จากกรณี นางสมหวัง สมบัติ อายุ 70 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ หลังทราบข่าวว่า นายวุฒิศักดิ์ หรือปุ่ง สมบัติ อายุ 39 ปี ลูกชายของตัวเอง แอบเอาบัตรเอทีเอ็มของแม่ ไปกดเงิน 1 แสนบาท แล้วเอาเงินสดทั้งหมดที่กดมา ไปโปรยหว่านบริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลสตึก และหน้าร้านสะดวกซื้อ มีผู้คนแย่งกันเก็บเงินเป็นจำนวนมาก ทำเอาแม่ถึงกับเข่าอ่อน วอนคนที่เก็บเงินไปนำมาส่งคืน

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายนิรันดร์ พิมพา อายุ 34 ปี พ่อค้าไก่ทอดในตลาดสด กล่าวว่า ตอนแรกเห็นเงินแบงก์ร้อย ปลิวออกจากรถ เข้าไปเก็บหวังจะคืนให้เจ้าของคิดว่าทำหล่น แต่พอเดินไป กลับเป็นการหว่านเหมือนโปรยทาน จึงตามเก็บได้ 700 บาท เพียงเสี้ยววินาที เห็นหว่านแบงก์พันกระจายไปทั่ว หลังตำรวจเตือน ได้เอาเงินจำนวน 700 บาทไปคืนแล้ว

ด้านนางสมหวัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบสมุดบัญชีธนาคาร พบว่าบัญชี ธนาคารกรุงไทย ถูกกดเงินไป 109,000 บาท คือเงินที่เอาไปหว่าน แต่มาพบว่าบัญชีเงินฝากธนาคาร ธ.ก.ส.หายไปอีก 200,000 บาท ตอนนี้เหลือเงินในบัญชี 200,000 บาท สอบถามลูกชายสารภาพว่า เอา ATM ไปกดเงินของแม่จริง จำนวนเงิน 200,000 บาทหลัง ได้เอาไปซื้อข้าวของต่างๆ แจกชาวบ้านจนเงินเกลี้ยง ไม่รู้จะทำอย่างไรอีก ส่วนหนึ่งก็สงสารลูก ถึงแม้จะเก็บมาเลี้ยง แต่ก็รัก อยากให้มีคนเอาลูกไปอบรมสั่งสอน เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ตนเชื่อว่า บ้านก็จะขายเอาไปขายแจกชาวบ้านอีกถ้าตนเสียชีวิตลง

หนุ่มโปรยเงินกราบขอโทษแม่ลั่นไม่ทำอีก ยังไม่เชื่อ!ก่อนหน้าเคยฉกทองแจกชาวบ้าน

พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก กล่าวว่า ตอนนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปประชาสัมพันธ์ ให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่เก็บเงินได้ เอามาคืน เพราะยังไม่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด หากถึงเวลาถ้าเจ้าของเงินยืนยันจะดำเนินคดี ก็ต้องจำเป็นตรวจสอบแล้วแจ้งเอาผิดตามกฎหมายได้ ล่าสุดมีคนเอาเงินมาคืนรวมแล้ว 2,900 บาท