับสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีหลักสูตรการอบรมข้าราชการจากทุกสังกัด เพื่อที่จะเพิ่มการอบรมหลักสูตร Unplug Coding เข้าไปด้วย อีกทั้งที่ประชุมยังได้มีการเสนอให้การอบรมข้าราชการที่เข้าบรรจุใหม่ด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าหลักสูตรนี้จะส่งผลให้ผู้ที่เข้ารับการอบรมสามารถคิดวิเคราะห์ และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี

“นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีมติแต่งตั้งนายบัณฑิต ทิพากร ทำหน้าที่ประธานคณะทำงานกำหนดมาตราฐานการพัฒนาบุคลากรการสอนและการเรียนรู้ coding แทนนายภุชงค์ อุทโยภาส พร้อมกันนี้ยังได้ปรับปรุงคณะทำงานชุดนี้ให้เป็นคณะอนุกรรมการ เพื่อที่ยกระดับมาตรฐานการจัดทำหลักสูตรที่จะใช้ในการอบรมให้มีความละเอียด รอบคอบ และมีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ”รมช.ศธ.กล่าว