เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 18 พ.ค.ที่ลานสถานีบริการน้ำมันปตท. ซอยบางขุนเทียน 14 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)จัดปราศรัยใหญ่ “ทีมสุชัชวีร์ #เราทำได้”ครั้งที่ 2 เพื่อรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก. พรรคปชป. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 4 พรรค ปชป.พร้อมด้วยคณะผู้สมัครส.ก. 6 เขตในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ผู้สมัครส.ก. เขตบางขุนเทียน, ผู้สมัครส.ก. เขตบางบอน, ผู้สมัครส.ก. เขตหนองแขม, ผู้สมัครส.ก.เขตราษฎร์บูรณะ,ผู้สมัครส.ก. เขตทุ่งครุ, ผู้สมัครส.ก. เขตจอมทองสลับขึ้นปราศรัยบนเวที

นายสุชัชวีร์ ปราศรัยช่วงหนึ่งว่ากรุงเทพฯมีปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุนและน้ำทะเลกัดเซาะ แม้จะมีการไปปลูกป่าโกงกางบริเวณป่าชายเลน แต่มักพบว่าในวันรุ่งขึ้นไม้ที่ถูกปักไว้เหล่านั้นถูกคลื่นทะเลซัดไปหมด เพราะกทม.ใช้ไม้ไผ่ในการปลูก ซึ่งถ้าเรายังทำแบบเดิมพื้นที่บางขุนเทียนจมน้ำแน่นอน ทั้งนี้ ตนตั้งใจเอาความรู้และประสบการณ์ความสามารถทั้งหมดมาเริ่มต้นทำโครงการป้องกันน้ำทะเลหนุนและน้ำทะเลกัดเซาะพื้นที่บางขุนเทียน เพื่อไม่ให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ และลูกหลานของเราต้องจมน้ำแต่ถ้าเราไม่ทำโครงการดังกล่าวในพื้นที่ตรงนี้จะทำให้ส่งผลลุกลามไปถึงพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังต้องแก้ปัญหาน้ำเน่าในคลองฝั่งธนบุรีอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าแต่ละคนจะมีวิธีการพิจารณาในการเลือกตั้งอย่างไร จะมีวิธีวิเคราะห์แบบไหนก็ตาม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือวันนี้ผู้ว่าฯกทม.ไม่ใช่นักการเมือง แต่ต้องเลือกผู้ว่าฯกทม.ที่เป็นนักแก้ปัญหาของเมือง และการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือการแก้ปัญหาด้วยความรู้

“ผมสุชัชวีร์มาพร้อมกับความรู้ที่แม่นเป๊ะ ผมมาพร้อมกับประสบการณ์ที่ทำมาทั้งชีวิต ทั้งในด้านวิศวกรรม ด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านการเปลี่ยนแปลงองค์กรผมมาพร้อมกับวิสัยทัศน์ การเปลี่ยนกรุงเทพฯเป็นมือสวัสดิการที่ทันสมัยเป็นเมืองที่เป็นต้นแบบของอาเซียน มุ่งมั่นทำได้จริง นอกจากนี้ ผมมาพร้อมกับความชัดเจนของ ส.ก.พรรคประชาธิปัตย์ 50 เขต 50 คน ดังนั้นวันที่ 22 พ.ค. เข้าคูหากาเบอร์ 4”นายสุชัชวีร์ กล่าว.