สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ว่า พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐ กล่าวถึงนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาลวอชิงตันที่มีต่อไต้หวัน “ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” คำกล่าวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน คือการย้ำจุดยืนและความมุ่งมั่นของสหรัฐ ที่มีต่อเสถียรภาพและสันติสุขของช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนพันธกิจของสหรัฐตามกรอบของกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน เพื่อให้ความสนับสนุนแก่รัฐบาลไทเป ในการป้องกันตนเอง
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวในช่วงหนึ่งระหว่างการปฏิบัติภารกิจ ในกรุงโตเกียว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลวอชิงตันยึดมั่นแและปฏิบัติตามหลักการจีนเดียว ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร
อย่างไรก็ตาม หากมีความพยายามใช้มาตรการทางทหารต่อไต้หวัน แน่นอนย่อมเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปทั้งภูมิภาค แบบเดียวกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน ณ เวลานี้ และสหรัฐ “พร้อมมีส่วนร่วมทางทหาร” ในกรณีที่ไต้หวันตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวจริง
ขณะที่ นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลปักกิ่ง “ไม่มีพื้นที่สำหรับการประนีประนอมและการเจรจา” ประเด็นใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเอกราชและบูรณภาพแห่งดินแดน
อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อต้นเดือนนี้ จีนแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อสหรัฐ กรณีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแก้ไขข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับ “สถานะ” ของไต้หวัน โดยลบประโยคที่ระบุว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน”
ด้านนายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยืนยันว่า รัฐบาลวอชิงตันยังคงให้การยอมรับ “รัฐบาลในกรุงปักกิ่ง” คือ “รัฐบาลเดียวของจีน” ส่วนการปรับเปลี่ยนข้อมูลที่เกิดขึ้น เป็นเพียง “การเพิ่มความทันสมัย” เท่านั้น สหรัฐจึงขอให้จีนแสดงออกอย่างรับผิดชอบ และอย่าเพิ่มแรงกดดันให้แก่ไต้หวัน.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
