จากกรณี น.ส.วิราวรรณ ชวดพงษ์ อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 9/229 หมู่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ร้องผู้สื่อข่าว ว่าได้โอนเงินร่วม 3 แสนบาท ผิดบัญชีเงินไปเข้าบัญชีของ น.ส.เสาวนีย์ หญิงสาวชาวจังหวัดบุรีรัมย์ และต้องลำบากเพราะติดต่อประสานงานกับธนาคาร ทั้งใช้วิธีโทรฯ ผ่านคอลเซ็นเตอร์ และไปติดต่อธนาคารสาขา กลับโยนกันไปมา สุดท้ายได้แค่รับเรื่องไว้ ไม่มีการอายัดเงินไว้ให้ได้ ต้องวิ่งหาสืบสวนข้อมูลเอง จนสามารถได้เงินกลับคืนมา 160,000 บาท ที่เหลือสาวเจ้าของบัญชีปลายทางบอก ”หมดแล้วยอมติดคุก” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 16 พ.ค. น.ส.จินตนา ประเสริฐสวัสดิ์ อายุ 26 ปี หลานสาว น.ส.เสาวณีย์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน ว่าเกิดอะไรขึ้น ทราบเพียงว่า น.ส.เสาวณีย์ ซึ่งเป็นป้าของตัวเอง ขี่ จยย.คันใหม่ มาหาที่บ้าน พร้อมบอกว่าให้หางานใหม่ให้ จึงบอกไปว่าจะหาให้ไม่ยาก ยอมรับไม่รู้มาก่อนว่า จยย.คันดังกล่าวได้จากการยักยอกเขามา
ส่วนเรื่องที่ดินที่เคยอ้างกับสามีว่า เงินที่ได้มาทั้งหมดมาจากการขายที่ดินมรดก จริงๆ แล้ว ป้าไม่มีที่ดินและไม่มีมรดกใดๆ เพราะพ่อแม่เสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นตนก็ได้ทักไปหาป้า ป้าบอกว่าคืนเขาไปหมดแล้ว ส่วน จยย.คาดว่าป้าคงยังใช้อยู่ เพราะป้าภูมิใจที่ได้รถคันนี้มามาก