สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ว่าสืบเนื่องจากเหตุระเบิดโจมตีเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม "เมอร์เซอร์ สตรีท" ติดธงชาติไลบีเรีย บริหารงานโดยบริษัทโซดิแอกของอิสราเอล ระหว่างกำลังแล่นอยู่ในทะเลนอกอาณาเขตของโอมาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เป็นลูกเรือชาวสหราชอาณาจักรและชาวโรมาเนีย ขณะที่เบื้องต้นสำนักงานความปลอดภัยทางทะเลของโอมานให้ความเห็นว่า "เป็นพฤติกรรมต้องสงสัยของกลุ่มโจรสลัด" นั้น
นายยาอีร์ ลาพิด รมว.การต่างประเทศของอิสราเอล กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่าอิหร่านไม่เพียงแต่เป็น "ปัญหา" ของอิสราเอล แต่การที่รัฐบาลเตหะราน "ส่งออกผู้ก่อการร้าย" เป็นการทำลายล้างและบ่อนทำลายเสถียรภาพ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาคมโลกทั้งหมด รวมถึงเสรีภาพด้านการเดินเรือบรรทุกสินค้าในเขตน่านน้ำสากล จากในกรณีนี้ด้วย และรัฐบาลเทลอาวีฟจะไม่มีทางเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
UPDATE: Israel FM Yair Lapid calls for harsh response to attack on ship off Oman, says "Iran is not just an Israeli problem, but an exporter of terrorism that harms the entire world" pic.twitter.com/AWMh9pex1q
— TRT World Now (@TRTWorldNow) July 30, 2021
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ ต่อคำกล่าวหาของอิสราเอล อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานว่า การโจมตีต้องสงสัยเกิดขึ้นจากโดรนติดอาวุธ ครั้งแรกพลาดเป้า จึงมีการโจมตีอีกครั้ง และในคราวนี้โดนบริเวณสะพานเดินเรือ ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีควบคุม จึงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของรัฐบาลสหรัฐและอีกหลายประเทศในยุโรป ให้ความเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้
ในอีกด้านหนึ่ง สถานีโทรทัศน์อัล อลัม ของอิหร่าน รายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือเมอร์เซอร์ สตรีท ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางจากแทนซาเนียไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) "เป็นการตอบโต้" ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านั้น โดยฝูงเครื่องบินรบต้องสงสัยเป็นของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ ) ที่สนามบินในเมืองดารา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย.
เครดิตภาพ : AP