เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันให้ความสนใจ และวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในขณะนี้ สำหรับกรณีดราม่าอีกครั้งของแม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง “พิมรี่พาย” หลังจากที่ได้เข้าไปช่วยเหลือคุณส้ม อาชีพขายของออนไลน์และขายของในตลาด ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อสลาย โดยภายหลังเธอได้ร้องขอคืนของ สินค้าที่ทิ้งไป ซึ่งทาง พิมรี่พาย ได้ออกมาตอบกลับดราม่าดังกล่าว พร้อมงัดหลักฐานเบี้ยวกายภาพบำบัด ปฏิเสธรักษา แถมคุณส้มยังอ้างว่า ถูกเปิดรับบริจาคตัดหน้าด้วย

ซึ่งต่อมา คุณส้ม สาวติดเตียง ได้แชร์คลิปของพิมรี่พายลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความที่ตอบกลับกรณีที่แม่ค้าออนไลน์ชี้แจง โดยเธอระบุว่า “ขอบคุณที่ออกมาพูดแต่การเก็บของกับการเอาของไปมันไม่ตรงกันเลยนะจ้ะ และการที่หมอมานี่ตรงกันข้ามเลยนะ (หมอนี่เก่งอ่ะ) ความจริงคือความจริงนะ ไม่มีใครอยากโกหกแน่นอน” ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊ก ขนส่งสินค้า ขนของ ย้ายบ้าน ย้ายสำนักงาน ทำความสะอาด by กล้ากิจจ์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นเพจของบริษัทที่เข้าไปทำความสะอาดให้กับคุณส้ม ได้ออกมาเล่าเหตุการณ์วันนั้น โดยระบุข้อความว่า “#พิมรี่พาย #คุณส้ม ในเคสนี้ของคุณส้ม มีการกล่าวพาดพิง ถึงบริษัทและทีมงานที่รับทำความสะอาด ซึ่งเคสนี้ทาง บริษัท กล้ากิจจ์เอ็กซ์พลัสทรานสปอร์ต จำกัด ในเครือ กล้ากิจจ์ กรุ๊ป #KEPT ว่าเป็นผู้ทำให้เกิดความเสียหาย และ มีการนำของไปจะด้วยหมายความถึงการเอาไปทิ้งหรือจะเป็นการนำกลับมาใช้เองก็ดี จึงขออนุญาตชี้แจงผ่านช่องทางนี้ ถึงกรณีปัญหาเคสการทำงานดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ในนามผู้บริหารบริษัทและทีมงาน ปกติไม่เคยคิดบูลลี่ ลูกค้า คนป่วย คนพิการ แต่เคสนี้ขอยืมคำพูดพิมรี่มาหน่อยว่า “ของคุณส้มถึงเอาไปก็ใช้อะไรไม่ได้ครับ”

ซึ่งในการทำงานวันนั้นทีมงานเราได้รับมอบหมายให้คัดสรรแยกของใช้ที่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้กับพวกซากของใช้ซากอาหารที่เน่าเสียให้แยกเคลียร์นำไปทิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเป็นเสื้อผ้าของใช้ที่อยู่ในสภาพพอใช้งานได้ทางทีมงานเราไม่มีความจำเป็นต้องนำออกไปทิ้งแต่อย่างใด จะทำการเก็บส่วนหนึ่งเข้าตู้และส่วนหนึ่งเก็บพับใส่ถุงไว้ให้

ซึ่งสิ่งที่ทีมงานทำการคัดแยก และ จะนำออกไปทิ้งส่วนใหญ่จะเป็นขยะเปียกของบูดเน่า หรือ ถ้ามีส่วนของเสื้อผ้าก็จะเป็นชุดที่อยู่ในสภาพไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ซึ่งเป็นส่วนน้อยมาก แต่กระนั้นทุกขั้นตอนก็จะมีคุณแม่คุณส้มเป็นผู้ประกบคอยรื้อออกมาอีกครั้ง จนไม่สามารถเอาอะไรลงไปทิ้งได้เลยเนื่องจาก ของทุกชิ้นรวมถึงขยะที่เราจะขนไปทิ้ง จะถูกคุณแม่คุณส้มตามเบรกและให้ยกกลับมาไว้ที่เดิม ทำให้การทำงานในวันนั้นเป็นไปด้วยความล่าช้าและยากลำบาก

ทางเราและทีมงานจึงประสานถึงคุณพิมรี่พาย ซึ่งสามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนว่าให้ตามใจคุณแม่คุณส้มโดยจะเปิดห้องข้างๆให้นำของไปเก็บไว้แทนและจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้เองตามที่คุณพิมรี่พาย ชี้แจงในคลิป

ซึ่งหากทางคุณส้มยังไม่หยุดการกล่าวอ้างและออกมายอมรับชี้แจง ถึงกรณีพาดพิงว่าทีมงานที่ทำความสะอาดวันนั้นเป็นผู้นำของใช้ไป จนเป็นเหตุให้ต้องเรียกร้องค่าความเสียหายกับทางคุณพิมรี่พาย ทางเราจะรวบรวมหลักฐานที่มีและทำการดำเนินคดี ในส่วนที่เป็นการหมิ่นประมาทพาดพิงทำให้บริษัทเราเสียชื่อเสียง ในกระบวนการต่อไป”..