สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ลงพื้นที่เมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันอาทิตย์ เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจทหารซึ่งประจำการอยู่ในแนวรบแดนหน้า นับเป็นการปรากฏตัวนอกกรุงเคียฟอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเซเลนสกี นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา


ปัจจุบัน ประมาณ 31% ของพื้นที่ในเมืองคาร์คิฟ อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย และกองทัพยูเครนกระชับพื้นที่คืนได้แล้วประมาณ 5%

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี สนทนากับชาวเมืองคาร์คิฟ


ด้านนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบในภูมิภาคดอนบาสของยูเครน “เป็นความสำคัญที่ไม่มีเงื่อนไข” สำหรับรัฐบาลมอสโก โดยเฉพาะ “การปลดปล่อย” ภูมิภาคโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งการสู้รบทวีความรุนแรงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว

ภาพถ่ายมุมสูง เผยให้เห็นความเสียหายของเมืองคาร์คิฟ


ขณะเดียวกัน ลาฟรอฟกล่าวถึงภูมิภาคแห่งอื่นของยูเครนด้วยว่า ประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นควรตัดสินใจอนาคตด้วยตัวเอง ว่ายังต้องการอยู่ภายใต้การปกครองของ “รัฐบาลนีโอนาซี” ที่คอยบ่มเพาะและปลูกฝัง “ความหวาดกลัวรัสเซีย” ต่อไปหรือไม่


ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ระบุว่า สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียซึ่งล่วงเข้าสู่เดือนที่ 4 ส่งผลให้ชาวยูเครนมากกว่า 6.7 ล้านคน ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ.

เครดิตภาพ : REUTERS