กรณีทีมงาน หมอปลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในจ.ชัยภูมิ นำโดยนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ชัยภูมิ เข้าตรวจสอบสำนักประหลาด พื้นที่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต.ดงกลาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ หลังชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรม และรักษาโรคโดยวิธีการแบบแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะ จึงนำกำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี บุคคลซึ่งอ้างตนว่าเป็น พระบิดา อยู่ในสำนักดังกล่าว สามารถรักษาโรคต่างๆได้ จนมีชาวบ้านหลงเชื่อมารักษาตัวประมาน 30 คน ยอมกินปัสสาวะ เสมหะ และขี้ไคร นอกจากนี้ยังพบโลงบรรจุศพอีก 11 ศพ บางศพก็มารักษาและเสียชีวิตที่นี่ บางศพก็เสียชีวิตที่บ้านแล้วนำศพมาให้พระบิดาตามความเชื่อ ตามที่ได้นำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รอง ผวจ.ชัยภูมิ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่การปกครองจังหวัดตำรวจ ป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิ เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบเก็บหาหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม ที่สำนักลัทธิประหลาด โดยแยกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆออกหาหลักฐานมานำมาแจ้งความดำนินคดีกับพระบิดาโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เก็บตัวอย่างน้ำหมักต่างๆในโอ่งนับ 100 ใบ และเก็บตัวอย่างน้ำในบ่อหมักแจ่วปลาร้าบอง ส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการณ์สาธารณสุขฯ

ส่วนเจ้าหน้าที่อส.ฝ่ายปกครอง ได้ขุดหาหลักฐานต่างๆพื้นที่โดยรอบสำนักฯ นอกนั้นยังได้ให้ปศุสัตว์ ตรวจนับสัตว์ต่างๆทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย พร้อมทำบัญชีการตรวจนับ พบว่าภายในวัดยังมีสัตว์จำนวนมากประกอบด้วยประกอบด้วยโค(วัว) 11 ตัว กระบือ(ควาย) 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 30 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงอีกจำนวนหนึ่งที่กระจายอยู่ตามต้นไม้ในพื้นที่ เป็ดเทศ ประมาณ 15 ตัว สุนัขประมาณ 20 ตัว แมว 10-20 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา 24 ตัว ซึ่งขณะนี้พบว่าสัตว์ต่างอาศัยอยู่ในสำนักประหลาดของพระบิดา กำลังอดอาหารหิวโซ มีชาวบ้านนำอาหารเม็ดมาวางไว้หมาสุนัขกินเพียงเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่าง นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นำเจ้าหน้าที่ตรวจหาหลักฐานอย่างละเอียดภายในสำนักพระบิดา ยังพบกับเอกสารจำนวนหนึ่ง มีข้อความในเอกสารว่า “ถวายสดุดีพระบิดา” โดยมีเนื้อหาดังนี้ “ถวายสดุดีพระบิดา อยากจะพบพระองค์ผู้ทรงดํารงในกาลเวลาอยากจะเห็นพระผู้เป็นที่รักของลูกลูกปรารถนาได้อยู่ใกล้ชิดได้พินิจในความงามอยากจะนั่งลงใกล้พระบาทของพระบิดาอยู่ตรงหน้าพระพักตร์ผู้เป็นที่รักของลูกเพียง 1 วันนี้ได้อยู่ใกล้ชิดก็ดีกว่า 1,000 วันในที่ใดๆ….(ซ้ำ) ลูกจะรักและบูชานมัสการ..จะไม่ขอไปไกลห่างจากพระพักตร์ลูกจะรักและบูชานมัสการ.…อยู่ตรงนี้ที่พระบาทพระองค์ อยู่ตรงนี้ที่พระบาทพระบิดา”

จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานลุยตรวจและเก็บข้อมูลอย่างละเอียด พร้อมเก็บเอกสารไว้ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานไว้ดำเนินคดีต่อไป