สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่าจากกรณีกองทัพออสเตรเลียเปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่เจ-16 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) บินเข้ามาในระยะประชิดกับเครื่องบินสอดแนมพี-8 โพไซดอน ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนตามแผนการ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมานั้น


นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ผู้นำออสเตรเลีย กล่าวเพิ่มเติม เมื่อวันพุธว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่เครื่องบินของออสเตรเลียกำลังลาดตระเวนอยู่ในเขตน่านฟ้าสากล แต่เครื่องบินของจีน “กระทำการอันเป็นอันตรายอย่างมาก” คือการใช้วิธีปล่อย “เป้าลวง” ซึ่งเป็นพลุทำจากอะลูมิเนียมหรือสังกะสี นิยมใช้เพื่อก่อกวนการยิงขีปนาวุธของฝ่ายตรงข้ามให้คลาดเป้าหมาย


อย่างไรก็ตาม นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่าเครื่องบินของกองทัพออสเตรเลีย “เจตนาก่อกวน” ด้วยการเข้ามาใกล้กับหมู่เกาะพาราเซล ในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนเรียกว่า เกาะซีซา อากาศยานของพีแอลเอจึงต้องดำเนินการตามหน้าที่ เพื่อให้เครื่องบินที่รุกล้ำเข้ามาเดินทางออกไป


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เครื่องบินพี-8 โพไซดอน ของกองทัพอากาศออสเตรเลียเผขิญหน้ากับเรือรบ 2 ลำของพีแอลเอ ในเขตน่านฟ้าทางเหนือของของออสเตรเลีย หรือบริเวณเขตต่อเนื่องทางทะเล ระหว่างทะเลอาราฟูรา กับชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของปาปัวนิวกินี โดยออสเตรเลียกล่าวหาเรือรบจีน “ก่อกวน” ด้วยการยิงเลเซอร์

ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งตอบโต้ว่า ออสเตรเลีย “พูดจริงครึ่งเดียว” และกล่าวว่า เครื่องบินพี-8 โพไซดอน หย่อนทุ่นต่อต้านเรือดำน้ำแบบโซนาร์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจหาเรือดำน้ำ ใกล้กับเรือรบทั้งสองลำ คือเรือพิฆาตติดตั้งระบบขีปนาวุธชั้นลู่หยาง และเรืออู่ลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบกชั้นอวี๋โจว.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES