ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เสด็จไปทรงเปิดอาคารศูนย์ไซโคล ตรอนและเพทสแกนแห่งชาติส่วนต่อขยาย เปิดตัวเครื่องดิจิทัลเพทซีที รุ่น Biograph Vision 600 Edge และทอดพระเนตรการให้บริการของศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยมีคณะผู้บริหารราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้บริหารและบุคลากรของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เฝ้ารับเสด็จฯ

โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และรองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงชนิสา โชติพานิช รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ เข้าเฝ้าถวายสูจิบัตร และกราบทูลถวายรายงานโครงการจัดสร้างอาคารศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติส่วนต่อขยาย

ทั้งนี้ ศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ก่อตั้งขึ้นจากพระปณิธาน และพระวิสัยทัศน์ใน สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในปีพุทธศักราช 2549 ด้วยทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการวางรากฐานการดำเนินงานด้านการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีสร้างภาพวินิจฉัยในระดับโมเลกุลทางเวชศาสตร์นิวเคลียร์ที่นับเป็นการยกระดับความก้าวหน้าไปอีกขั้นในวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์ไทยในช่วงเวลานั้น โดยเป็นหน่วยงานที่มีการนำเครื่องไซโคลตรอนและเครื่องเพทสแกนเพื่อใช้ในการตรวจวินิจฉัยทางมะเร็งวิทยา ประสาทวิทยา และหทัยวิทยา โดยมุ่งหวังที่จะให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงเป็นสถานที่วิจัยทางด้านวิชาการเพื่อหาองค์ความรู้ใหม่ทางด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ และถ่ายทอดองค์ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

การนี้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายอาคารศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติส่วนต่อขยาย ซึ่งอาคารแห่งนี้ออกแบบเพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับงานผลิตสารเภสัชรังสีซึ่งต่อเติมมาจากอาคารศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติเดิม โดยแบบแปลนการก่อสร้างได้รับการอนุมัติจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้เป็นสถานที่การผลิตยา มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 2 ชั้น ประกอบด้วย พื้นที่ชั้น 1 เป็นส่วนปฏิบัติการผลิตสารเภสัชรังสี ซึ่งติดตั้งเครื่องไซโคลตรอน พร้อมระบบควบคุมเครื่อง และเครื่องมือวิเคราะห์ที่ใช้ในการควบคุมคุณภาพ ชั้น 2 เป็นพื้นที่ติดตั้งเครื่องมือของระบบสนับสนุนการผลิตต่างๆ เช่น ระบบปรับและระบายอากาศของห้องสะอาด เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง เป็นต้น

จากนั้น เสด็จเข้าภายในอาคารเพื่อทอดพระเนตรห้องไซโคลตรอนที่ติดตั้งเครื่องไซโคลตรอนเครื่องที่สองด้วยรุ่น HM-20S แบบ Self-shielded โดยมีกำลังการผลิตสารเภสัชรังสีที่สูงขึ้น และมีกำลังการผลิตไอโซโทปรังสีชนิดใหม่ได้หลากหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ในการใช้ค้นคว้าพัฒนาสารเภสัชรังสีชนิดใหม่ที่มีความเฉพาะเจาะจงต่อโรคเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำไปใช้ในการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเพทสแกนที่สร้างภาพการทำงานในระดับเซลล์ และมีความสำคัญต่อการช่วยในการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ สามารถช่วยวางแผนการรักษา รวมทั้งการติดตามผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย ณ ปัจจุบัน ศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ สามารถผลิตสารเภสัชรังสีเพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้มากกว่า 20 ชนิด

ต่อมา เสด็จฯทอดพระเนตรในส่วนพื้นที่สำหรับการสังเคราะห์สารเภสัชรังสี ซึ่งเป็นห้องสะอาดที่มีการควบคุมปริมาณอนุภาคฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน GMP PIC/S สำหรับการผลิตสารเภสัชรังสี และ ทรงร่วมกิจกรรมประกอบชุดคาสเซ็ท เพื่อเตรียมการสังเคราะห์สารและกดปุ่มเพื่อเริ่มต้นการผลิตสารเภสัชรังสี โดยในส่วนนี้มีการแยกพื้นที่สำหรับการสังเคราะห์สารเภสัชรังสีออกเป็นพื้นที่สำหรับผลิตสารเภสัชรังสีไอโซโทปค่าครึ่งชีวิตสั้น หรือ Short-lived hot lab และพื้นที่สำหรับผลิตสารเภสัชรังสีไอโซโทปค่าครึ่งชีวิตยาว หรือ Long-lived hot lab เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้ามระหว่างกัน และพื้นที่การผลิตแต่ละห้องจะมีการติดตั้งตู้ปฏิบัติการรังสีสูง หรือ Hot cells ซึ่งเป็นตู้ตะกั่วเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสีแก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีการควบคุมระดับความสะอาด ความดัน ให้เป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนี้ การขนส่งสารเภสัชรังสีสำหรับให้บริการแก่ผู้ป่วย ต้องบรรจุในภาชนะที่ปราศจากเชื้อ และบรรจุลงในถังที่มีเครื่องกำบังรังสี ที่มีการติดฉลากและติดป้ายกำกับทางรังสีตามมาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการกระจายยาตาม GDP และหลักการขนส่งวัสดุกัมมันตรังสีตามข้อกำหนดของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ

จากนั้น เสด็จฯ ขึ้นชั้น M เพื่อทอดพระเนตรพื้นที่การให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องเพทสแกนของศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ โดยบูรณาการสู่การเป็นศูนย์รวมนวัตกรรมด้านภาพวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจรในแห่งเดียว เปิดให้บริการตรวจแก่ผู้ป่วยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ทุกสิทธิการรักษา และผู้ป่วยที่ส่งตัวมาจากโรงพยาบาลทั่วประเทศ การนี้ เสด็จฯทอดพระเนตรห้องรับรองผู้ป่วย และการทำงานของเครื่องแบ่งสารเภสัชรังสีแบบอัตโนมัติ ซึ่งก่อนที่จะทำการตรวจด้วยเครื่องเพทสแกน ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการฉีดสารเภสัชรังสีเข้าทางหลอดเลือดดำ โดยใช้เครื่องแบ่งสารเภสัชรังสีแบบอัตโนมัตินี้ โดยเครื่องจะคำนวนปริมาณความแรงรังสีที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย พร้อมอุปกรณ์ฉีดสารเภสัชรังสีอัตโนมัติ เพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากรังสีให้กับผู้ปฏิบัติงาน

ถัดมาเสด็จฯทอดพระเนตรเครื่อง “PET/MRI Biograph mMR 3 Tesla” ที่เปิดให้บริการเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติของเครื่องที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างภาพวินิจฉัยเพื่อการตรวจรอยโรคขนาดเล็กและอวัยวะที่ซับซ้อนได้แม่นยำและถูกต้อง อาทิ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งตับ มะเร็งสมอง มะเร็งนรีเวช มะเร็งศีรษะและลำคอ พร้อมเสด็จฯทอดพระเนตรเครื่อง “Digital PET/CT Biograph Vision 600 Edge” ที่เริ่มเปิดให้บริการเป็นเครื่องแรกในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี พ.ศ. 2565 นี้ เพื่อนำมาเสริมประสิทธิภาพและรองรับการให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ลดระยะเวลาในการรอคอยให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการวางแผนการรักษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับ ศูนย์ไซโคลตรอนและเพทสแกนแห่งชาติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการตรวจรักษาที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานอย่างเท่าเทียม โดยสามารถเบิกจ่ายตรงตามสิทธิการรักษา รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าบริการเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการได้มากที่สุด อาทิ การตรวจวินิจฉัยโรคทางระบบประสาทด้วยเครื่องเพทซีทีราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท ตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งด้วยเครื่องเพทซีที ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท และเครื่องเพทเอ็มอาร์ไอ เริ่มต้นที่ 25,000 บาท โดยผู้ป่วยสามารถนัดหมายผ่านทาง LINE @petscanchulabhorn หรือโทรฯนัดหมายที่เบอร์ 09-6091-8369 ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน.