หนังสือพิมพ์ ‘เดอะซัน’ รายงานข่าวของหญิงชาวอังกฤษรายหนึ่ง ซึ่งไปท่องเที่ยวพักผ่อนกับลูกสาววัย 19 ปีของเธอที่ประเทศกรีซ ต้องประสบกับการคิดราคาอาหารที่แพงเกินจริงจากร้านอาหารแห่งหนึ่งบนเกาะมิโนคอส โดยเธอและลูกสาวสั่งอาหารไม่กี่อย่าง มีเพียงเครื่องดื่มค็อกเทล 2 แก้ว และอาหารที่ปรุงด้วยก้ามปู 1 จาน ขณะนั่งรับประทานที่บริเวณด้านนอกอาคารที่ติดทะเล พร้อมกับชมวิวไว้ด้วยเป็นเวลาราว 3 ชม.

หญิงนักท่องเที่ยวเล่าว่า เธอได้ร้องเรียนไปยังบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวของเธอ โดยระบุว่า ร้านอาหารริมชายหาดดังกล่าวได้คิดค่าอาหารตามที่เธอได้สั่งมานั้นเป็นจำนวนเงินสูงถึงเกือบ 600 ยูโร หรือมากกว่า 20,000 บาท ทั้งที่เธอประเมินค่าอาหารและบริการว่าไม่น่าจะเกิน 200 ยูโร (ราว 7,200 บาท) โดยในใบเสร็จค่าอาหารระบุถึงค่าอาหารเป็นเงิน 520 ยูโร (18,810 บาท) บวกค่าทิปอีก 78 ยูโร (2,820 บาท) เมื่อพวกเธอไม่ยอมจ่ายค่าอาหาร ทางร้านก็ส่งพนักงานชายมาขวางพวกเธอไว้ ไม่ให้ออกจากร้าน 

นอกจากเธอจะร้องเรียนกับบริษัทท่องเที่ยวแล้ว หญิงนักเที่ยวชาวอังกฤษรายนี้ ยังเข้าแจ้งความกับตำรวจท้องถิ่นอีกด้วย โดยเธอได้รับคำบอกเล่าจากชาวบ้านในละแวกนั้นว่า เกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้เป็นประจำ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์โก่งราคาสินค้าและอาหารเมื่อขายให้นักท่องเที่ยวบนเกาะแห่งนี้ เมื่อปี 2562 ก็เคยมีกรณีนักท่องเที่ยวโดนชาร์จค่าอาหาร 1 จาน เป็นเงิน 591 ยูโร (21,380 บาท) โดยเป็นอาหารที่ปรุงด้วยปลาหมึกซึ่งมีอยู่เพียง 6 ชิ้น 

แหล่งข่าว : thesun.co.uk

เครดิตภาพ : Getty Images