เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ รร.วัดดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วย นายพนาวุฒิเดช ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 3 เขตดอนเมือง พรรค ทสท. ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจคณะครูอาจารย์ และพบปะกับผู้ปกครอง รวมถึงน้องๆ นักเรียน ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของรร.ในสังกัดกรุงเทพมหานคร

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ตนได้สอบถามถึงปัญหาการศึกษา ปัญหาค่าใช้จ่าย ความพร้อมในการเปิดภาคเรียนกับบรรดาผู้ปกครองที่มาส่งบุตรหลาน ในช่วงเช้าวันนี้ ย้ำว่าการพัฒนาคนและการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ซึ่งทีมผู้ว่าไทยสร้างไทยให้ความสำคัญ เราจึงสร้างนโยบาย รร.ดีใกล้บ้าน ขึ้นมาเพื่อผลักดันการพัฒนาระบบการศึกษารร.ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมให้เกิดขึ้นจริงในทุกพื้นที่ ทำให้ รร.ทุกแห่งมีมาตรฐานเดียวกัน ทั้งทางโภชนาการและความรู้ มีการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกลับโลกสมัยใหม่ รวมถึงมีนักโภชนาการตรวจสอบคุณภาพอาหารกลางวัน ไม่ใช่การเสนอเชิงอุดมคติ เหมือนกับผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านมา ที่ต้องการความเป็นเลิศทางวิชาการแบบเลื่อนลอยเท่านั้น เพราะยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอยู่ ทั้งในเรื่องโอกาสและมาตรฐานของสถาบันแต่ละแห่ง จึงต้องสร้างโรงเรียนทุกแห่งให้มีมาตรฐานทัดเทียมกัน

การสร้าง รร.ใกล้บ้านให้เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุด ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้แก่กลุ่มเปราะบาง อาทิ การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอนใน รร.สังกัด กทม. ไม่ว่าจะเป็นการเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา และ E-Learning นักเรียนสามารถเรียนรู้ทักษะอื่นนอกห้องเรียน โดยไม่ต้องเสียเงินเพื่อเรียนพิเศษ เช่น ทักษะด้าน คอมพิวเตอร์ โปรแกรมมิ่ง การทำอาหาร เริ่มต้นธุรกิจค้าขายออนไลน์ หรือการเรียนดนตรี เนื้อหาที่สอนควรเป็นเนื้อหาของโลกอนาคต สอนภาษาอังกฤษ จีน ใน รร.กทม.โดยเจ้าของภาษาด้วยการประสานความร่วมมือกับเมืองพี่เมืองน้องของ กทม.ทั่วโลกปรับเวลาเรียนให้มีทั้งออนไลน์ และออนไซต์ เพื่อแก้ความเหลื่อมล้ำของการเรียน นักเรียนใช้อินเทอร์เน็ตฟรี มีการพัฒนา E-Learning Platform ของกรุงเทพฯ ให้ทันสมัย ตอบโจทย์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมปรับปรุงหลักสูตรโดยเน้นให้เด็กรู้จักตนเองเร็วที่สุด รู้การหาความรู้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ และรู้จักปรับตัวเข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง

“รร.ต้องสอนทักษะชีวิต โรงเรียนกีฬาต้องมี เราต้องทำให้เด็กเป็นพลเมืองของโลก ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ระบบการบริหารจัดการงบประมาณและประเมินคุณภาพ ต้องให้ประชาชนร่วมคิดร่วมทำ มีสิทธิประเมินเลื่อนลดปลดย้ายข้าราชการได้ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญ นำไปสู่การยกระดับการศึกษาของประเทศได้อย่างก้าวกระโดด และสร้างให้โรงเรียนที่ใกล้บ้านคือ รร.ที่ดีที่สุดของชุมชนเป็นจริงได้” น.ต.ศิธา กล่าว.